ในเรื่องของความสัมพันธ์ ความรัก ความชอบ อาจทำให้เราขยับความสัมพันธ์จากคนรู้จัก หรือเพื่อนไปสู่คนรักได้ แต่ในวันใดก็ตามที่ความสัมพันธ์กำลังจะเลื่อนขั้นไปสู่การแต่งงาน ลำพังแค่ความรักอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องอาศัยความไว้วางใจ ความเคารพ และความรับผิดชอบด้วยเพื่อให้ความสัมพันธ์ไปรอดได้

แต่แม้ว่าเราจะรัก หรือไว้ใจกันมากแค่ไหน เชื่อไหมว่าเรื่อง ‘เงิน’ เป็นหนึ่งหัวข้อใหญ่ที่ทำให้คู่รักกว่า 40% มีปัญหาถึงขั้นเลิกรากันไป ตามรายงานของ Credit Karma ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการเงิน และสินเชื่อของอเมริกา

aomMONEY จึงอยากชวนทุกคนมาดู 7 ปัญหาด้านการเงินที่มักจะเกิดกับคู่รัก และคู่สมรส ว่ามีอะไรบ้าง แล้วเราจะจัดการกับปัญหานั้นอย่างไรดี โดยคำแนะนำของ เมลิสซา ดิวาริส ทอมป์สัน นักบำบัดด้านการแต่งงาน และครอบครัว

👩🏼‍❤️‍👨🏼 1. คู่รักไม่ยอมคุยกันถึงความเครียดด้านการเงินของตัวเอง

การสำรวจโดย SunTrust Bank บริษัทโฮลดิงของธนาคารสัญชาติอเมริกัน พบว่า 35% ของคู่สมรสระบุว่าเงินเป็นสาเหตุหลักของความเครียดในความสัมพันธ์ เมลิสซากล่าวว่าคู่รักส่วนใหญ่ไม่ได้พูดคุยกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับภาระทางการเงิน เนื่องจากในวัยเด็กไม่ได้รับการปลูกฝังให้พูดคุยในเชิงบวกกับเรื่องเงิน ทำให้เป็นเรื่องที่ไม่สบายใจจะแบ่งปัน เพราะกลัวจะเป็นความท็อกซิกในความสัมพันธ์

เคล็ดลับคู่รัก : เมลิสซาแนะนำว่า คู่รักควรเริ่มจากการค่อยๆ เปิดพูดคุยเรื่องเงินเล็กๆ น้อยๆ ก่อน หรือพบปะที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้บุคคลที่สามคอยแนะนำการสนทนา ซึ่งจะช่วยให้พูดคุยราบรื่น และหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

👩🏼‍❤️‍👨🏼 2. คู่สมรส ใช้จ่ายอย่างลับๆ โดยไม่บอกอีกฝ่าย

การสำรวจจาก TD Bank ธนาคารในสหรัฐฯ พบว่า 32% ของชาวอเมริกันมีความลับทางการเงินที่ซ่อนจากคู่รักของตน โดยความลับที่พบบ่อยได้แก่ การตัดสินใจใช้จ่ายครั้งใหญ่ (40%), หนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก (18%) และบัญชีธนาคารลับ (13%) โดยเมลิสซาระบุว่าการมีความรักเรื่องการใช้จ่ายสร้างความไม่ไว้วางใจในความสัมพันธ์อย่างมาก และทำให้คนหนึ่งต้องกลายเป็น ‘ตำรวจการเงิน’ ที่คอยจับผิดอีกฝ่ายซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจในความสัมพันธ์

เคล็ดลับคู่รัก : หากสงสัยว่าคู่ครองปกปิดเรื่องเงิน ควรเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยตรง และใช้วิธีการพูดคุยด้วยเหตุผล สติ และการเปิดกว้างรับฟังเหตุผลจากอีกฝ่าย เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาท

👩🏼‍❤️‍👨🏼 3. ฝ่ายชายรับไม่ได้ที่ฝ่ายหญิงสามารถหาเงินได้มากกว่าตัวเอง

นับจากยุคที่ผู้หญิงออกนอกบ้านเพื่อทำงานหาเงินเช่นเดียวกับผู้ชาย และผู้หญิงจำนวนไม่น้อยมีความสามารถมากพอที่จะได้รับเงินเดือนมากกว่าฝ่ายชาย ซึ่งทำให้ผู้ชายรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองจนถึงขั้นไม่พอใจ เพราะบทบาททางเพศที่กำหนดไว้ว่าผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นฝ่ายหาเลี้ยงทุกคน การที่ผู้หญิงมีรายได้มากกว่า ทำให้ผู้ชายคิดว่าตนกำลังจะเสียบทบาทนั้นไป

