เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมครับ ทำไมบางคนดูเหมือนไม่ได้ทำงาน แต่มีเงินใช้สบายๆ ทุกเดือน แต่บางคนกว่าจะได้เงินใช้แต่ละบาทแต่ละสตางค์ กลับทำงานหนักกันแทบตาย

นั่นเพราะโลกนี้มีวิธีการสร้างรายได้ 2 แบบ

1. การสร้างรายได้แบบ Active Income

คือ การสร้างรายได้โดยใช้เรี่ยวแรง เวลา และสุขภาพ ทำงานแลกเงิน ถ้าอยากได้เงินมากขึ้นก็ต้องทำงานมากขึ้น วันไหนหยุดก็ไม่มีรายได้

2. การสร้างรายได้แบบ Passive Income

เป็นการต่อยอดมาจากการสร้างรายได้แบบแรกนี่แหละ เพียงแต่รู้จักวิธีใช้เงินทำงานต่อยอด ลงทุนแรกๆ อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ระยะยาวก็เก็บกินดอกผลได้สบายๆ ในรูปแบบเงินปันผล

3 Step ง่ายๆ กับการสร้าง Passive Income เพื่อกินเงินปันผล

1. ตั้งเป้าหมายก่อนว่า อยากมีเงินปันผลใช้เดือนละเท่าไหร่
2. พิจารณาว่าจะลงทุนกับสินทรัพย์แบบไหน เช่น หุ้น กองทุน
3. คำนวณหาเงินต้นที่ควรมีไปลงทุน

ตัวอย่าง

นาย A ต้องการมีเงินปันผลใช้ชิลๆ เดือนละ 10,000 บาท โดยวางแผนจะลงทุนกับกองทุนอสังหาฯ , Reits , และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกินเงินปันผล โดยคาดหวังเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 6%

แล้วนาย A จะต้องมีเงินต้นเท่าไรล่ะ ?

สูตร คือ [จำนวนเงินปันผลที่อยากได้ต่อปี ÷ อัตราผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน]
= [10,000 x 12] ÷ 0.06
= 2 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า ถ้าอยากมีเงินปันผลใช้เดือนละ 10,000 บาท จะต้องมีเงินต้นในการลงทุนไว้ประมาณ 2 ล้านบาท แต่ก็อย่าลืมว่า ในความเป็นจริง กองทุนอาจจะไม่ได้มีผลดำเนินงานดีทุกปี บางปีเราอาจขาดทุนก็ได้!

รู้ไว้! หัวใจสำคัญของการสร้าง Passive income มี 2 สิ่ง

ได้แก่ “จำนวนเงินต้น” และ “อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่เรานำเงินไปลงทุน” โดยเงื่อนไขสำคัญ คือ การควานหาสินทรัพย์การลงทุนที่จะได้ผลตอบแทนตามที่เราคาดหวังไว้ และควรเป็นผลตอบแทนที่คิดหลังภาษีด้วยนะ

ก็เรียกได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านหนัก
โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้

เพราะฉะนั้น aomMONEY ขอแนะนำว่า ถ้า ณ ขณะนี้ยังมีแรงทำงาน ก็อยากให้หารายได้จาก Active Income ควบคู่กันไปกับ Passive Income อย่าหวังพึ่งพารายได้จากทางใดทางหนึ่งปลอดภัยไว้ก่อนครับ

- บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำการลงทุน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน