เมื่อกล่าวถึงความมั่งคั่งเราคิดถึงอะไร?

เราอาจจะนึกถึง เสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องประดับหรูหรา รถยนต์ป้ายแดงหรือบ้านหลังโต แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเสมอไป

จากการสำรวจชื่อ “Modern Wealth Survey” ของ Charles Schwab บริษัทด้านการลงทุนในอเมริกาพบว่าคนอเมริกาส่วนใหญ่รู้สึกว่าความมั่งคั่งคือการมีความสุขกับประสบการณ์ต่างๆ ไม่เครียดเรื่องเงิน และมีความสมดุลในหน้าที่การงาน (Work-Life Balance) มากกว่าแค่การมีของแพงๆ ร่ำรวยกว่าคนอื่นและการหาเงินให้ได้เยอะมากที่สุด

เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีมากมายมหาศาลหรือต้องใช้ชีวิตอย่างเศรษฐีถึงจะรู้สึกถึงชีวิตที่มั่งคั่ง ตราบใดที่มี 3 อย่างนี้ในชีวิต

1.เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ชีวิตมากกว่าวัตถุ

70% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าความมั่งคั่ง คือการเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ชีวิต มีความสุขไปกับสิ่งที่รักหรือการมีเวลาลองทำสิ่งใหม่ เพื่อมองหาสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขไปกับมัน การเรียนรู้และเข้าใจในตัวเองจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

ไม่ว่าเป็นการท่องเที่ยวในวันหยุด การได้ลองอาหารใหม่ๆ แม้กระทั่งการได้พักผ่อนจากการทำงาน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้เราได้เติมพลังงานให้กับชีวิต

สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เราเติมเต็มและมีความสุข

เอจา อีแวนส์ (Aja Evans) ที่ปรึกษาด้านสุขภาพผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดทางการเงินให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CNBC ว่า

“สิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขอาจจะเป็นการท่องเที่ยว แต่มันต้องมีป็นยังไงและทำไมต้องเป็นการท่องเที่ยวด้วย? มันเหมือนการปอกหอมออกไปทีละชั้นๆ เพื่อจะได้รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้คุณมีความสุข”

คุณอาจจะถามตัวเองว่าทำไมเดินทางแล้วถึงมีความสุข? ประสบการณ์ที่ได้พบเจอคนใหม่ๆ อาหารอร่อยๆ หรือเป็นการวางมือจากงานที่ทำอยู่ การเติมพลังงานให้กับชีวิต หรือเป็นการใช้เวลากับครอบครัว คนรัก?

เมื่อคุณรู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อหาความสุข จะพบว่าจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินราคาแพง คุณสามารถทำสิ่งที่ทำให้มีความสุขได้ในราคาที่เหมาะสมกับตัวเอง และทำได้บ่อยๆ ด้วย

2.อย่ามัวแต่กังวลว่าใครจะรวยกว่าคุณ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนมักเปรียบเทียบตนเองกับบุคคลรอบข้าง จนหลุดไปโฟกัสว่าการมีเงินมากกว่าคนอื่นคือสิ่งที่สำคัญ

การสนใจคนรอบข้างมากเกินไปสร้างความรู้สึกอิจฉา ต้องการที่จะเป็นเหมือนคนอื่น จนบางครั้งทำอะไรที่เกินความจำเป็นของตัวเองและต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินไป

เช่น การเห็นภาพบรรยากาศการแต่งงานที่หรูหราบนแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วรู้สึกอยากได้แบบนั้น ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมระหว่างรายได้ว่าส่วนนี้จะไม่กระทบกับความมั่นคงการเงินของคุณหรือไม่

กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าการไม่ต้องมานั่งเครียดเกี่ยวกับเงินในชีวิตนั้นมีความหมายมากกว่าการมีเงินมากกว่าผู้อื่น

การมีความมั่นคงทางการเงินและการไม่ต้องกังวลเรื่องเงินตลอดเวลาสามารถนำไปสู่ความสุขและชีวิตที่เครียดน้อยกว่า พอถึงจุดหนึ่งที่เรามีเงินเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิต การมีเงินมากขึ้นก็ไม่ได้รับประกันความสุข และความสบายใจที่มากขึ้นตามไปด้วย

เงินเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพชีวิต การได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้น ทำให้คุณรู้สึกถึงความมั่งคั่ง และอาจช่วยคุณลดความเครียดเรื่องการเงินลงไปได้บ้าง

แต่อย่างไรก็ตาม ยิ่งรายได้เพิ่มขึ้น คุณยิ่งต้องวางแผนการใช้เงินให้บาลานซ์กันทั้งรายรับและรายจ่าย ต้องจัดการเงินได้อย่างเหมาะสมด้วย

3. การมีสมดุลการทำงาน (Work-Life Balance) สำคัญกว่าการหาเงินให้ได้มากที่สุด

โลกในจินตนาการเราอาจจะมีงานที่รายได้สูงและมาพร้อมกับความสมดุลระหว่างการทำงาน เพียงแต่น้อยครั้งนักที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น แต่ถ้าให้เลือกระหว่างสองอย่าง 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าการมีสมดุลการทำงานกับชีวิตที่ดีนั้นสำคัญกับพวกเขามากกว่าการหารายได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เราต้องลองกลับมาสำรวจตัวเองอีกครั้งว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบหรือไม่ชอบในงานที่ทำอยู่ คุณได้เงินน้อยไปเหรอ คุณทำงานมากไปรึเปล่า?

ทำไมการหยุดพักถึงรู้สึกดี? เพราะคนได้นอนอยู่เฉยๆ ข้างชายหาด หรือเพราะคุณรู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงานที่องค์กรนี้อยู่?

การเลือกงานที่เหมาะสมทั้งรายได้และการทำงานจะช่วยให้คุณมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น คุณอาจจะรับเงินน้อยลงเพื่อให้มีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นขึ้น เพราะที่ผ่านมาทำงานหนักอย่างต่อเนื่องจนผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะสุขภาพกาย สุขภาพจิต หรือทำให้ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลง

หรือบางทีอาจจะหางานที่คุณทำแล้วมีความสุขมากกว่านี้ แม้จะเป็นการทำงานที่หนักขึ้นอีกสักหน่อย แต่ตอบโจทย์ชีวิตและความท้าทาย เราต้องหาให้เจอว่างานแบบไหนที่สำคัญสำหรับเรา

การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณ แม้ว่าการหาเงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจัดลำดับความสำคัญของเวลาสำหรับการพักผ่อน ครอบครัว และการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวก็สำคัญไม่แพ้กัน

สุดท้ายความมั่งคั่งไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาแพงเพื่อให้ได้ความสุขมาเสมอไป การที่เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำหรือสนใจ ในขณะเดียวกันก็ต้องบริหารการเงินให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต เพื่อจะได้ลดความกังวลเกี่ยวกับการเงินออกไป เพราะเมื่อไหร่ที่ความเครียดน้อยลง เมื่อนั้นความสุขจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วครับ