DOHOME หรือ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร เริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจสาขาแรกตั้งแต่ปี 2526 ที่ จ.อุบลราชธานี รวมประสบการณ์การทำธุรกิจนานกว่า 36 ปี และตอนนี้ DOHOME พร้อมแล้วที่จะเข้าตลาดหุ้น

ร้านโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร DOHOME จัดเป็น One-stop Home Products Destination ภายใต้แนวคิด “ครบ ถูก ดี…ที่ดูโฮม” โดยมีสินค้าที่ครบครันหลากหลายประเภท หลายรูปแบบ และหลายระดับราคา ครอบคลุมทั้งกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มวัสดุซ่อมแซม ไปจนถึงกลุ่มวัสดุตกแต่ง ซึ่งสินค้ารวมมากกว่า 135,000 SKUs ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์และเครื่องมือช่าง ตลอดจนอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน พร้อมบริการที่เกี่ยวข้องครบวงจร เช่น บริการจัดส่งสินค้า บริการประกอบติดตั้ง บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซม เป็นต้น

ปัจจุบัน DOHOME มีทั้งหมด 9 สาขา ใน 9 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต (ปทุมธานี) ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 (สมุทรสาคร) บางบัวทอง (นนทบุรี) เชียงใหม่ (ลำพูน) และบางนา (ฉะเชิงเทรา) และ 1 ศูนย์กระจายสินค้า (DC) ที่จังหวัดปทุมธานี

สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ อ้างอิงจากข้อมูลย้อนหลังปี 2559 – 1Q62 ได้แก่ สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 46 – 49% สินค้ากลุ่มวัสดุซ่อมแซมคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 35 – 38% และสินค้ากลุ่มวัสดุตกแต่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 15 – 17%

ในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯ ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ

รายได้ของบริษัทฯ ในช่วงปี 2559 – 2561 ค่อนข้างอยู่ในระดับคงที่ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่การปรับโครงสร้างองค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยทีมงานมืออาชีพ ให้พร้อมต่อการขยายธุรกิจครั้งใหม่ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตในปี 2559 – 2560 ก่อนจะชะลอตัวในปี 2561 สาเหตุหลักมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นสินค้ากลุ่มหลักที่ลดลง อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต เช่น การเปิดศูนย์กระจายสินค้า การขยายทีมงานและการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเติบโตจาก 185.63 ล้านบาท ไปเป็น 246.68 ล้านบาท ซึ่งหลังจากระดมทุน นอกจากบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ ลงทุนในระบบ IT และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ที่กู้ยืมจากสถาบันการเงิน ดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทฯ จะมีแนวโน้มลดลง และทำให้กำไรสุทธิมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ

DOHOME ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ (House Brand) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงและมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน DOHOME มีสินค้า House Brand มากกว่า 20,000 SKUs (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2562) ประกอบไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เครื่องมือช่าง ฮาร์ดแวร์ ประตู-หน้าต่าง วัสดุปูพื้น-ผนัง และอุปกรณ์ประปา ฯลฯ

การขยายช่องทางการขายเป็นช่องทางในการเติบโตที่สำคัญ

DOHOME วางแผนขยายสาขาทั้งในรูปแบบสาขาขนาดใหญ่ไปยังจังหวัดหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะปรับพื้นที่สาขาให้เล็กลง ด้วยการลดพื้นที่คลังสินค้า แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ “ครบ ถูก ดี” รวมถึงขยายสาขาขนาดเล็กที่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าไปขยายสาขาในพื้นที่เมือง และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้มากขึ้น

นอกจากนี้ DOHOME ยังเตรียมติดตั้งระบบปรับอากาศ (Air Conditioning) ในบริเวณพื้นที่ขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า และพิจารณาติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) ในพื้นที่คลังสินค้า เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนในการเตรียมความพร้อมและสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในอนาคต

ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกชมและสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อให้ DOHOME สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ช่องทางออนไลน์จะช่วยลดต้นทุนในการบริหารสินทรัพย์ จำพวกที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน

หากใครสนใจหุ้นวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน คงจะต้องหยิบ DOHOME ขึ้นมาดูกันเสียหน่อย

เน้นอีกครั้งว่าบทความนี้ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำให้ซื้อ ถือ หรือขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด เพียงแต่สรุปเนื้อหาพื้นฐานของบริษัทฯ เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ และชี้ประเด็นที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนได้ ใครสนใจ อย่าลืมทำการบ้านในการศึกษาเพิ่มเติม

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

บทความนี้เป็น Advertorial