แม้ชาว GenZ จะเรียกได้ว่าเติบโตมากับยุคอินเทอร์เน็ต ที่แม้แต่การเงิน การลงทุน ไปจนถึงการชอปปิงก็สามารถทำผ่านออนไลน์ได้ทั้งหมด แต่การสำรวจจาก บริษัท HarrisPoll ในนามของ CreditKarma กลับเจอผลลัพธ์ที่สนใจเมื่อ 69% ของชาว GenZ ในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ หันมาใช้เงินสดกันมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ซึ่งวันนี้ aomMONEY อยากพาไปดูต้นตอของเทรนด์การเงินที่ดูสวนทางกับยุคออนไลน์นี้กัน

💌 ‘Cash Stuffing’ เทรนด์แบ่งเงินใส่ซองที่กำลังมาแรงใน Tiktok

แทนที่จะฝากเงินไว้กับธนาคาร เทรนด์การเงินของชาว GenZ ตอนนี้ คือการ ‘ถอนเงินครั้งละมากๆ’ และเก็บไว้กับตัวเอง โดยใส่ซองจดหมายแยกไว้ใช้จ่ายสำหรับแต่ละวัน แถมยังแยกประเภทของค่าใช้จ่ายอีกด้วย เช่น ซองสำหรับเที่ยวเล่น หรือซองสำหรับชอปปิงโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการจัดสรรเงินนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Cash Stuffing’ ที่เคยเป็นที่แพร่หลายมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนจะกลับมาบูมอีกครั้งในช่วงนี้

เทรนด์ Cash Stuffing กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Tiktok ตัวอย่างเช่น ช่อง CDN Girl Cash Stuffer ที่สาธิตกลยุทธ์การบริหารเงินสดด้วยการจัดสรรใส่ซอง ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 220,000 คน และหนึ่งในวิดีโอที่สาธิตเทรนด์ Cash Stuffing นี้ก็มียอดดู 8.9 ล้านครั้งตั้งแต่เดือนเมษายน 2023

“แนวคิดก็คือ เมื่อเงินหมดไปจากซองนั้น คุณจะไม่สามารถใช้เงินในส่วนนั้นได้อีกต่อไป”

- ร็อด กริฟฟิน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการศึกษาผู้บริโภค จาก Experian กล่าวกับ Newsweek นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐ -

ความท้าทายของเทรนด์นี้คือ การแบ่งจัดสรรเงินให้ดีตั้งแต่วันแรก และการใช้เงินในซองนั้นให้พอก่อนที่รายได้รอบใหม่จะเข้ามา เพราะหากหมดก่อน ก็จะไม่สามารถใช้เงินในส่วนนี้ได้อีก เช่น หากซองเงินสำหรับชอปปิงหมดลงตั้งแต่กลางเดือน ก็เท่ากับว่าห้ามชอปปิงเลยจนกว่าเงินเดือนรอบใหม่จะมานั่นเอง

📵 ที่ทำไปไม่ใช่เพราะชอบความท้าทาย แต่การจ่ายเงินออนไลน์ ‘มันง่ายเกินไป’

แม้ชาว GenZ จะชอบอะไรที่รวดเร็ว และเทรนด์การจัดสรรเงินที่กำลังบูมใน Tiktok อาจจะสร้างความสนุกได้บ้าง แต่ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะการจ่ายเงินแบบออนไลน์มันง่ายเกินไป จนควบคุมการเงินไม่อยู่ นี่ต่างหากคือต้นกำเนิดเทรนด์ Cash Stuffing

ร็อด กริฟฟิน ให้ความเห็นว่า การที่แค่แตะโทรศัพท์ หรือสแกนเพื่อจ่ายเงินออก ทำให้การใช้จ่ายในบางครั้ง ‘ไร้เหตุผล’ และมันกระทบต่อชีวิตอย่างมาก การหยิบเงินสดออกจากซองมาใช้ จะทำให้เจ็บปวด หรือเสียดายที่ต้องใช้เงิน มากกว่าการมองตัวเลขผ่านหน้าจอ

เพราะเงินสดนั้นเป็นของจริง จับต้องได้ เมื่อมันลดลง เราจะเห็นทันที ซึ่งทำให้เราเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น และกระตุ้นให้เราวางแผนการเงินอย่างรอบคอบในทุกเดือนเพื่อไม่ให้มันหมดลง

🤔 แม้ Cash Stuffing จะมีข้อดี แต่ก็มีจุดที่ต้องระวัง

จริงๆ แล้วเทรนด์ Cash Stuffing เป็นเทรนด์ที่ทุกคนสามารถลองทำตามได้ไม่ยากเลย เพียงแค่แบ่งเงินสดใส่ซองจดหมายที่ระบุชัดเจนว่าเป็นการใช้จ่ายประเภทไหน โดยห้ามใช้เงินซองอื่นมาทดแทน ซึ่งหากเราสามารถทำตามได้อย่างเคร่งครัด ก็อาจเป็นผลดีในการลดค่าใช้จ่ายไร้ประโยชน์ลงได้จริง

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเงินสดนั้นเป็นของที่จับต้องได้ และเสียหายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรืออาชญากรรม ก็ทำให้เงินสดนั้นสูญสลายไปได้ ต่างจากการเก็บเงินในธนาคารที่มีประกันความเสี่ยงตรงนี้ให้เรา นอกจากนี้ เราอาจจะพลาดโอกาสในการรับดอกเบี้ย หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากสถาบันการเงิน ที่อาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายบางอย่างให้เราได้เช่นกัน

สุดท้ายแล้วการรู้จักวางแผนการเงินนั้นเป็นเรื่องที่ดี และ aomMONEY ได้แนะนำให้ทุกคนลองทำมาตลอด แต่การวางแผนการเงินที่ดีควรสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรูปแบบการใช้จ่าย ไปจนถึงเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนซึ่งมีความแตกต่างกัน จึงอยากให้ลองนำแผนการเงินต่างๆ มาลองปรับใช้ให้เข้ากับตนเองจะดีที่สุด การตามเทรนด์อย่างเดียวอาจไม่ส่งผลดีต่อทั้งความสุขในการใช้เงิน และสุขภาพทางการเงินของเราในระยะยาวได้

เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช