เมื่อความรักของคู่รักสองคนเริ่มสุกงอมและยินยอมพร้อมใจทั้งชายและหญิงเข้าสู่ประตูวิวาห์ สิ่งสำคัญนอกจากความรักที่สุขงอมและลิสต์เพลงงานแต่งงานที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องเตรียมให้พร้อม นั่นคือ "ความพร้อมทางด้านการเงิน"

เชื่อว่าเรื่องของความพร้อมทางด้านจิตใจไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าฝ่ายชายตอบตกลงหรือขอแต่งงานเมื่อไร นั่นคือการตอบรับกลายๆว่าเขาพร้อมแล้วที่จะดูแลฝ่ายหญิงไปตลอดชีวิต หรือไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วแหละ!!! เหมือนกับเพลงที่ร้องว่า "เธอทำให้ฉันรู้ และ เข้าใจคำว่าสองเรา ไม่ว่าจะร้อน หรือ ว่าจะหนาวก็ไม่กลัว มีเธอที่รักข้างในจิตใจ . . . ให้ฉันก้าวเดินต่อไป ต่อจากนี้"

เอาล่ะครับ เมื่อตรวจสอบความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ ถึงวิธีการวางแผนแต่งงานแล้วบ้างว่า จะทำอย่างไรให้ประหยัดกันแบบสุดๆ เรียกได้ว่าได้ทั้งใจของผู้ใหญ่ และใจของคู่รักกันไปพร้อมๆกัน วันนี้เลยมีเคล็ดลับ 5 ข้อมาเล่าสู่กันฟังครับ

1. ตรวจสอบความต้องการของทั้งสองฝ่าย

ความพร้อมคือจุดเริ่มต้น แต่ความต้องการคือจุดจบ นั่นคือ เมื่อเรารู้ตัวว่าพร้อมแต่ง หลังจากนั้นเราต้องวางแผนแต่งงานต่อว่า แล้วเราต้องการอะไรบ้างในงานแต่งงานของทั้งคู่ จะวางแผนงานใหญ่ งานเล็ก งานน้อย หรูหราไฮโซ โก้เก๋โชว์พาวเวอร์ หรือแค่มีฉันกับเธอก็พอแล้ว อันนี้เลือกได้เลยครับ แต่สิ่งที่สำคัญอยู่สิ่งเดียวที่ต้องระวัง นั่นคือ ขอให้แน่ใจว่า สิ่งที่เราต้องการนั้นมันคือความต้องการของทั้งสองฝ่าย

2. รายจ่ายในการจัดงานต้องวางแผนให้ชัด

หลังจากจัดการความต้องการเสร็จ สิ่งทีต้องทำคือการจดรายละเอียดสิ่งที่ต้องใช้ ต้องทำออกมาตามลำดับ และส่วนนี้แหละครับที่สำคัญ เพราะมันจะเป็นการกำหนดถึงเรื่องของการใช้จ่าย เพราะการวางแผนการเงินสำหรับงานแต่งงานนั้น มันคือการวางแผน "ใช้เงิน" เป็นหลัก ไม่ใช่การบริหารจัดการรายรับรายจ่ายเหมือนการออมเงินหรือวางแผนทางการเงินปกติทั่วไป

ดังนั้นเมื่อเป็นเรื่องของรายจ่าย สิ่งที่เราทำได้นั้นคือ "การประหยัด" ให้มากที่สุดสำหรับคนที่ต้องการแต่งงานแบบประหยัด อาจจะต้องตรวจสอบขั้นตอนนี้กันละเอียดว่าตกหล่นอะไรบ้างไหม และแต่ละเรื่องนั้นมีงบประมาณเท่าไร ไม่ใช่จดๆมาแล้วก็จ่าย แบบนั้นได้ใช้กันแบบสบายกระเป๋าชนิดที่เรียกว่าไม่เหลือเงินแน่นอนครับ

3. อย่าคิดเดินทางลัดด้วยการสร้างหนี้ (ที่ไม่จำเป็น)

เมื่อ "ความต้องการ" ไม่สอดคล้องกับ "งบประมาณ" สิ่งที่ตามมาคือสองทางเลือก ระหว่างเลือกที่จะ "ขอยืม" เพื่อให้งานเป็นไปตามที่ต้องการ หรือเลือกที่จะ "ขอลด" เพื่อให้เงินไม่หมดก่อนเวลา อันนี้ก็อยู่ที่ว่าใครจะตัดสินใจยังไง

ถ้าเราต้องการแต่งงานแบบประหยัด สิ่งที่เราต้องคิดก็คือ "เราต้องไม่สร้างรายจ่ายเพิ่มหลังจากจบงานแต่ง" เพราะสิ่งไม่มีชีวิตที่เรียกว่า "ดอกเบี้ย" นั้นอาจจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานของเรากลายเป็นสมรภูมิขนาดย่อมได้เหมือนกันครับ

4. ตกลงให้ดีเรื่องการเงินในอนาคต

สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนลืมตกลงก่อนจะแต่งงาน นั่นคือเรื่องของการเงินในอนาคตว่าจะแบ่งความรับผิดชอบกันอย่างไรบ้าง อย่าลืมนะครับว่าการแต่งงานคือ "การที่คนสองคนมาร่วมกันเติมเต็มความสุขของกันและกันให้มากขึ้น"

ดังนั้นเรื่องการเงินในอนาคต มันไม่ได้หยุดแค่วันแต่งงานเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อชีวิตที่เหลืออยู่ของคู่รักได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น อย่าลืมตกลงกันให้แน่ใจว่า หลังแต่งงานแล้ว การจัดการด้านการเงินจะเป็นอย่างไร จะแยกกันจัดการ หรือจะให้สามีจัดการ แต่สุดท้ายภรรยาจัดการทุกทีครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แฮร่

5. อดทนหารายได้เพิ่มเพื่อเติมเต็มความฝันชีวิตคู่

เมื่อแต่งงานกันแล้ว แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น บางคู่อาจจะซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้านใหม่ หรือลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆมากขึ้น ทำให้เงินออมลดน้อยหรืออาจจะต้องกู้หนี้ยืมสิน ดังนั้นในช่วงนี้แหละครับ คือช่วงที่ทั้งคู่ต้องลำบากไปด้วยกัน อาจจะกัดก้อนเกลือกินบางครั้ง อาจจะเจ็บบางที แต่เราต้องยิ้มสู้ครับ อดทนต่อไป หาหนทางสร้างรายได้เพิ่ม เพื่อให้ชีวิตคู่ของเราสมบูรณ์ แต่ที่สำคัญคืออย่าให้สิ่งที่เราอยากได้อยากมีนั้นเกินตัวจนลืมความสุขในครอบครัวนะครับ

สุดท้ายนี้... การวางแผนการเงินแต่งงานนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกคู่รัก อย่าละเลยจนไม่เห็นความสำคัญ เพราะหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความรักสมบูรณ์นั้น ความพร้อมทางการเงินก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามนะคร้าบบบ