ยืมเงินด้วยศรัทธา (แต่ได้แล้ว ให้คืนด้วย)

นับจากวันตรุษจีนไปอีก 26 วัน ชาวจีนฝั่งฮ่องกงยกให้เป็น ‘วันเปิดทรัพย์’ หรือวันที่พระโพธิสัตว์กวนอิม เปิดพระคลังสมบัติให้ลูกหลานได้หยิบยืมทรัพย์สมบัติของพระองค์ และยังประทานพรให้ด้วย โดยในปี 2567 นี้ วันเปิดทรัพย์ตรงกับวันที่ 6 มีนาคม ที่พึ่งผ่านไปไม่นาน

🧧ไม่ต้องไปถึงฮ่องกง ก็ขอพร ‘วันเปิดทรัพย์’ จากเจ้าแม่กวนอิมได้

ปกติแล้วในช่วงเวลานี้ วัดชื่อดังอย่าง ‘วัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ’ หรือวัดทินหัว ที่ฮ่องกงจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาขอพรในวันเปิดทรัพย์นี้ เพื่อเป็นสิริมงคลให้เงินทองไหลมาเทมา ทำมาค้าขายประสบความสำเร็จไปตลอดทั้งปี

แต่ต้องบอกว่า แม้จะไม่ได้ไปถึงฮ่องกง เราก็สามารถขอพรวันเปิดทรัพย์ได้ เพราะที่ไทยเราเองก็มีวิหารเจ้าแม่กวนอิมอยู่หลายแห่ง เช่น พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม รามอินทรา กรุงเทพฯ หรือวิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นต้น หรือหากใครมีองค์เจ้าแม่กวนอิมที่บ้านอยู่แล้วก็สามารถทำพิธีขอพรได้เช่นกัน

🙏 ขอพร ‘วันเปิดทรัพย์’ ทำอย่างไร และนำวิธีการมาปรับใช้ในโลกการเงินได้อย่างไร?

สำหรับฤกษ์ในการไหว้ขอพร สามารถเริ่มไหว้ได้ตั้งแต่คืนก่อนวันเปิดทรัพย์ นั่นก็คือ วันที่ 5 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 23.00 น. จนถึงวันที่ 6 มีนาคม ตลอดทั้งวัน โดยมีความเชื่อว่า ยิ่งขอเร็ว ยิ่งมีโอกาสได้ตามที่ขอมากกว่าด้วย เพราะทรัพย์ในพระคลังยังเหลือเยอะอยู่

สำหรับวิธีการขอพรจะมีอยู่ 3 ขั้นตอน ตามที่ทางเว็บไซต์ Mushroom Travel ได้รวบรวมมา คือ

💸 1. บูชาดอกไม้ และจุดธูปเทียนอธิฐาน

ให้เราบอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และจำนวนเงินที่ต้องการ โดยต้องระบุจุดประสงค์ให้ชัดเจนด้วยว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปทำอะไร ที่สำคัญคือต้องขอให้ตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถขอให้คนอื่นได้ และหากได้ตามที่หวังแล้วต้องกำหนดวันชัดเจนว่าจะกลับมาตอบแทนบุญคุณอีกครั้งเมื่อไหร่

ทางการเงิน: ตั้งสติ เตรียมพร้อม ก่อนหยิบยืม

การจุดธูปเทียน เปรียบเสมือนการเตรียมตัว เตรียมความพร้อม และตั้งสติ ก่อนที่จะคิดหยิบยืมเงิน หรือคิดจะเป็นหนี้ใคร ซึ่งควรพิจารณาให้ดีว่าหนี้ที่จะสร้างขึ้นนั้นมีประโยชน์หรือไม่ และเมื่อมีหนี้ก้อนนี้ขึ้นมาแล้ว วิถีการใช้เงินของเราจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน กระทบกับสภาพคล่องของเราอย่างไร

💸 2. ปักธูปในกระถาง และหยิบผงธูปใส่ซองแดงที่เราเตรียมไว้

ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการที่เราหยิบยืมทรัพย์สมบัติจากพระคลังไปเรียบร้อยแล้วในรูปแบบของซองอั่งเปาที่เจ้าแม่กวนอิมเป็นผู้มอบให้ โดยการขอยืมเงินเจ้าแม่กวนอิมนั้น ได้มีผู้แนะนำว่า ไม่ควรขอเกินตัว หรือเกินกำลังที่เราจะสามารถนำมาคืนได้ ควรขอแต่พอดี และนำไปใช้สร้างประโยชน์ ต่อยอดในชีวิตของเราจริงๆ

ทางการเงิน: รู้ว่าต้องหยิบยืมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่า หนี้หรือการยืมเงินนั้นจะสร้างประโยชน์ให้กับเรามากน้อยแค่ไหน ต่อมาก็ควรจะรู้ว่ามูลค่าหนี้ที่หยิบเข้าตัวนั้นควรอยู่ในระดับเท่าไร คำตอบคือ เราไม่ควรมีภาระผ่อนหนี้แต่ละเดือนเกิน 50 - 60% ของรายได้ต่อเดือนที่เรามีนั่นเอง เพราะหากเกินกว่านี้จะเป็นการเบียดเบียนค่าใช้จ่ายที่มี ทำให้คุณภาพชีวิตเราอาจต้องแย่ลงก็เป็นได้

💸 3. นำซองแดงวนเหนือกระถางธูป 3 รอบ

นับว่าเป็นอันเสร็จพิธี โดยซองแดงนี้ให้เราเก็บไว้อย่างดี ซึ่งบางคนอาจจะเก็บไว้ในกระเป๋าเงินเลย หรือจะไว้ในที่เก็บเงินอย่างตู้เซฟก็ได้เช่นกัน

ทางการเงิน: บริหารจัดการเงินยืม หรือหนี้อย่างระวัง

หากเป็นเงินยืมจากสินเชื่อส่วนบุคคล หรือการผ่อนบัตรเครดิต สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอ คือ “อย่าจ่ายขั้นต่ำ” เพราะหนี้เราจะไม่มีทางหมดง่ายๆ ดอกเบี้ยที่เสียจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าเป็นการยืมระหว่างบุคคล ก็ควรจะรีบใช้เพราะอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ได้

เช่นเดียวกับการยืมเงินจากเจ้าแม่กวนอิม ที่เมื่อเราได้พรตามที่ขอแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องไปกล่าวขอบคุณ และ ‘ใช้หนี้’ ท่านด้วย โดยเตรียมชุดไหว้ พร้อมดอกไม้ และ ‘กระดาษเงินกระดาษทอง’ เปรียบเสมือนเงินที่เรานำมาคืนนั่นเอง

เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช