จริงไหมที่หลายคนชอบพูดว่า…

“เติมน้ำมัน” ไป “ทำงาน”
“ทำงาน” เพื่อ “หาเงิน”
“หาเงิน” มา ”เติมน้ำมัน”

ถึงแม้ว่าเงินที่เราหามาได้ ไม่ได้ถูกใช้ไปกับการเติมน้ำมัน 100% แต่เชื่อว่าถ้าคิดเป็นสัดส่วนก็คงไม่น้อยเลย สมมติว่าเงินเดือนกลางๆ สัก 20,000 บาท เติมน้ำมันเฉลี่ยตกเดือนละ 5,000 บาท ก็เท่ากับว่า 25% ของรายได้หมดไปแล้วกับค่าน้ำมัน

วันนี้ aomMONEY ขอนำเสนอเคล็ด(ไม่)ลับในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเติมน้ำมัน ซึ่งน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย แต่ก็ดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย เพราะอย่างน้อยสมมติว่าเราประหยัดเงินค่าน้ำมันได้ และนำเงินส่วนนั้นไปต่อยอด ก็มีโอกาสทำให้เงินเติบโตได้ไม่น้อยเลยนะ

⛽️1.จ่ายค่าน้ำมันด้วยบัตรเครดิต

สมัยก่อนการจ่ายค่าน้ำมันด้วย “เงินสด” ถือเป็นเรื่องที่ประหยัดที่สุด ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายบัตร ไม่ต้องถูกชาร์จ 3% จากปั๊ม และไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

แต่ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคของการแข่งขัน ทั้งผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน และผู้ให้บริการบัตรเครดิตเอง ต่างงัดกลยุทธ์ต่างๆ มาล่อตาล่อใจลูกค้า ผ่านการนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ได้รับพอยต์ เก็บไว้แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ, ให้ cash back เงินคืน หรือ มอบส่วนลดค่าน้ำมัน และไม่คิดค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทั้งนั้น แต่ๆ ต้องชำระเงินให้ตรงเวลาด้วยนะ จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยแพง

⛽️2. เติมน้ำมันด้วยการใช้ “บัตรสะสมแต้ม”

การคืนเงินค่าน้ำมัน หรือ ให้ cash back เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันได้ค่อนข้างมาก แต่อย่าลืมว่า บัตรสะสมแต้มนั้น เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด ที่มีเป้าหมายทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือ ใช้บริการอีก ดังนั้น จะเลือกใช้บัตรสะสมแต้มของค่ายน้ำมันไหน ก็ต้องดูเงื่อนไขและข้อจำกัดในการใช้แต้มให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าสมัครสมาชิก ระยะเวลาสะสมแต้ม ค่าสินค้าขั้นต่ำ และจำกัดสาขาหรือไม่ ซึ่งถ้าละเลยเรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้อาจต้องเสียสิทธิไปฟรีๆ

⛽️3. เติมน้ำมันให้ถูกเวลา

รู้มั้ย? ที่อเมริกา วันอาทิตย์และวันจันทร์ เป็น 2 วันที่ราคาน้ำมันจะถูกที่สุดในรอบสัปดาห์ ตามข้อมูลของ GasBuddy บริษัทเทคโนโลยีที่ติดตามน้ำมันแบบเรียลไทม์ที่สถานีน้ำมันกว่า 150,000 แห่งทั่วโลก

ส่วนประเทศไทยนั้น หลายปีก่อน หลายคนเลือกเติมน้ำมันในวันศุกร์ เพราะราคาน้ำมันจะต่ำกว่าวันอื่นๆ แต่ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก จึงไม่สามารถทำแบบนี้ได้ จึงขอแนะนำให้เติมน้ำมันในช่วงที่สะดวก หรือ ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรเติมก่อนปั๊มน้ำมันประกาศขึ้นราคา 1 วัน หลายคนถามแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าน้ำมันจะปรับขึ้นวันไหน เพียงแค่เข้าไปดูเฟซบุ๊ก หรือ แอปฯ ของค่ายน้ำมันต่างๆ ก็มักจะมีประกาศดังกล่าวบอกไว้

