มนุษย์เงินเดือน หลายคนมีเงินอยู่ในกระเป๋าไม่ถึงครึ่งเดือน เงินเดือนที่ได้รับมาตั้งแต่ต้นเดือนก็กลายเป็นแค่เศษเงินทอน หายไปเกือบหมดทั้งๆ ที่ยังไม่สิ้นเดือน ทำให้เจอปัญหาใช้เงิน เดือนชนเดือนเป็นประจำ aomMONEY เองก็เข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดีครับ เพราะสมัยที่เรียนจบใหม่ๆ ทำงานที่แรก ตัวเองก็ใช้เงินไม่คิดหน้าคิดหลัง หมดเดือนชนเดือน เผลอๆ เหลือไม่ถึงปลายเดือนด้วยซ้ำ ทำให้ต้องควักเงินเก็บออกมาใช้ก่อนตลอด
และนี่ก็สะท้อนปัญหาเรื่องวินัยการใช้เงินครับ เพราะมันแสดงถึงการใช้จ่ายมากกว่าเงินที่หามาได้
แบบนี้ต่อให้เรามีรายได้สูงแค่ไหน ก็ไม่พอใช้ ไม่เหลือเก็บออม จนสุดท้ายไปจบลงที่การเป็นหนี้ก็เป็นได้ และในวันนี้เนื่องจากตัว บ.ก.ในตอนนั้นเคยผ่านช่วงชีวิตแบบนั้นมา เลยอยากจะนำเรื่องราวการใช้เงินของตัวเองในสมัยก่อนมาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกัน เพื่อเป็นอุทาหรณ์กันเอาไว้ว่า "อย่าใช้ชีวิตแบบนี้เลยครับ"
1. "มนุษย์เงินเดือน"สาย Shopping ตามกระแส ของมันต้องมีเพื่อเข้าสังคม
ธรรมดาของเด็กจบใหม่ครับ หาเงินได้เองครั้งแรก พอเห็นของอะไรที่คนเค้ามีก็อยากได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ไอแพด Macbook เสื้อผ้าแบรนด์ดีๆ กระเป๋าแบรนด์หรูๆ ไว้เข้าสังคมกับเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ รองเท้าผ้าใบแพงๆ ซื้อหมดทุกอย่างที่ขวางหน้าครับ ... สุดท้าย เงินต่อเดือนไม่พอครับ ต้องไปยิมรุ่นพี่ในทีมมาใช้ด้วย
2. "มนุษย์เงินเดือน" ไลฟ์สไตล์ติดหรู ติดกาแฟ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
ตอน บก. aomMONEY จบใหม่ๆ เป็นแค่นักเขียนตัวเล็กๆ ครับ เงินเดือนหมื่นต้นๆ (แต่มีรายได้เสริมอื่นๆ ด้วย) ไลฟ์สไตล์ก็ดันไม่เล็กเหมือนเงินเดือนด้วยครับ เพราะเข้าสตาร์บั๊คทุกวัน แถมทำงานเครียด ก็เลยติดบุหรี่อีกวันละซองครับ สมัยนั้นบุหรี่ตัวที่สูบแล้วเย็นคอจัดๆ ก็กล่องละ ร้อยกว่าบาทครับ ... คิดดูสิครับว่าเงินมันจะพอได้ไง
3. "มนุษย์เงินเดือน" ผู้ไม่เคยสนใจเรื่องเก็บออม
"ด้วยความเป็นเด็กจบใหม่ในตอนนั้น มีงานเสริมที่ได้เงินไว ได้เงินก้อน เลยทะนงตัวครับว่าจะหาเงินอีกเมื่อไหร่ก็ได้ครับ" ตอนนั้นหามาได้เท่าไหร่ก็ใช้หมด มีเงินเดือนใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน ได้เงินก้อนโบนัสมา ก็ไม่เคยสนใจออมครับ อยากได้อะไรก็ซื้อหมด เคยถือเงินสด 3 หมื่นเดินเข้าร้านกล้อง เพราะอยากได้กล้องถ่ายรูปครับ แต่สุดท้ายก็ซื้อมาเก็บครับ ไม่ได้ใช้งานอะไรจริงจัง
4."มนุษย์เงินเดือน" ผู้ใช้หนี้บัตรเครดิต..จ่ายแค่ขั้นต่ำ
ด้วยความที่ไม่สนใจที่จะศึกษาความรู้ทางด้านการเงินเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีบัตรเครดิต ก็จ่ายขั้นต่ำบ่อยๆ ครับ แล้วก็โดนดอกเบี้ยไปอานเลย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าชำระไม่ตรงเวลาเป็นประจำ, ชำระหนี้บัตรเครดิตไม่ครบ ค้างเกิน 90 วัน หรือชำระเงินน้อยกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ก็จะติดประวัติในเครดิตบูโร ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติขอสินเชื่อต่อไปอีกด้วย กว่าจะมาตระหนักได้ ก็เริ่มต้นช้ากว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันแล้วครับ
มาคิดได้ก็เมื่อรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องอายุเท่ากัน "มีรถมีบ้าน" แต่ตัวเองไม่มีอะไรเลย
ใช่ครับ! ตอนนั้น บก.อายุ 24 และเพิ่งมาตระหนักคิดได้ ในวันที่นัดเชงเม้งรวมญาติครับ เพราะเจอญาติที่โตมาด้วยกัน มีรถใช้ ทำงานประจำ และกำลังจะเปิดธุรกิจร้านอาหาร แต่ตัวเราไม่มีอะไรเลย ! นอกจากโทรศัพท์ เครื่องใหม่ ไอแพด และสินค้าฟุ่มเฟือยที่ขยันซื้อมา
วันนั้นก็ถึงเริ่มคิดได้และเปลี่ยนตัวเองครับ หันมาศึกษาความรู้ทางด้านการเงิน
ดังนั้นก็เลยอยากจะฝากถึงลูกเพจ aomMONEY ที่เป็น มนุษย์เงินเดือน ทุกๆ คนนะครับ ลองระงับความอยากได้อยากมี แยกแยะความ “จำเป็นและความไม่จำเป็น” ในการใช้จ่าย อาจจะฟังดูยาก แต่ถ้าลองข่มความอยากได้ครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็จะง่ายขึ้น ส่วนอะไรที่ไม่จำเป็นก็ให้งดไปก่อน หรือถ้าอยากได้มากจริง ๆ เก็บเงินแล้วค่อยซื้อก็ไม่สายไปครับ
ถ้ามนุษย์เงินเดือนคนไหนรู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมการเงินคล้ายกับ บ.ก.aomMONEY สมัยก่อน ก็อย่าลืมรีบเปลี่ยนตัวเองนะครับ ทำวันนี้ ตอนนี้ ก็ยังไม่สายครับ