หลายคนเมื่อทำงานมีรายได้เป็นของตัวเอง ก็อยากมีรถยนต์เป็นของตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว สำหรับใครหลายคน อาจจะมองว่าสะดวกกว่าการใช้ขนส่งสาธารณะ แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ aomMONEY ขอแนะนำให้เพื่อนๆ คิดและทบทวนถึงความจำเป็นกันก่อน

เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์คันแรก ไม่ว่าจะเป็นก่อนออกรถ หรือวันที่มีรถใช้แล้ว มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยและค่อนข้างสูงครับ ถ้าบริหารเงินกันไม่ดี อาจจะมีรถแล้วไม่มีความสุขก็ได้

ค่าใช้จ่ายของการมีรถยนต์คันแรก aomMONEY ขอแบ่งเป็นสองส่วนครับ ดังนี้

1.ค่าใช้จ่ายก่อนและวันออกรถยนต์

2.ค่าใช้จ่ายประจำของรถยนต์ในแต่ละปี

ค่าใช้จ่ายก่อนและวันออกรถยนต์

เริ่มกันที่ค่าใช้จ่ายในวันออกรถ หลังจากที่เราเดินเข้าโชว์รูมรถ มีการคุยดีลกับเซลล์แล้ว ว่าเราจะซื้อรถคันนี้นะ ในราคาเท่านี้ ดาวน์เท่านี้ อย่างแรก ก็ต้องวางเงินจองครับ

(1) เงินจองรถ :

เงินจองเป็นเงินที่เราใช้วางเพื่อจองรถครับ อย่างเพื่อนผมซื้อรถยนต์ Eco Car ก็วางเงินจอง 5 พันบาท ซึ่งตรงนี้ถ้าเราวางเงินจองไปแล้ว แต่เกิดยื่นกู้ไฟแนนซ์แล้วไม่ผ่าน เพื่อนๆ สามารถ ขอเงินจองที่เราจ่ายไป คืนได้นะครับ ภายใน 15 วัน ถ้าคนขายไม่คืนให้ ร้องเรียนได้ที่ สคบ นะครับ

จากนั้น ถ้าการยื่นกู้ไฟแนนซ์ของเราผ่านเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ

วันที่เรารับรถ เพื่อนๆ ก็เตรียม เงินก้อนที่ 2 ครับ นั่นก็ คือ

(2) เงินดาวน์รถ :

อันนี้แล้วแต่เพื่อนๆ เลยนะครับ ว่าจะดาวน์เท่าไหร่ แต่ aomMONEY แนะนำ 15-20% ของราคารถครับ ยิ่งดาวน์เยอะ ดอกเบี้ยยิ่งถูกกว่าครับ แต่บางที่ก็มีโปรโมชั่นดาวน์ 0% แต่ตรงนี้ดูดอกเบี้ยดีๆ นะครับว่าสูงเกินไปไหม แล้วก็อย่าลืมคำนวณออกมาเป็นยอดรวมนะครับว่า ซื้อรถยนต์คันนี้ คุณต้องเสียดอกเบี้ยทั้งหมดกี่บาท

(3) ค่าจดทะเบียนรถ :

ค่าจดทะเบียนรถก็ประมาณ 5 พันครับ บางที่เซลล์รถใจดี ทางศูนย์ก็ออกค่าจดทะเบียนรถให้ครับ อย่างเคสรถของผม ทางศูนย์รถออกให้ครับ

(4) ค่ามัดจำป้ายแดง :

ราคาประมาณ 3 พันบาทครับ ตรงนี้เราจะได้เงินคืน เมื่อเรานำป้ายแดงมาเปลี่ยนเป็นป้ายขาว โดยตามกฎหมาย ป้ายแดงใช้ได้ 30 วันนะครับ ฝ่าฝืนโดนปรับ 1 หมื่นครับ

(5) ค่าเบี้ยประกันภัย :

ส่วนมากรถป้ายแดงจะมีโปรโมชั่นแถมประกันภัยชั้น 1 มาให้นะครับ แต่ถ้าไม่มี เราก็ต้องเตรียมเงินไว้ซื้อเองครับ ราคาสำหรับรถ Ecocar - B segement นะครับ ก็อยู่ที่ 15K - 20K โดยประมาณ

(6) ค่าน้ำมัน :