⛽️4.ใช้น้ำมันให้ถูกต้อง

ปกติถ้าเอาเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ทางศูนย์จะเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมให้กับรถ แต่ถ้าคุณต้องเลือกเอง ควรเลือกน้ำมันเครื่องให้ตรงกับรุ่นรถปีที่รถผลิต และระยะทางสะสม (ไมล์) ของรถ เพื่อจะได้น้ำมันเครื่องที่ตรงกับสถานะของรถ นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้วยังเป็นการถนอมเครื่องยนต์ให้อยู่กับเราไปนานๆ

⛽️5. ใช้ความเร็วคงที่

หลายคนเข้าใจว่า ขับรถที่ความเร็วไม่สูงจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ แต่ความจริงแล้วการขับรถด้วยการรักษาความเร็วคงที่และสม่ำเสมอ ประมาณ 60-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต่างหากถึงจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ เพราะความเร็วช่วงนี้ จะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด ร่วมกับการใช้เกียร์ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไป

⛽️6. วางแผนการเดินทาง

ต้องยอมรับว่านี่เป็นวิธีประหยัดน้ำมันที่ควรทำ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน แนะนำว่า ผู้ใช้รถควรศึกษาข้อมูล เส้นทางต่างๆ ที่คล่องตัวที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นติดขัด ซึ่งจะเผาพลาญน้ำมันโดยใช่เหตุ แล้วถ้าจะต้องเดินทางไปทำธุระหลายที่ ควรเริ่มจากเป้าหมายที่ไกลที่สุดก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมา เพราะถ้าเริ่มจากระยะทางใกล้ๆ เครื่องยนต์ยังทำงาน อุณหภูมิที่ยังไม่ถึงระดับจะทำให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงสิ้นเปลืองกว่าปกติ และเมื่อดับเครื่องยนต์และสตาร์ทใหม่ก็เท่ากับเริ่มต้นอุ่นเครื่องกันใหม่อีกครั้ง

⛽️7. บรรทุกสิ่งของที่จำเป็น

การบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าเดิมด้วย แล้วรู้กันมั้ย ถ้าขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็น ประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันถึง 40 ซีซีเลยทีเดียว

⛽️8. ตรวจเช็กเครื่องยนต์-ลมยาง เป็นประจำ

การตรวจเช็กเครื่องยนต์และลมยาง ให้ได้มาตราฐานเป็นประจำ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3 - 9% แต่ถ้าละเลยเรื่องนี้ จะทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงและกินน้ำมันมากขึ้น

⛽️9. ใช้เครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น

เครื่องปรับอากาศในรถเพิ่มอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของยานพาหนะได้มากถึง 20% แนะนำว่า ถ้าแดดไม่แรง หรือ อยู่ในสถานที่ธรรมชาติ ควรเปิดหน้าต่าง และใช้ระบบระบายอากาศแบบไหลผ่าน แต่ถ้าสภาพอากาศร้อนจัดแบบตอนนี้ ก็ใช้เครื่องปรับอากาศไปเถอะ แต่ให้ใช้ตัวเลือกหมุนเวียนซ้ำ ก็จะช่วยลดผลกระทบได้

⛽️10. ท้าทายตัวเอง

หลายคนบอกว่า ให้ประหยัดค่าน้ำมัน เป็นเรื่องค่อนข้างฝืนธรรมชาติ แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นมากพอที่จะประหยัดเงิน ด้วยการท้าทายตัวเองว่าต้องทำได้ และทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากให้ลงมือทำ แบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป รวมทั้งบันทึกด้วยว่าแต่ละเดือนลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้เท่าไร สุดท้ายพอเห็นเงินเงินที่คุณประหยัดได้มีเพิ่มขึ้น คุณจะยิ้มออก

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมัน และมีเงินเหลือที่จะนำไปเก็บออม เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ มีความมุ่งมั่นลดค่าใช้จ่าย เชื่อเถอะคุณก็ทำได้