สวัสดีครับ นักลงทุนในกองทุนรวมทุกท่าน คลินิกกองทุนแห่งนี้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งแล้วนะครับ ในช่วงนี้เรามักจะได้ยินใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือว่าภาคเอกชน ได้พูดถึงเรื่องหนึ่งอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวของการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแบบที่ว่าจะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต หรือทดแทนการทำธุรกิจแบบเดิมไปเลยเพื่อให้เกิดการพัฒนา และสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีมากขึ้น

โดยถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ หรือว่า ธุรกิจที่สร้างใหม่ขึ้นมานั้นสามารถแก้ไขปัญหา และสร้างทางเลือกที่โดนใจให้กับคนทั่วไปได้แล้วละก็ จะทำให้บริษัทที่สร้างมานั้นประสบความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น จึงทำให้บริษัทเหล่านี้มีศักยภาพ ทั้งในเรื่องของจำนวนผู้ที่จะใช้สินค้าหรือบริการที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงกำไรและผลตอบแทนครับ

นั่นก็คือ “บริษัท ฯ ในกลุ่มเทคโนโลยี ฯ” นั่นเองครับ

เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่กำลังมาแรงในยุคนี้ เพราะว่าธุรกิจนี้จะเป็นส่วนเสริม หรือว่าเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสามารถขยายตัวไปได้อย่างไร้พรมแดนใด ๆ ยกตัวอย่าง เช่น Alibaba , Tencent จากประเทศจีน รวมถึง Facebook , Google ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี

ซึ่งถ้าหากเราเองคิดแล้วว่าคงไม่สามารถที่จะสร้างธุรกิจแบบนี้ได้ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่อยากที่จะตกเทรนด์ของการลงทุนในยุคนี้ไปแล้วละก็ตามมาเลยครับ ผมจะเล่าให้ฟัง….

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่มานานและมีมูลค่าทางธุรกิจสูง ๆ อย่างเช่น บริษัทน้ำมัน, ธนาคาร, หรือแม้แต่ค้าปลีกเองก็โดนทดแทนด้วยกลุ่มเทคโนโลยีทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, และ Apple ของเหล่าสาวก

ในปี 2016 ที่ผ่านมา บริษัท ฯ ที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกได้ถูกครอบครองโดยบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไปหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ บริษัทที่น่าจับตามอง และเป็นบริษัทที่นักลงทุนให้ความสนใจคือ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ชื่อว่า FANG หรือ Facebook, Amazon, Netflix,  และ Google

ถึงแม้ว่าบางธุรกิจจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ อย่างกลุ่มค้าปลีกที่เข้าไปทางออนไลน์มากขึ้น เช่น Amazon หรือว่ากลุ่มบริษัท ฯ ยา ที่ได้เทคโนโลยีมาช่วยให้การแพทย์ดีขึ้นก็ตาม แต่ว่าบางอุตสาหกรรมก็ถูกทดแทน หรือว่าถูกท้าทาย แข่งขันด้วยกลุ่มนี้เช่นกัน กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่อยู่ดี ๆ บริษัท ฯ นอกสายตา หรือผู้เล่นในกลุ่มเทคโนโลยี อย่าง Tesla เข้ามาแทรกแซงตลาดอย่างหน้าตาเฉย และเติบโตรวดเร็วกว่าที่เคยเจอในคู่แข่งระดับเดียวกันเสียอีก

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อยืนยันได้ดีว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมไหนก็ตามล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ซึ่งผมเองก็คิดว่า จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยที่หลาย ๆ อุตสาหกรรมจะถูกปฏิวัติอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

ที่ผมบอกอย่างนี้ก็เพราะว่า ถึงแม้กลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ กำลังตกที่นั่งลำบาก หรือเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวอย่างไร กลุ่มเทคโนโลยีนี้ก็ยังดำเนินไปได้ แถมเติบโตได้ดีสวนทางกับ ระบบเศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศครับ

ทั้งนี้ก็เพราะว่า กลุ่มเทคโนโลยีเองสามารถที่จะแทรกตัวไปกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้ เหมือนเป็นตัวช่วยในการพัฒนา หรือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบต่าง ๆ ได้ หรือว่าจะทำการทดแทนสิ่งที่เคยมีอยู่ไปเลยก็ได้เช่นกันครับ

ตัวอย่างเช่น ในกลุ่ม Healthcare เองก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มเทคโนโลยีได้สูงครับ ซึ่งถ้าใครเคยไปรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์น่าจะเคยได้ยินชื่อของ "Watson" ที่เป็น AI ช่วยหมอวินิจฉัยโรค และ เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษาให้กับแพทย์ จากการอ่านตำราทางการแพทย์....ใช่ครับ Watson มันสามารถอ่านหนังสือ และวิเคราะห์อาการทางโรคได้...โหดไหมละ

ให้นึกภาพว่า มันสามารถอ่านตำราวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างไม่รู้เบื่อ จำได้ทุกตัวอักษร แปลความได้ และแนะนำให้แพทย์เลือกวิธีการผ่าตัดที่ดีที่สุด มีเปอร์เซ็นต์การหายมากที่สุด ความเสี่ยงน้อยที่สุด ซึ่งบริษัทฯ IBM ผู้สร้าง Watson เองไม่ได้อยู่ในกลุ่มธุรกิจ Healthcare โดยตรง แต่ก็สร้างนวัตกรรมแบบนี้ขึ้นมาได้ ใครที่ถือกองทุน Healthcare ถึงแม้ว่าแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุจะมาถึงจริง ๆ และทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมนี้เติบโตได้ก็ตาม

แต่ผมแนะนำว่าให้กระจายพอร์ตการลงทุนไปยังกลุ่มเทคโนโลยีด้วย เพราะว่าสามารถแตกไลน์ไปทางธุรกิจอื่น ๆ ได้อย่างกว้างขวางเลยทีเดียวครับ

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

หลายคนคงมีคำถามในใจว่า แล้วถ้าเราจะลงทุนในวันนี้จะยังทันหรือไม่ หุ้นในกลุ่มนี้แพงเกินไปหรือยัง ซึ่งถ้าดูจากข้อมูลในอดีต (แต่ไม่ได้ยืนยันอนาคตนะคร้าบ) เราจะเห็นว่าราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้นก็ยังคงมีราคาไม่แพงเกินไป เหมือนในช่วงฟองสบู่ Dot com ที่ผ่านมาครับ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเกิดจากการที่ตัวอุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตที่เร็วเลยทำให้ P/E ไม่สูงมากนัก ถึงแม้ว่าจะเป็นหุ้นยอดนิยมในสมัยนี้ก็ตามครับ

คราวนี้เรามาดูถึงกองทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากไปลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเหล่านี้ นั่นก็คือ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้ (KF-GTECH)

ซึ่งกอง Master Fund นั้นก็คือกองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง T.Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 16 ปี โดยกองทุนนี้จะเน้นการลงทุนกับบริษัทที่เป็น “New Technology” จริง ๆ พอร์ตของกองทุนรวมนั้น จะมีการกระจายการลงทุนในหุ้นทุกขนาดในกลุ่มเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันจะโน้มเอียงไปทางหุ้นขนาดกลางและเล็กซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงสามา