เป็นคำถามเกี่ยวกับการเงินที่เป็นทอปฮิตตลอดกาลในเรื่องนี้เวลาคุณไปอ่านในเว็บบอร์ด หรือกรุปทางการเงิน ซึ่งก็จะมีคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์มกมาย บ้างก็ว่าอายุ 30 บ้างก็ว่าอายุ 35 ปี

ผมคิดเรื่องนี้ออกมาเมื่อแฟนผมเพิ่งคุยกับผมว่าทำงานมาหลายปี ยังมีเงินเก็บไม่ถึงหนึ่งล้านบาทเลย ซึ่งจริงๆตัวผมเองในปัจจุบันก็ยังมีเงินเก็บไม่ถึงหนึ่งล้านเช่นกัน นั่นสิเมื่อไหร่ที่เราควรมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาท?

อันที่จริงผมเคยมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทแรกตอนอายุ 32 ปีแต่ใช้ในการทำรีโนเวทบ้านไปจนเกือบหมด หรืออย่างแฟนผมมีเงินเก็บไม่ถึง 1 ล้านบาทก็จริงแต่ไม่มีภาระต้องผ่อนบ้านและรถยนต์แล้ว ทำให้สิ่งที่เป็นคำถามที่สำคัญกว่าน่าจะเป็น 2 คำถามก็คือ คำถามแรกถ้าคุณมีเงิน 1ล้านบาทแรกแล้วในขณะนั้นคุณมีหนี้ที่ต้องแบกรับอยู่เท่าไหร่?

สมมุติว่าคุณสามารถมีเงินเก็บในบัญชี 1 ล้านบาทแล้ว แต่ถ้าคุณมีหนี้ที่เกินตัวเกินความสามารถในการผ่อนชำระ ก็ถือว่ามีวินัยทางการเงินที่ไม่ดีได้ คือมีเงินเก็บ แต่มีหนี้ที่เกินเงินเก็บ (ไม่รวมการผ่อนชำระระยะยาวเช่นการผ่อนบ้านที่มีมูลค่าเกินหนึ่งล้านบาท) หรือเงินหนึ่งล้านบาทที่หามาได้นั้นมาจากวิธีการที่ไม่สุจริตนั้นก็ถือว่าเป็น “เงินร้อน” เช่นกัน

คำถามที่สองที่น่าจะถามต่อไปก็คือ “เมื่อคุณมีเงินล้านแรก คุณจะเอาเงินก้อนนั้นไปทำอะไร?” คนเราไม่ได้เก็บเงินเพื่อเก็บเงินอย่างแน่นอนต้องมีเป้าหมายที่อยากจะทำอยู่

บางคนอาจจะเอาไปใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือรถยนต์ บางคนจะเอาไปลงทุนต่อยอดให้เงินงอกเงย หรือ บางคนมีเป้าหมายส่วนตัว เช่น ไปเรียนต่อเมืองนอก ไปเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น ดังนั้นการมีเงินเก็บ1ล้านบาทอาจจะไม่ใช่ “เป้าหมาย” แต่เป็น “วิธีการ”ที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่คุณอยากทำจริงๆมากกว่า

ดังนั้นคำตอบของคำถามนี้ก็คือ เรามีหนึ่งล้านแรกแล้วเราควรคิดเสมอว่าจะเอาเงินหนึ่งล้านแรกนั้นไปทำอะไรและในขณะนั้นเรามีหนี้ที่ต้องการสภาพคล่องอยู่เท่าไหร่ นั่นคือเวลาที่พร้อมที่สุดที่เราควรจะ “มีเงินหนึ่งล้านบาทแรก”ครับ พอถึงตรงนี้ผมอาจจะไม่ได้ตอบคำถามทุกคนโดยตรง แต่อยากจะชวนย้อนกลับไปให้ทุกคนคิดอีกครั้งว่า เรามีเงินหนึ่งล้านบาทแรกไปทำไม?มากกว่า

ให้กำลังใจทุกคนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่อาจจะไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น ผมมีเพื่อนที่ตั้งเป้าหมายว่าอายุ 27 ปีจะต้องมีเงินหนึ่งล้านบาทแรกให้ได้ จากเงินเดือนพื้นฐาน 15,000 บาท เขารับงานในหลายๆทางจนสามารถบรรลุเป้าได้สำเร็จ

แต่มาตรวจพบว่าสุขภาพแย่มากๆจากการทำงานหนักเกินไป ร่างกายชำรุดและต้องใช้เงินหนึ่งล้านบาทแรกที่เขาหามาได้ส่วนหนึ่งในการรักษาตัวเองและยังได้โรคประจำตัวแถมมาทั้งกรดไหลย้อน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและภาวะซึมเศร้าติดตามมาด้วย ดังนั้นตัวเลขอายุเป็นเป้าหมายที่ดี แต่อย่ากดดันตัวเองจนเกินไปจนสิ่งที่คุณแลกมานั้นไม่คุ้มกับเงินหนึ่งล้านบาทจะดีกว่าครับ