หลายๆ คนไม่เคยซื้อรถ คิดว่าน้ำมันติดรถมาเต็มถังใช่ไหมครับ ตอนแรก aomMONEY ก็คิดแบบนั้นครับ แต่บอกเลยครับว่า ไม่ มันมีมานิดเดียวครับ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรเตรียมเงินค่าน้ำมันมาด้วย แต่บางศูนย์ เค้ามีโปรโมชั่นแถมบัตรเติมน้ำมันมาให้นะ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นศูนย์รถนั้นๆ เลย หรือที่เราดีลกับเซลล์เลยครับ

จบค่าใช้จ่ายในการออกรถครั้งแรกกันไปแล้วนะครับ

ต่อไปเรามาดูค่าใช้จ่ายประจำปีที่เพื่อนๆ ต้องจ่ายเมื่อมีรถสักคันกันดีกว่า

ค่าใช้จ่ายประจำของรถในแต่ละปี

(1) ค่างวดรถ :

ตรงนี้เป็นรายจ่ายประจำ ที่เพื่อนๆ ต้องจ่ายทุกเดือนและตรงเวลานะครับ บางคนเลือกดาวน์เยอะ เพื่อให้ค่าผ่อนต่องวดเบาลง แต่ระวังนะครับ สำหรับคนเลือกผ่อนน้อยผ่อนนาน อย่าลืมเช็กดอกเบี้ยด้วยนะครับว่าสูงเกินรับได้หรือเปล่า

(2) ค่าน้ำมันรถ :

อันนี้แล้วแต่ว่าแต่ละคนใช้รถหนักแค่ไหน ทั้งนี้ไม่รวมค่าสึกหรอนะ

(3) ค่าที่จอดรถ :

โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่ทำงานในกรุงเทพ ค่าที่จอดรถตามอาคารค่อนข้างแพงนะครับ บางคนก็ต้องจอดรถตามสถานี BTS เพื่อต่อ BTS ไปทำงานต่อ อย่างสถานีข้างๆ ออฟฟิศออมมันนี่ ก็ตกวันละ 80 บาท ครับ

(4) ค่าเช็กระยะทุกๆ หมื่นโล หรือ 6 เดือน :

อันนี้ ยิ่งรถราคาแพง ค่าบำรุงรักษาส่วนนี้ก็ยิ่งแพงครับ และในรถป้ายแดงเนี่ย ส่วนมากจะต้องเช็กระยะกับศูนย์ก่อน เพราะมันมีผลกับวอรันตีรถที่มีมา 3 ปี 100,000 โลครับ

(5) ค่าประกันภัยรถยนต์ (แบบสมัครใจ) :

ตรงนี้จะมีตัวเลือกให้เราเลือกเยอะครับ ชั้น 1 2 3 จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่แนะนำว่าควรทำนะ เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม

(6) ค่าต่อภาษีรถยนต์ :

อันนี้ต้องจ่ายทุกปีครับ ตาม CC เครื่อง ยิ่งเครื่องแรงขึ้น ก็ต้องจ่ายแพงขึ้นครับ

(7) พรบ. :

อันนี้ต้องต่อทุกปี เหมือนกันครับ พรบ. ต่างกับประกันภัยรถยนต์ข้อ 6 ตรงที่ พรบ. บังคับทำทุกคันครับ จุดประสงค์ไว้เพื่อคุ้มครองคนเลยครับ คนขับ คนนั่ง คนเดินถนน ใครก็ตามที่ได้รับอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต ตรงนี้ ถ้าเป็นรถเก๋งเบี้ยไม่แพงครับ ประมาณ 600 กว่าบาท

(😎 ค่าใช้จ่ายจิปาถะ : ไม่ว่าจะเป็น ค่าล้างรถ ค่าล้างแอร์รถ หรือวันนึงเราขับรถไปเหยียบยางมะตอย ก็ต้องมีค่าขัดยางมะตอย หรือค่าเปลี่ยนอะไหล่ตามกาลเวลา เช่น ยางรถ สายพาน ตรงนี้จิปาถะมากๆ ครับ อย่างล่าสุด เพื่อนผมขับรถไปเหยียบยาวมะตอยมา เอาไปขัดรอบคัน โดนไป 1,500 บาทครับ (ร้านต่างจังหวัด) )

จะเห็นได้ว่าการมีรถยนต์ 1 คัน แม้จะเพิ่มความสะดวกสบายให้เรา แต่ก็เป็นความสะดวกสบายที่มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยต่างๆ ดังนั้นการจะมีรถยนต์สักคัน aomMONEY ขอแนะนำว่าควรตัดสินใจจากความจำเป็น เนื่องจาก “รถ” เป็นสินทรัพย์ที่ราคาเสื่อมตามกาลเวลา ดังนั้นควรชั่งน้ำหนักและตัดสินใจให้ดีครับ