“เงินซื้อความสุขได้” เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทุกวันนี้เงินนั้นเรียกได้ว่าเป็น ‘ปัจจัยห้า’ กันไปแล้ว แต่แล้ว “เงินเท่าไหร่ล่ะ?” ที่จะสามารถสร้างความสุขให้เราได้แท้จริง และยั่งยืนในระยะยาว

รายงานการวิจัยของ Princeton University ระบุว่า ‘รายได้ที่สูงขึ้นสัมพันธ์โดยตรงกับระดับความพึงพอใจในชีวิต’ และการสำรวจล่าสุดจาก Empower บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน พบว่า 6 ใน 10 ของชาวอเมริกาเห็นด้วยกับสิ่งนี้ และมองว่า ‘เงินนั้นสามารถซื้อความสุขให้เราได้จริง’

❓ แล้วต้องมีเงินเท่าไหร่ล่ะ? ถึงจะ ‘มีความสุข’

ทาง Empower ได้แบ่งกลุ่มผู้ตอบคำถามออกเป็นแต่ละเจน พบว่าในกลุ่มเจนรุ่นหลัง ต้องการเงินมากกว่ากลุ่มเจนเก่าๆ เพื่อให้ตนมีความสุข

💰 Baby Boomers: ต้องการเงินไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
💰 Gen X: ต้องการเงินประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
💰 Millennials: ต้องการเงินราว 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่น่าสนใจคือ กลุ่มคน ‘Gen Z’ นั้นมองว่าการมีเงิน และทรัพย์สินสุทธิเพียง 487,000 ดอลลาร์ นั้นเพียงพอแล้วสำหรับความสุขทางการเงิน โดยชาว Millennials กว่า 72% ยอมรับว่าตนมองว่าเงินนั้นจำเป็นยิ่งกว่าคนเจนอื่นๆ

ทีนี้เราลองมาเจาะลงไปที่ ‘รายได้ต่อปี’ จากคำตอบของคนแต่ละเจน เมื่อเฉลี่ยออกมาแล้ว รายได้ต่อปีที่จะทำให้มีความสุขมากขึ้น และความเครียดน้อยลงคือ 95,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ปัจจุบันเงินเดือนเฉลี่ยของทุกเจนรวมกันอยู่ที่ 65,000 ดอลลาร์ ยังขาดไปอีกกว่า 50% ทีเดียว

💸 แต่สุดท้ายแล้ว ‘การมีเงินเยอะ’ ไม่ใช่ ‘ปัจจัยหนึ่งเดียว’ ที่ทำให้คนมีความสุข

แม้คนแต่ละเจนจะมีเป้าหมายการเงิน และทรัพย์สินสุทธิที่ต้องการเพื่อมีความสุขเป็นของตัวเอง แต่การสำรวจทำให้เราได้พบว่า ‘การมีเงินไม่ใช่สิ่งเดียว’ ที่ทำให้ชาวอเมริกามีความสุข เพราะการเงินเป็นเพียงด้านหนึ่งของชีวิตที่ความสุขของชาวอเมริกันเติบโตมากที่สุด แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าชีวิตของเราทุกคนล้วนยังมีอีกหลายด้าน หลายมิติ แล้วมีด้านไหนอีกบ้าง? ที่ความสุขของชาวอเมริกาเติบโตขึ้นอย่างดี

➡️ เมื่ออยู่ที่บ้าน: 80%
➡️ มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง: 72%
➡️ ชีวิตในที่ทำงาน: 68%
➡️ การมีเป้าหมายทางการเงิน: 63%
➡️ การมีแผนการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน: 62%
➡️ การมีอิสระทางการเงิน: 61%
➡️ ฐานะการเงิน (ทรัพย์สินสุทธิ ฯลฯ): 58%

เพราะไม่ว่าใครต่างมองหา ‘คุณภาพของการใช้ชีวิต’ ในระยะยาว การมีเงินอาจจะช่วยให้เราซื้อความสุขบางอย่าง อย่างที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ‘ใช้เงินแก้ปัญหา’ แต่ในที่สุดแล้ว เราทุกคนต่างมองหาชีวิตที่ ‘ไม่มีปัญหา’ ให้ต้องใช้เงินเข้ามาช่วย จึงจะเรียกว่าเป็นชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน และมั่นคง