เคล็ดลับคู่รัก : เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาที่ต้องพูดคุยกับคู่รักตรงๆ หรือหากรู้สึกไม่สะดวกใจให้ลองพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านครอบครัว เพื่อหาแนวทางการดำเนินชีวิตคู่ในแนวทางบวกร่วมกัน

👩🏼‍❤️‍👨🏼 4. คู่รักใช้ชีวิตเกินความจำเป็น

การใช้จ่ายเกินตัว หรือเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้การแต่งงานล้มเหลว เชลลี-แอน เอเวกา จาก TIAA ยกตัวอย่างกรณีที่สามีพบใบแจ้งยอดบัตรเครดิตที่แสดงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของภรรยาเกินกว่าที่ตกลงกัน ซึ่งนำไปสู่ความเสียใจ และผลกระทบต่อเป้าหมายทางการเงินร่วมกัน

เคล็ดลับคู่รัก : เมลิซาแนะนำให้คู่รักแบ่งปันความวิตกกังวล และวางแผนร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก อาทิ จัดทำงบประมาณ หาวิธีประหยัดเงิน ตรวจสอบบัตรเครดิต และงบการเงิน และถามคำถามเพื่อทำความเข้าใจถึงการใช้จ่ายที่เกินควร เอเวกาเสริมว่าการตรวจสอบ และถามคำถามอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญ

👩🏼‍❤️‍👨🏼 5. ให้ความสำคัญกับงานมากกว่าความสัมพันธ์

การทุ่มเทเวลา และพลังงานให้กับการทำงานมากจนเกินไป จนไม่มีเวลาดูแลรักษาความสัมพันธ์กับคู่ครอง อาจนำไปสู่ปัญหา และการหย่าร้างได้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะต้องการรู้สึกมีคุณค่า และเป็นคนสำคัญสำหรับอีกฝ่าย

เคล็ดลับคู่รัก : เพื่อไม่ให้การทำงานหนักเกินไปมาบั่นทอนความสัมพันธ์ เมลิสซาแนะนำว่าคู่รักต้องกำหนดความคาดหวังให้ชัดเจน และมีความเห็นตรงกันถึงความสมดุลระหว่างการทำงาน ควบคู่ไปกับการหาจุดสมดุลในชีวิตร่วมกัน

👩🏼‍❤️‍👨🏼 6. โต้เถียงกันอย่างรุนแรงเรื่องปัญหาการเงิน

เมื่อปัญหาการเงินระหว่างคู่รักไม่ได้ถูกพูดถึง หรือหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน ปัญหาการเงินสามารถกลายเป็นตัวจุดชนวนระเบิดในความสัมพันธ์ที่นำไปสู่การหย่าร้างได้อย่างง่ายดาย เพราะคู่รักไม่ค่อยมีการสื่อสารกันเรื่องเงินอย่างตรงไปตรงมา และซื่อสัตย์

เคล็ดลับคู่รัก : เพื่อลดความตึงเครียดจากปัญหาทะเลาะเรื่องการเงิน เมลิสซาแนะนำให้คู่สมรสปรับปรุงนิสัยการสื่อสารเรื่องเงิน มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง และจัดการกับปัญหาการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาทวีความรุนแรงจนนำไปสู่การทะเลาะวิวาท เพื่อเพิ่มความสุขในความสัมพันธ์ระยะยาวมากขึ้น

👩🏼‍❤️‍👨🏼 7. พฤติกรรม และทัศนคติการใช้เงินต่างกัน

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในชีวิตคู่คือ ทัศนคติ และพฤติกรรมทางการเงินที่แตกต่างกัน เช่นหนึ่งชอบออมเงินมาก ในขณะที่อีกคนชอบชอปปิง ก็จะนำไปสู่ความไม่เข้าใจกัน เพราะจะเกิดการตั้งคำถามในรูปแบบการเงินของอีกฝ่าย และยัดเยียดเหตุผลว่าทำไมเหตุผลของฝั่งตัวเองถึงดีกว่า

เคล็ดลับคู่รัก : ให้คู่สมรสแต่ละคนมีส่วนร่วมในบัญชีร่วมกัน แต่ยังคงมีบัญชีส่วนบุคคลด้วย โดยตกลงกันว่าจะจัดสรรรายได้มาใส่ในบัญชีร่วมเท่าใด และเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวอีกเท่าใด การแบ่งพื้นที่ทางการเงินส่วนตัว และส่วนรวมจะช่วยให้ทั้งคู่มีความสุข และอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว แม้จะมีทัศนคติทางการเงินที่แตกต่างกัน

เพราะเรื่องเงินนั้นอยู่กับเราทั้งชีวิต เช่นเดียวกับคู่สมรสของเรา เมื่อเราทุกคนต่างมีรูปแบบการเงินของตัวเอง การปรับตัวเข้าหากันทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และการเงินร่วมกัน จะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่สมรสสามารถไปด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่งโดยที่ไม่มีใครต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไป

เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช