น่าแปลกที่ “ความจน” เราแทบไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ก็สามารถได้มันมาโดยง่าย สวนทางกับ “ความรวย” ที่หลายคนพยายามเท่าไรก็ไม่สำเร็จสักที จนรู้สึกท้อและถอดใจ
อย่าเพิ่งหมดหวัง ถ้ายังไม่ได้อ่านเรื่องนี้ aomMONEY รู้ดีว่า “ความรวย” ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โอกาสที่เราจะรวย ก็ไม่ได้เป็นศูนย์(0) ทุกคนยังต้องมีความหวังเสมอ
วันนี้เราลองมารีเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า นิสัยของเราที่มีนั้นเป็นอุปสรรคต่อความรวยของเราในอนาคตหรือไม่ ซึ่งนิสัยดังต่อไปนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากการศึกษาของ “ทอม คอร์ลีย์” ผู้เขียนหนังสือ Rich Habits ที่ได้ศึกษานิสัยของกลุ่มคนรวยและคนจน เพื่อเป็นแนวทางให้เห็นว่านิสัยแบบไหนที่คนรวยมักหลีกเลี่ยงและไม่ทำกัน
1. ใช้จ่ายมากกว่ารายได้
ข้อนี้ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ้าอยากรวย ต้องคุมค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด หรือ เพิ่มรายได้ให้มากที่สุด เพราะถ้า…
- รายจ่าย มากกว่า รายได้ = เป็นหนี้ ไม่มีเงินเก็บ
- รายจ่าย เท่ากับ รายได้ = ไม่มีหนี้ แต่ก็ไม่มีเงินเก็บ
- รายจ่าย น้อยกว่า รายได้ = มีเงินเหลือเก็บแน่นอน
แน่นอนว่า การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว ไม่สามารถทำให้ใครคนหนึ่งรวยขึ้นมาได้ เราจึงต้องรู้จักบริหารจัดการเงินที่ได้มาในแต่ละเดือนด้วยการ “เก็บก่อนใช้” โดยเมื่อไรก็ตามที่มีรายได้เข้ากระเป๋า ให้เราเก็บก่อนใช้สัก 10-20% ของรายได้ทันที และส่วนที่เหลือจึงนำไปใช้จ่ายต่อไป
สอดคล้องกับ ผลการศึกษาของ คอร์ลีย์ พบว่า คนจนร้อยละ 95 ไม่ได้ออมเงิน แถมยังมีหนี้สินที่กู้มายังชีพ สวนทางกับเศรษฐีจำนวนกว่า 49% มักออมเงิน 20% ของรายได้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน
2. มีรายได้แค่ทางเดียว
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐี และนักลงทุนระดับโลก เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าเงินเดือนเป็นเพียงรายได้เดียวของคุณ นั่นแปลว่า คุณอยู่ห่างจากความยากจนแค่ 1 ก้าว”
ความหมาย คือ ต่อให้เราจะมีเงินเดือน หรือรายได้มากสักเท่าไร แต่ถ้ามันเป็นเพียงรายได้ทางเดียว ก็ไม่ต่างอะไรจากการยืนกระต่ายขาเดียว ที่เราพร้อมจะล้มได้เสมอ ด้วยความไม่แน่นอนหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ บริษัทปิดตัว หรือการเลิกจ้าง เป็นต้น
และ 60% ของคนรวย จากการศึกษาของ คอร์ลีย์ ก็พบว่า พวกเขามีรายได้อย่างน้อย 3 ช่องทาง และ คนรวย 29% มีรายได้มากกว่า 5 ทางเลยทีเดียว
ดังนั้น การที่เรามีรายได้เข้ามาหลายทางๆ นอกจากจะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มรายรับให้กับตัวเราหรือกิจการของเราด้วย
3. ไม่ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
เมื่อมีคนถาม วอร์เรน บัฟเฟตต์ ว่า อะไรคือหัวใจหลักของการประสบความสำเร็จ เขาจะชี้ไปที่หนังสือมากมายที่เรียงกันอยู่และพูดว่า
