KARMART (หุ้น KAMART) หรือบริษัทคาร์มาร์ท ทำธุรกิจหลักในการนำเข้าและจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ แบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยกัน ก็อย่างเช่น CATHY DOLL, BABY BRIGHT ที่มักเห็นวางขายในร้านสะดวกซื้อต่างๆ อาทิ 7-Eleven อยู่จนคุ้นตา

ในไตรมาส 1 กำไรของ KARMART เติบโตถึง 129% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก ยอดขายเครื่องสำอางที่เติบโตสูงถึง 166.71 ล้านบาท หรือ 39.87%

หลัก ๆ คาดว่ามาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ๆ ในช่วงปี 2565 อย่างเช่น แบรนด์ BABY BRIGHT ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ MASK FRIENDLY LIP TINT , Healthy Collagen Tint

นอกจากนี้ KARMART ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ดัง เช่น BROWIT ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งคิ้ว ร่วมกับคุณฉัตรชัย เพียงอภิชาติ หรือที่เราคุ้นเคยในนาม น้องฉัตร ช่างแต่งหน้าชื่อดังอีกด้วย

ก่อนที่ KARMART จะกำไรโตขนาดนี้ KARMART เคยขาดทุนเกือบ 300 ล้านบาทเลยทีเดียว และไม่ได้ทำธุรกิจเครื่องสำอางมาตั้งแต่แรกด้วย

เคยเป็นหุ้นที่มีราคาต่ำสุด 0.06 บาท ก่อนที่จะกลับไปทำจุดสูงสุดได้ 11 บาท หรือประมาณ 182 เด้งในเดือนตุลาคมปี 2016

เราลองมาย้อนไทม์ไลน์กำไร KARMART กัน..

ก่อนหน้าปี 2009 KARMRT เคยทำธุรกิจขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ชื่อ บมจ.ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น (DISTAR) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ต่อมาในปี 2009 เริ่มทำธุรกิจเครื่องสำอาง ขาดทุน 263.6 ล้านบาท

ปี 2010 เริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ 52.6 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยอดขายเครื่องสำอางโตกว่า 100%

ปี 2011 กำไร 112.1 ล้านบาท (เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทคาร์มาร์ท)

ปี 2012 กำไร 152 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก KARMART เข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอางเต็มตัว และมีกำไรโตขึ้นเรื่อยๆ

ปี 2017 กำไร 281.6 ล้านบาท

ปี 2018 กำไร 361.5 ล้านบาท

แต่ หลังจากปี 2018 KAMART เริ่มมีการเติบโตของรายได้และกำไรที่ลดลง ..

ปี 2019 กำไร 263.55 ล้านบาท

ปี 2020 กำไร 134.4 ล้านบาท (กำไรที่ลดลง สาเหตุหลักมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจาก บริษัทชำระค่าเสียหายให้กับบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จากคดีฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธิ์งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2018)

ปี 2021 กำไร 292.68 ล้านบาท

แม้ในปี 2021 มีกำไรเพิ่มขึ้น แต่กำไรที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มาจากรายได้จากการขายและการดำเนินงาน แต่สาเหตุหลักมาจากรายได้อื่นจากหนี้สูญรับคืนที่เพิ่มมากขึ้น และในปีก่อนหน้า บริษัทชำระค่าเสียหายให้กับบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ทำให้กำไรปี 2021 เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นโดยสรุปแล้ว ในปี 2019-2021 KARMART มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการลดลง จากสาเหตุหลัก คือ KARMART ไม่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเป็น New S Curve หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตีตลาดกลุ่มใหม่ๆ ได้..

ปี 2022 KARMART มีกำไร 325.40 ล้านบาท เติบโต 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปีนี้เป็นปีที่ KARMART มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากทั้งสถานการณ์โควิดดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Offline แบบมีนัยสำคัญ และ มาจากการออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่ๆที่ติดตลาดมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ Baby Bright รวมถึง การเพิ่มยอดขายต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดอาเซียนที่มีศักยภาพเติบโต โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ที่มีการเติบโตของสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางสูงนั่นเอง

ล่าสุด ในไตรมาส 1 ปี 2566 KARMART มีกำไรโตถึง 129% จากปีก่อน มาจากการเติบโตของยอดขาย ที่มาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในปี 2565 และการขยายช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง

กรณีศึกษานี้ทำให้เห็นว่า หุ้นที่เคยขาดทุน ก็มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ถ้ากิจการนั้นสามารถหาธุรกิจ หรือมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็น New S Curve ได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าหุ้นนั้นไม่มีการพัฒนาสินค้าหรือบริการให้เป็น New S Curve ใหม่ๆ ก็ย่อมส่งผลให้รายได้จากการขายสินค้าและบริการลดลงได้เช่นกัน สังเกตได้จากรายได้ของ KARMART ในปี 2019-2021 ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

รายได้ที่ลดลง ย่อมส่งผลให้กำไรลดลง กำไรลดลงก็ทำให้ความน่าสนใจหุ้นนั้นลดลง ท้ายที่สุดราคาก็จะลดลงตาม

แต่ถ้าหุ้นนั้นมี New S Curve ที่ทำให้เกิดรายได้หลักและกำไรเมื่อไหร่ ราคาก็พร้อมกลับมาเช่นกัน เหมือน KARMART ในปี 2022 -ปัจจุบัน

ซึ่งตอนนี้ราคาของ KAMART พุ่งขึ้นมา 71% นับตั้งแต่ต้นปีแล้ว สอดคล้องกับกำไรที่เพิ่มขึ้น P/E ตลาดตอนนี้อยู่ที่ 28.79 เท่า

สิ่งที่ต้องระวังต่อคือ ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น มักมาพร้อมความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราต้องติดตามต่อไปว่า KARMART จะมีการเติบโตได้ตามที่นักลงทุนคาดหวังหรือไม่

เพราะถ้าหุ้นนั้นเติบโตน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดหวัง โดยส่วนใหญ่ราคาหุ้นก็พร้อมลงได้เช่นกัน..

ปล.บทความนี้ไม่ได้เป็นการชี้ชวนให้ซื้อหุ้นแต่อย่างใด ผู้ที่สนใจลงทุนควรศึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติมให้เพียงพอก่อนตัดสินใจลงทุนอยู่เสมอ

ข้อมูล ณ วันที่ 6 มิ.ย.66

Ref ข้อมูล จากรายงานประจำปีของ KARMART ปี 2561-2566

https://www.karmarts.co.th/th/download/annual-report

https://www.karmarts.co.th/th/download/one-report

เขียนและเรียบเรียงโดย : พัทธนันท์ เตชะเสน (Investment Frappe)