ข่าวด่วนในวันที่ผ่านมาที่เม้าท์กันให้แซ็ดคือการต่ออายุ LTF ให้สามารถได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไปอีก 3 ปี โดยจะต้องถือครอง LTF ทั้งหมด 7 ปีปฏิทิน ก็เลยมีคนเข้ามาคุยและถกเถียงกันเป็นจำนวนมากว่า จะเอายังไงกับการซื้อ LTF กันต่อดีครัช? (อันนี้พูดคุยกันเฉยๆนะครับเพราะต้องรอกฎหมายประกาศใช้ก่อน ซึ่งเดียวคงมีให้ติดตามต่อครับ)
ถ้าข้อกำหนดอื่นๆไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ มีแค่เรื่องระยะเวลาการถือครอง สิ่งที่มันเปลี่ยนไปก็คือ “เราจะต้องถือครองยาวนานขึ้น” เท่านั้น ซึ่งในมุมมองของผมก็หนีไม่พ้นของเรื่องการตัดสินใจ
- ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีโดยซื้อ LTF โดยยอมรับเงื่อนไขในการถือถึง 7 ปี
- ไม่ใช้สิทธิในการลดหย่อนและจ่ายภาษีในส่วนนี้
ลดหย่อนแแล้วคุ้มค่ากับเวลาที่ต้องถือหรือเปล่า?
ตรงนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องของมุมมองแต่ละคนนะครับเพราะปกติแล้วเราจะซื้อ LTF โดยมีวัตถุประสงค์ในการลดหย่อนภาษีด้วยอยู่แล้ว คงไม่มีใครซื้อเล่นๆและไม่ใช้สิทธิหรอกนะครับ ไม่งั้นไปซื้อกองทุนรวมธรรมดาดีกว่า ประเด็นความคุ้มค่านั้นมันก็จะพูดถึงในเรื่องของ เวลาที่ต้องถือนานขึ้นกับการลดหย่อนที่ได้รับ
อันนี้เป็นตารางที่ผมลองเอามาคิดเล่นนะครับ สำหรับฐานรายได้ 3 ฐาน
มันก็ต้องมานั่งคิดกันต่อจากคำถามที่ต้องถามตัวเองนะครับ ถ้าเรารายได้ปีละ 500,000 แล้วซื้อ LTF ไป 75,000 เพื่อประหยัดภาษี 7,500 บาท (10%) แล้วต้องถือครอง LTF นานขึ้นโดยไม่ขายจาก 5 ปี ปฏิทินเป็น 7 ปี ปฏิทิน เราจะโอเคไหม?
หรือเราจะทิ้งการประหยัดภาษีในส่วนของ LTF ไปเลย แล้วจ่ายภาษีที่ 18,500 บาท ตรงนี้ต้องเลือกนะครับ แต่โดยส่วนตัวผมเชื่อลึกๆว่าคนที่มีฐานรายได้สูงขึ้นก็อาจจะมีแนวโน้มที่น่าจะลงทุนกับ LTF อยู่ดีละม้างครับ
ส่วนคนที่เป็นนักลงทุนและกะจะลงทุนอยู่แล้ว บางครั้งการยอมรับเงื่อนไขถือยาวขึ้น อาจจะดีกว่าการเสียภาษีเต็มๆแล้วเอาเงินจำนวนเท่ากันไปลงทุนในกองทุนรวมธรรมดาก็ได้ ตรงนี้ผมว่ามันก็ยังทำให้ LTF น่าสนใจอยู่เพราะได้ลงทุนและยังได้รับการลดหย่อนภาษีคู่กันไป ก็อยู่ที่มุมมองละครับ มุมมองนักลงทุน กับ มุมมองนักลดหย่อนภาษีเฉยๆอาจจะต่างกันก็ได้
ลงทุนกับ LTF 7 ปี นานไปเปล่า?