“อ่านหนังสือ 500 หน้าแบบนี้ทุกๆ วัน นั่นคือวิธีให้ความรู้ทำงาน มันจะเพิ่มพูนขึ้นเหมือนกับดอกเบี้ยทบต้น พวกคุณทั้งหมดสามารถทำได้ แต่ผมยืนยันได้เลยว่ามีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะทำ”
สอดคล้องกับ ผลการศึกษาของคอร์ลีย์ด้วย เพราะพบว่า 92% ของคนรายได้น้อยที่สุด มักไม่อ่านหนังสือเพื่อเรียนรู้เลย
4. ชอบดูถูกตัวเอง
จากการศึกษากลุ่มคนรายได้น้อย ส่วนมากเขาเหล่านี้มักจะชอบพูดว่า ฉันไม่เก่ง ฉันไม่ฉลาด ฉันไม่มีการศึกษามากพอ ฉันทำไม่ได้หรอก คำเหล่านี้มักจะถูกตอกย้ำ ด้วยความคิดของตัวเองแบบนี้ไปเรื่อยๆ และจะยิ่งฝังรากลึกลงในจิตใจขึ้นทุกวัน
ถ้าพวกเขาไม่รีบปฎิเสธชุดความคิดนี้ ก็เป็นไปได้ยากที่จะหลุดพ้นออกมาได้ ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนความคิดด้านลบให้เป็นแรงผลักดัน เพื่อก้าวไปสู่ชีวิตข้างหน้าที่ดีกว่า
5. ไม่มีแผนหรือเป้าหมาย
ร้อยละ 95 ของคนจน “ไม่ได้วางแผนชีวิต” ไม่รู้ว่าเป้าหมายชีวิตคืออะไร ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะดีขึ้นกว่านี้ยังไง
คอลีย์ บอกว่า การที่ชีวิตไม่มีแผน หรือ ไม่มีเป้าหมายใดๆ ก็เหมือนกับ ใบไม้ที่ล่วงหล่นจากต้น ล่องลอยในอากาศ และไม่สามารถกำหนดได้เลยว่าจะไปตกที่ใด
ทางที่ดีควรเริ่มตั้งเป้าหมายเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้รู้ว่าอีก 1 ปี 5 ปี 10 ปีข้างหน้า เราต้องการเห็นตัวเองเป็นแบบไหน โดยไม่ปล่อยให้สิ่งต่างๆ ดำเนินไปตามยถากรรม แต่จงเลือกทางเดินให้กับตัวเองสักที
6. ใช้ชีวิตแบบไม่รักตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็น การดื่มสุราหนักๆ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการไม่ออกกำลังกายเลย สิ่งเหล่านี้มักนำไปสู่ความโชคร้ายต่างๆ เช่น สุขภาพแย่ลงทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด
และจากข้อมูล พบว่า 63% ของเศรษฐี จะเล่นกีฬาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย และเมื่อโตขึ้นก็ยังคงเล่นกีฬาที่เน้นการแข่งขัน และมีเศรษฐี 76% ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที/วัน คิดเป็น 4 วัน/สัปดาห์ นอกจากนี้เกือบทุกคนก็ยังให้ความสำคัญกับการนอนหลับ อย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง
7. อยู่กับคนหรือสังคมที่บั่นทอน
จากการศึกษาของ คอร์ลีย์ พบว่า มีเพียง 4% ของผู้ที่มีรายได้น้อยที่มีความสัมพันธ์กับ “คนที่ประสบความสำเร็จ”
และวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังเคยบอกไว้ว่า “คุณจะมีเส้นทางชีวิตเหมือนคนที่คบด้วย ดังนั้น การคบคนที่ดีกว่าตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ คุณต้องคบคนที่เป็นคนในแบบที่คุณอยากจะเป็น”
กล่าวคือ ถ้าเราอยากที่จะประสบความสำเร็จ เราควรหลีกหนีผู้คนหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี อยู่ด้วยแล้วบั่นทอนจิตใจ ไม่เสริมพลังให้กัน และเราควรจะวิ่งเข้าหาคนที่คอยเติมกำลังใจ คิดบวก มีความไฝ่รู้ และคอยช่วยเหลือกันเสมอ เพราะไม่มีใครที่จะสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว