การถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อาจเป็นฝันของใครหลายคน แต่ลองคิดดูว่า ถ้าเราเป็นผู้โชคดีคนนั้นที่ได้เงินมาจำนวนหลักสิบล้าน เราจะนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไรบ้าง?

หลายคนก็คงจะนำไปใช้หนี้ ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือซื้อของที่อยากได้ แต่เพื่อน ๆ เคยได้ยินกันรึเปล่าครับว่า “เงินจากการถูกหวย มักจะเป็นเงินร้อน” อะไรที่ได้มาด้วยความบังเอิญ หรือเพราะโชคลาภ เรามักจะไม่เห็นคุณค่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีเงินก็ไม่อยู่กับเราแล้ว

“คุณเอก” คือ ผู้โชคดีคนนั้น เขาถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554, รางวัลแจ็คพอต และรางวัลพิเศษสลากการกุศล รวมเป็นเงินทั้งหมด 42 ล้านบาท!!! แค่ฟังก็น่าอิจฉาแล้ว

แต่ด้วยการใช้เงินอย่างประมาท ทำให้เขากลายเป็น “เศรษฐีชั่วคราว” เท่านั้น เงินรางวัลก้อนโตแทบหมดเกลี้ยงภายใน 2 ปี แถมยังต้องเป็นหนี้อีก.. เพราะอะไรไปดูกันครับ

ใช้เงิน 42 ล้านอย่างไร ถึงหมดเกลี้ยงภายใน 2 ปี?

1. จ่ายหนี้นอกระบบ

2. จ่ายหนี้บ้าน 2 หลังจนหมด

3. ซื้อทองแจกพนักงานที่เคยช่วยเหลือตอนลำบาก คนละ 1 บาท จำนวน 20 คน

4. แบ่งเงินให้พ่อแม่ คนละ 1 ล้านบาท

5. แบ่งเงินให้ญาติพี่น้องล้านกว่าบาท

6. แบ่งเงินให้คนขายลอตเตอรี่ แต่ให้ผิดคนทำให้ต้องจ่ายซ้ำ รวมเป็นเงิน 550,000 บาท

7. ซื้อประกัน 500,000 บาท

8. ซื้อบ้านรวมตกแต่ง 18 ล้านบาท

9. ให้เพื่อนยืม

มารู้ตัวอีกที ภายใน 2 ปี ก็เหลือเงินเพียง 4 ล้านบาทเท่านั้น!

และเรื่องที่ทำให้คุณเอกเสียใจมากที่สุด คือ “ไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่าเทอมลูก” ทำให้ต้องลาออกจากโรงเรียน และดร็อปเรียนที่มหาวิทยาลัย เคยท้อถึงขนาดคิดวางแผนฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว เพราะมองไม่เห็นทางออก และที่พีคไปกว่านั้น “ปัจจุบันเขากลับมาติดหนี้นอกระบบอีกครั้ง”

เหตุการณ์ในครั้งนี้กลายเป็นบทเรียนราคาแพง ที่คุณเอกบอกว่า “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากบริหารจัดการเรื่องเงินให้ดีกว่านี้”

โดย พี่เอ้ กูรู aomMONEY เจ้าของเพจ วางแผนการเงินกับ Insuranger ได้ให้คำแนะนำการบริหารจัดการเงินที่ถูกต้อง ดังนี้

1. เงินสำรองฉุกเฉิน

เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และเป็นเงินสำรองก้อนแรกที่ทุกคนต้องมี เพื่อเอาไว้รองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย ตกงาน ซึ่งควรมี 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน

2. ชำระหนี้สิน

เมื่อมีหนี้ก็ต้องรีบเคลียร์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระการเงินระยะยาว ซึ่งเราไม่ควรมีหนี้สินเกิน 40% ของรายได้

3. คุ้มครองความเสี่ยง

อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็น เราควรมีเงินก้อนเตรียมไว้สำหรับจ่ายเบี้ยประกันตลอดชีวิต ควรเลือกทำประกันที่เหมาะกับตนเอง หรืออาจจะมองหาประกันที่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ด้วย

4. วางแผนบริหารการเงิน

เมื่อมีเงินก็ควรคิดว่า จะทำอย่างไรให้เงินเติบโตและงอกเงย ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการวางแผนเกษียณอายุ เราอาจจะต้องมีเงินส่วนนี้มากที่สุด สำหรับการใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถวางแผนได้ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานเลยนะครับ ยิ่งวางแผนเร็วก็จะยิ่งเป็นผลดี

5. ใช้จ่ายตามใจตนเอง

สำหรับซื้อของที่ตนเองอยากได้ หรือเผื่อแผ่คนรอบข้าง ซึ่งเราได้จัดสรรเงินในส่วนอื่นไว้อย่างดีแล้ว ดังนั้น เงินส่วนนี้จึงใช้ได้ตามใจต้องการครับ

และนี่คือข้อคิดด้านการเงินดี ๆ จากพี่เอ้ กูรู aomMONEY อย่าลืมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากการหาเงินและโชคลาภ คือ “ความรู้และทักษะทางการเงินที่ถูกต้อง” เพราะจะช่วยรักษาให้เงินอยู่กับเราไปนาน ๆ และยังทำให้เงินงอกเงยขึ้นอีกด้วย

เรื่องราวของคุณเอก เศรษฐีลอตเตอรี่ 42 ล้าน คือบทเรียนราคาแพงที่สอนให้เรามีสติ ไม่ควรใช้เงินอย่างประมาท อย่าก่อหนี้สินโดยไม่จำเป็น และต้องรู้จักวางแผนการเงินให้ดี แค่นี้เราก็รวยได้โดยไม่ต้องพึ่งโชคชะตาแล้วครับ