สมัยก่อนเราคงเคยได้ยินคำว่า “กัดก้อนเกลือกิน” ใช่ไหมครับ คือความรักในรูปแบบที่ว่าถึงแม้ยากลำบากแต่ขอให้มีคนรักเราจริงก็สามารถฟาฝ่าอุปสรรคไปได้ แต่พอยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเราอาจจะรู้สึกว่าเคสแบบนี้เกิดขึ้นน้อยลงเพราะอะไร?

เรื่องนี้มี 2 ปัจจัย…

ปัจจัยแรกก็คือ “ค่าครองชีพที่สูงขึ้น” เพราะในปัจจุบันด้วยอัตราเงินเฟ้อต่างๆ ค่าแรงเพียงหนึ่งคนนั้นไม่สามารถเลี้ยงดูสองชีวิต (หรืออาจจะมากกว่านั้นหากมีลูก)

ส่วนอีกปัจจัยก็คือ “ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน” ของคนเราเปลี่ยนไป

สมัยก่อนที่กัดก้อนเกลือกินอาจจะต้องการแค่ข้าวสารกรอกหม้อ มีที่ซุกหัวนอน แต่เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงไปปัจจัยพื้นฐานหลายคนก็เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่ารถ ฯลฯเรียกได้ว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง เผลอ ๆ ถ้าการเงินมีปัญหาก็กระทบกับความสัมพันธ์อื่นๆตามไปด้วยนะครับ

ถ้าพูดแบบไม่ใจดำ “ความรักกับเรื่องเงินเกือบจะเป็นเรื่องเดียวกัน” เรื่องหนึ่งที่ผมมักจะให้ความสำคัญเวลาที่จะคบกับใครสักคนก็คือ

“เขามีมุมมองต่อการบริหารจัดการเงินอย่างไร?”

เพราะมันสะท้อนว่าเขาจะสามารถประคับประคองให้ครอบครัวของเราในอนาคตนั้นไปรอดได้หรือไม่เช่นกัน หากเป็นคนสุรุ่ยสุร่ายถ้าหากมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ก็อาจจะทำให้ลำบากใจได้ เผลอๆจะสร้างหนี้สร้างสินให้กับครอบครัว

ดังนั้นลองเรียนรู้มุมมองทางการเงินของอีกคน

- ไม่ว่าจะเป็นเขาชอบออมไหม?
- เป็นคนเล่นการพนันหรือเปล่า?
- เวลามีปัญหาทางการเงินเขาจะหาทางออกอย่างไร?

เรื่องนี้เป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่สำคัญนะครับ เรียกได้ว่าสำคัญพอๆกับความรักที่มีให้ต่อกัน สมมุติเราไปรักใครสักคนมากๆ รักจนไม่ลืมหูลืมตา แต่เขาเป็นคนฟุ่มเฟือย มีอะไรเราก็ยกให้เขาตามใจเขาหมดเราลองถามตัวเองดูครับว่า แท้จริงแล้วเรามีความสุขหรือไม่ที่เป็น “พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้”

แต่ก็ไม่ควรที่ขนาดตระหนี่ถี่ถ้วนกับคนรักของคุณมากเกินไปแบบที่เขาอาจจะอึดอัดได้ เพราะความรักและความสัมพันธ์เป็นเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึก อีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องของเหตุผลดังนั้นเราจำเป็นต้องบาลานซ์เรื่องนี้ให้ดีๆ หาจุดลงตัวให้ได้ ผมเชื่อว่าความรักของคุณจะมีความสุขและยืนยาวไม่เฉพาะแค่วันวาเลนไทน์เลยครับ