ช่วงนี้ของปีเราจะเริ่มเห็นเด็กมหาวิทยาลัยจบใหม่ทยอยเริ่มต้นทำงานกันอย่างคึกคัก มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและมีความท้าทายอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นบทใหม่ของชีวิตประหนึ่งก้าวแรกของการเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว นอกจากจะต้องรับผิดชอบเรื่องงานให้ดีที่สุดแล้ว เมื่อทำเงินได้ก็ต้องมีการจัดการที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับหลายคนจังหวะนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่จะมีเงินเข้ามาทุก ๆ สิ้นเดือน มันจะเป็นเงินก้อนจะน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ตอนนี้เราอยากได้อะไรก็ไม่ต้องโทรไปหาพ่อแม่หรือรอวันพิเศษของปีอีกต่อไป อยากได้เสื้อผ้า ของใช้ ก็ซื้อได้เพราะเป็นเงินของเราเอง แต่ในขณะเดียวก็เริ่มเห็นว่าชีวิตมีค่าใช้จ่ายที่เยอะไม่น้อย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ

การเป็นผู้ใหญ่มาพร้อมทั้งอิสระและความรับผิดชอบที่มากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

บางคนอาจจะมีเป้าหมายทางการเงินบ้างแล้ว บางคนทำงานเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อ บางคนทำงานเก็บเงินเพื่อช่วยทางบ้านผ่อนบ้าน บางคนคิดถึงการซื้อรถยนต์สักคัน ฯลฯ

แม้ในวัย 20 เราไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตปลายทางแล้วจะไปจบที่ไหน อาชีพในฝันหรือสิ่งที่เราอยากทำอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างทาง บางทีเงินเดือนที่ได้อาจจะไม่เยอะมาก งานที่เริ่มทำพอได้ทำจริง ๆ ก็อาจจะรู้สึกว่ามันช่างแตกต่างจากที่คิดเหลือเกิน บางคนอาจจะมีหนี้การศึกษาก้อนโตที่ต้องรีบผ่อนจ่ายให้หมด นี่คือปัญหาของคนหนุ่มสาววัย 20 ซึ่งพอฟังแบบนี้ก็น่าห่อเหี่ยวไม่น้อย

แต่สิ่งที่คนหนุ่มสาววัย 20 นั้นได้เปรียบคือสิ่งที่เรียกว่า ‘เวลา’ และมันก็เป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ซะด้วย เป็นกุญแจสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งในชีวิตเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแม้จะเพิ่งเริ่มทำงาน เราก็สร้างความมั่งคั่งได้ตั้งแต่ช่วงวัย 20 เช่นกัน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีเลย

เราจะเริ่มตรงไหนดีล่ะ?

รามิตร เศรษฐี (Ramit Sethi) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาทางการเงิน นักเขียนชื่อดังและเศรษฐีร้อยล้านที่สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเอง ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CNBC เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยู่ในช่วงวัย 20 เกี่ยวกับเรื่องเงินคือสร้างระบบการลงทุนแบบอัตโนมัติ”

เมื่อพูดถึงการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ เดือนหลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัวและไม่น่าจะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแค่ตอนนี้เงินเก็บแต่ละเดือนก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว ใช้เงินแทบจะเดือนชนเดือน แต่เศรษฐีบอกว่าการออมแบบสม่ำเสมอทีละนิดนั้นจะสร้างความแตกต่างอย่างมากในอนาคต เพราะเงินลงทุนตรงนั้นจะเติบโตเรื่อย ๆ จนคุณไม่รู้ตัวแล้ว มันยังสร้างนิสัยการออมที่ดีที่ติดตัวต่อไปอีกด้วย

ทำไมควรเริ่มสร้างความมั่งคั่งตั้งแต่ยังหนุ่มสาว

โดยทั่วไปแล้วยิ่งเรามีเวลาลงทุนเยอะ โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจก็จะสูงด้วยเช่นเดียวกัน ดอกเบี้ยแบบทบต้นจะค่อย ๆ เห็นชัดเจนมากขึ้นหลังจากลงทุนไปแล้ว 20-30 ปี สินทรัพย์ที่เติบโตไม่ได้เติบโตจากเงินที่ลงทุนเท่านั้น ดอกเบี้ยที่ได้เพิ่มระหว่างทางเมื่อทบเข้าไปก็จะสร้างดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

นั่นหมายความว่ายิ่งเรามีเวลาลงทุนนานเท่าไหร่ มันยิ่งเติบโตมากขึ้นไปเรื่อย ๆ และสำหรับคนที่ลงทุนมาได้สักพักจะเห็นว่าตลาดหุ้นนั้นไม่ได้มีแต่ขาขี้นเขียวอยู่ตลอดเวลา เมื่อภาวะตลาดหมีเกิดขึ้น พอร์ตที่เราลงทุนมาอาจจะร่วงลงไปหลายเดือนหรือเป็นปีเลยบางที แต่ถ้ามองย้อนดูประวัติศาสตร์แล้ว เราจะเห็นว่ามันกลับมาเติบโตได้อีกครั้งเสมอ เพราะฉะนั้นการมีเวลาให้พอร์ตกลับมาฟื้นตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ

การทำให้มันเป็นระบบอัตโนมัติ ให้ตัดเงินทุกเดือนและซื้อหุ้นที่เราเลือกแล้วทุก ๆ เดือน ตอนนี้มีบริการแบบนี้เกือบแทบจะทุกโบรกเกอร์แล้ว (ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยเปิดพอร์ตหุ้นตอนนี้ก็ทำได้ไม่ยากแล้ว สามารถค้นหาข้อมูลบนกูเกิลได้ครับ) ไม่จำเป็นต้องเยอะ เดือนละ 500 -1000 แล้วค่อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆ ขอให้เริ่มแค่นั้นก็พอ

เศรษฐีกล่าวว่า

“เมื่อคุณอายุ 20 แม้รายได้จะไม่สูง แต่มันเป็นโอกาสที่สุดยอดมาก ๆ ในการสร้างนิสัยการลงทุน เมื่อรายได้คุณเยอะขึ้นในช่วง 30 หรือ 40 ก็เพิ่มตัวเลขลงทุนตามไปด้วย”

อย่าลืมใช้ชีวิต

คำแนะนำอีกอย่างหนึ่งของเศรษฐีสำหรับคนช่วงวัย 20 คือ “ให้สนุกกับช่วงฤดูกาลนี้ของชีวิต”

“อย่าพยายามเป็นคนวัย 40 จนกระทั่งคุณอายุ 40 ปีนะ ช่วงวัย 20 คือช่วงที่คุณจะได้รู้จักตัวเอง ออกไปเที่ยวกับเพื่อน เดินทางแบบถูก ๆ ผมคิดว่าคุณควรทำแบบนั้นนะ มันมีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้ในวัย 20 ที่จะไม่มีโอกาสได้ทำอีกเลย และผมก็สนับสนุนให้คุณลองทำดู”

แม้ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในการเริ่มสร้างรากฐานของความมั่งคั่งตั้งแต่วัย 20 แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการใช้ใช้พลังงานของวัยหนุ่มสาวที่มีทั้งเวลาและโอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เศรษฐีปิดท้ายว่า

“อย่างหนึ่งที่ผมเสียดายเมื่อมองย้อนกลับไปคือไม่สนุกให้มากกว่านี้นั่นแหละ”