เห็นทาง Blog อภินิหารเงินออม เล่าให้ฟังในเรื่องของเงินออมที่ควรมีไว้ในปีนี้ จริงๆถ้าผมมองว่าเงินออมนั้นสามารถต่อยอดไปในการลงทุนได้ มันก็อาจจะไม่ใช่แค่การลงทุนในหุ้นเท่านั้นนะครับ ผมว่าเรามีทางเลือกในการลงทุนเยอะเลยล่ะ ทั้งการลงทุนที่เป็นการเงินและไม่ใช่การเงิน ลองมาดูนะครับว่าเราจะแบ่งเงินออมไปต่อยอดให้เป็นเงินลงทุนอะไรได้บ้าง
1. ลงทุนเพื่อความรู้ของตัวเอง
การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับตัวเอง ผมว่าประโยคนี้เป้นจริงแท้แน่นอนนะครับ การที่เรามีความรู้มากยิ่งขึ้นจะทำให้เราสามารถพัฒนาศักยภาพของชีวิตให้ทำอะไรได้ดีมากขึ้น มีความสามารถหลากหลายมากขึ้น และแน่นอนว่าหากเรามีความแตกต่างกับคนอื่นแล้วก็ย่อมมีโอกาสในหน้าที่การงานมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก ซึ่งมันก็จะต่อยอดไปในเรื่องของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นได้ หรือหากเราทำงานอิสระก็ย่อมนำความสามารถของเราไปใช้ในการกำหนดค่าตัวของเราให้มากขึ้นได้ การลงทุนแบบนี้ก็ขอยกตัวอย่างนะครับ
- เรียนภาษา : ลองเอาเงินที่มามาลงเรียนภาษาเพิ่มเติมดูนะครับ เช่น ภาษาอังกฤษ (จำเป็นที่สุด) หรืออาจจะเรียนภาษาอื่นๆที่เรามองว่าน่าจะสามารถใช้ประโยชน์ในการทำงานในอนาคตได้ และถ้าภาษานั้นเป็นภาษาที่เราชอบด้วยก็ยิ่งดีเลย เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ที่มีนักธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเยอะมากและอาจจะเป็นภาษาในกลุ่มประเทศ AEC ก็ได้นะครับ ภาษาเวียดนาม พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ซึ่งอาจจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นหลังจากที่มีจากการรวมกลุ่มเป็นประชาคมอาเซียน
- เรียนงานวิชาชีพ : บางคนอาจจะชอบไปเรียนการทำขนม ทำอาหาร ทำสลัด หรือไปเรียนงานที่เสริมสร้างทักษะอาชีพให้กับตัวเองได้ ผมเห็นหลายคนเลยนะครับ ลงทุนไปเรียนบางอย่างที่เขาชื่นชอบและสุดท้ายก็นำมาเป็นวิชาชีพในการหารายได้เสริมจนสามารถประกอบกิจการเป็นธุรกิจส่วนตัวได้ในอนาคตครับ นอกจากนี้การเรียนเพื่อพัฒนาวิชาชีพของตัวเองอาจจะต่อยอดในส่วนของการเรียนในระดับที่สูงขึ้นเช่น เรียนเพื่อได้ใบกระกอบวิชาชีพหรือเรียนเพื่อให้ปริญญาที่สูงขึ้น
2. ลงทุนเพื่อประสบการณ์ของตัวเอง
ประสบการณ์ดีๆหลายๆครั้งหาไม่ได้ในห้องเรียนนะครับ เราจะต้องหาภายนอกด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายที่อยากไปและไม่เคยไปมาก่อนว่าเป็นอย่างไร เราจะได้เรียนชีวิตของการเป็นอยู่ของสังคมหลายๆแบบและสามารถนำวิธีคิดและมุมมองของคนในแต่ละที่มีต่อยอดและพัฒนาความคิดของเราได้นะครับ อย่างตัวผมเองก็ชอบท่องเที่ยวนะ อย่างฝรั่งก็มีความคิดแบบหนึ่ง ทางเอเชียก็มีความคิดอีกแบบหนึ่ง แม้กระทั่งไปในต่างจังหวัดที่เราไม่ได้อยู่ก็จะมีความคิดอีกแบบหนึ่ง ซึ่งผมก็พยายามเอาจุดดีของหลายๆที่มาดูว่าตรงไหนน่าจะเอามาใช้บ้าง
3. เงินลงทุนกับสุขภาพและความงาม
สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ ตัวผมเองก็รู้สึกอ้วนๆอยู่ก็พยายามจะลดให่้ได้เช่นกันเพราะสุดท้ายการมีสุขภาพดีจะทำให้เราสามารถประหยัดเงินได้ไม่น้อยเลยล่ะ อย่างน้อยก็คือเราจะไม่ต้องเสียเงินในการรักษาตัวบ่อยๆและในสมัยนี้ค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ใช่ราคาถูกๆเลยนะครับ การลงทุนกับสุขภาพก็เป็นเรื่องหนึ่งเราน่าจะลองเอาไปพิจารณาดู ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับการกินอยู่ การออกกำลังกาย (ผมก็พยายามอยู่ครับ) และพักผ่อนให้เพียงพอ บางคนมองว่าเดี๋ยวค่าฟิตเนสราคาแพงจัง เราอาจจะไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นก็ได้หากเราไม่ได้มีการเงินที่เอื้ออำนวย ลองหารองเท้าดีๆและชุดดีๆซักหน่อยแล้วไปวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะก็ได้นะครับ ส่วนคนที่มีกำลังก็อาจจะไปเล่นในฟิตเนส นอกจากจะได้ออกกำลังแล้วยังมีโอกาสได้พบเพื่อนใหม่ๆเป็น connection ในการทำงานในอนาคตได้เช่นกัน ส่วนในเรื่องความงามนั้นหากใครลงทุนกับตรงนี้ได้มันก็อาจจะเป็นประโยชน์กับตัวเองเช่นกันนะครับ เดี๋ยวนี้เรื่องบุคคลิคและหน้าตาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะทำให้เราสามารถมีอนาคตในหน้าที่การงานมากขึ้น ถือเป็นส่วนเสริมจากความสามารถเลยล่ะ
4. ลงทุนกับการสร้างทรัพย์สินให้เพิ่มขึ้น
อย่างที่ทุกคนทราบนะครับว่าเราเองมีเวลาทำงานอย่างจำกัดแต่ต้องเงินเกินครึ่งชีวิตไปใช้ในบั้นปลาย การสร้างทรัพย์สินให้ตัวเองเกิดความมั่งคั่งนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก หลายคนมาถามผมว่าควรจะเริ่มอย่างไรและเริ่มเมื่อไหร่? จริงๆแล้วผมว่าการเริ่มสร้างทรัพย์สินให้กับตัวเองนั้นควรเริ่มให้เร็วที่สุดครับ อย่างถ้าเป็นเด็กๆแล้วผมจะสอนให้ออมเงินไว้เยอะๆ ส่วนคนที่ทำงานแล้วก็สามารถนำเงินไปต่อยอดในการลงทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ ฯลฯ ตามความเสี่ยงที่เหมาะสมกับเราในแต่ละช่วงอายุ และลงทุนไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีเงินใช้ในยามเกษียณ วิธีง่ายๆที่ผมจะแนะนำเสมอก็คือการแบ่งเงินออมมาเป็นเงินลงทุนซึ่งกำหนดให้ลงทุนเป็นประจำ เช่นรายเดือน รายไตรมาสหรือรายปี (อยู่ที่แต่ละคนนะครับ) แต่ยังไงก็ตามก็ควรจัดสรรการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อทรัพย์สินที่เราลงทุนไปนั้นมีการเติบโต มูลค่าเพิ่มขึ้น ก็ยอมทำให้เราสามารถสร้างความมั่งคั่งได้มากขึ้นเช่นกัน
5. การลงทุนเพื่อให้ครอบครัวมีความสุขและสังคมดีขึ้น
หนึ่งในการลงทุนที่ดีสำหรับคนที่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรก็คือการนำไปใช้ในการสร้างกุศล ตัวอย่างเช่นการนำไปตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินท่านบ้าง พาท่านไปเที่ยวบ้าง ไปทานอาหารอร่อยๆบ้าง นอกจากนั้นยังสามารถนำไปบริจาคได้เช่นกัน มีหลายโครงการนะครับที่นำเงินบริจาคของเราไปสร้างสรรสังคม ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปให้กับเด็กด้อยการศึกษา การสร้างธรรมชาติให้ยั่งยืน รวมไปถึงการสร้างสรรสังคมให้ดีขึ้นในแต่ละรูปแบบ สำหรับผมมองว่ามันคือการลงทุนให้กับสังคมเลยล่ะ เงินที่เรามีอยู่มันจะได้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น และสังคมต่อไป