ลงทุนยาวหรือลงทุนสั้นๆมันอยู่ที่วัตถุประสงค์ของเราตั้งแต่แรกครับ LTF ไม่ได้เหมาะสมกับการลงทุนระยะสั้นอยู่แล้วจากข้อกำหนด แต่เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนๆส่วนหนึ่ง เขาจะค่อนข้างกลัวในเรื่องของการปรับ Port เพราะการซื้อ LTF นั้น ไม่สามารถขายเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ก่อนกำหนด เกิดมีวิกฤติขึ้นมาไม่รู้จะทำไง ก็จะดอยกันไป ซึ่งในส่วนนี้ผมว่าจะ 5 ปีหรือ 7 ปี หลักการพิจารณาในการลงทุนมันก็เหมือนเดิม คือต้องกลับมาคุยกันในเบื้องต้นของการลงทุนนะครับว่า
- เรารับความเสี่ยงการลงทุนภายใต้เงื่อนไขได้หรือเปล่า?
ไม่มีใครรู้อนาคตอยู่แล้วว่าหรอก 7 ปีจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะดีหรืออาจจะแย่ก็ได้ ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้ก็ไม่ต้องลงทุน ถ้ารับได้บางส่วนก็ลงทุนตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อตามโควต้า 15% ให้ครบเต็มจำนวนก็ได้ และ LTF ไม่ใช่เครื่องมือการลงทุนเดียวที่มีอยู่ในตลาด เราสามารถนำเงินไปซื้อ หุ้น กองทุนรวมทั่วไป กองทุนอสังหารมทรัพย์ หรือเก็บเงินสดไว้ก็ได้นะครับ
- เรารับความเสี่ยงกับ LTF ในกองที่เราลงทุนได้ไหม?
การลงทุนใน LTF ไม่ใช่แค่การเลือกกองทุนอะไรก็ได้แล้วแค่ลงๆเงินไปเพื่อจะเอาผลประโยชน์ทางภาษีเท่านั้นนะครับ และต่อไปเราจะต้องอยู่ยาวกับเขาถึง 7 ปี เราเองจะต้องศึกษาเรื่องนโยบายของกองทุนรวมนั้นๆด้วยว่าเขาเอาเงินไปลงทุนกับหุ้นอะไร ผู้จัดการกองทุนมี Style ของการลงทุนลักษณะไหน ประเมินดูแล้วน่าจะเติบโตในอนาคตหรือไม่ กองทุนเองเขาก็จะดำเนินการของเขาอยู่แล้วนะครับ หลายๆครั้งผมเห็นคนถือยาวเขาก็ดีใจนะครับเพราะได้ทั้งผลประโยชน์ทางภาษีแถมยังได้การเติบโตของหน่วยลงทุนด้วย บางคนถือยาวกว่ากำหนดก็มี
- ลงทุน LTF เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเทียบกับการลงทุนอื่นๆด้วยนะจ๊ะ
และสุดท้ายผมว่ามันก็หนีไม่พ้นเรื่องการเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ลองคำนวณดูก็ได้นะครับว่าโดยพื้นฐานแล้วถ้าเราลงทุนใน LTF เพื่อลดหย่อนภาษีด้วยการถือไว้ 7 ปี เอาไปเทียบกับการลงทุนแบบอื่นๆในเชิงต้นทุนทางการเงินและผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร ถ้าเราเจอการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในความเสี่ยงที่เราเห็นว่าเหมาะสม ก็ลองพิจารณาเพิ่มเติมดูนะครับ
โดยสรุปผมก็อาจจะไม่ได้มีคำตอบให้แบบฟันธงอยู่ดีครับว่าเราควรจะลงทุนใน LTF ต่อไปจากข้อกำหนดที่ต้องถือครองนาน 7 ปีหรือเปล่า เพราะการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับมุมมอง วิธีการ ความเสี่ยง และการวิเคราะห์เงื่อนไขและความคุ้มค่าที่แต่ละคนจะพิจารณาเอานะครับ