กระแสการลงทุนเกี่ยวกับ Technology & A.I. กำลังมาแรง

หลายคนคงเห็นภาพว่ากระแส Technology & A.I. เป็นกระแสที่กำลังมีอิทธิพลกับชีวิตเราอย่างมาก คอมพิวเตอร์และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทั้งในด้านของสิ่งที่จับต้องได้ เช่น การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด รวมถึงด้านสิ่งที่จับต้องไม่ได้ อย่างการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการตัดสินใจและวิเคราะห์ปัญหา เป็นต้น

โลกดิจิทัลกำลังหมุนอยู่รอบตัวเราอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันแต่ละวินาทีที่ผ่านไป เราทุกคนต่างบริโภคสินค้าและบริการเกี่ยวกับดิจิทัลกันจำนวนมากจนหลายครั้งเราก็ลืมนึกถึงและสนใจ โซเชียลมีเดียที่เรากำลังเล่น โทรศัพท์มือถือที่เรากำลังใช้ โทรทัศน์อัจฉริยะที่เรากำลังดู หรือแม้กระทั่งปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังรับคำสั่งและค้นหาข้อมูลให้เราในอินเตอร์เน็ต

ในเมื่อเทรนด์ Technology & A.I. มาแรงแบบนี้ นักลงทุนสามารถหาประโยชน์อะไรได้บ้าง?

นักลงทุนจำนวนมากค่อนข้างละเลยกับกระแสดิจิทัลเพราะตลาดหุ้นไทยมีหุ้นเกี่ยวกับดิจิทัลอยู่น้อย นักลงทุนรายย่อยจึงมองว่ากระแสเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่ความจริง เราสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่เกี่ยวข้องกับกระแสดิจิทัลเหล่านี้ได้ วันนี้ลงทุนศาสตร์จึงคัดเอากองทุนรวม 3 กองที่เกี่ยวข้องกับกระแสดิจิทัลมาให้ศึกษากัน มีทั้งเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เอามาให้เลือกกันแบบจุใจไปเลย

SCBMLT : กองทุนที่เลือกหุ้นด้วยระบบ Machine Learning

เริ่มกองแรกด้วยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยโดยใช้ระบบของ Machine Learning ในการคัดเลือกหลักทรัพย์อย่างเป็นระบบ โดยคอมพิวเตอร์จะใช้กระบวนการศึกษาเชิงปริมาณ Quantitative Analysis และปัจจัยพื้นฐาน Fundamental เพื่อ วิเคราะห์ปัจจัยการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ดีในแต่ละช่วงตลาด ได้แก่ ปัจจัยการลงทุนเชิง Valuation, Quality, Growth, Sentiment, Momentum, Risk โดยคอมพิวเตอร์จะทำการให้น้ำหนักของปัจจัยการลงทุนแต่ละตัวไม่เท่ากัน อ้างอิงกับข้อมูลสถิติ เหตุการณ์ และรูปแบบความเคลื่อนไหวของตลาดในอดีต สุดท้ายจะนำเข้าระบบ Optimizer เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทน ความเสี่ยง และต้นทุนการลงทุน กองทุนรวม SCBMLT จึงเป็นกองทุนรวมที่เน้นการตัดสินใจด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจุดเด่นสำคัญคือจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจำนวนมาก ได้ครอบคลุม ใช้เวลาน้อย และมีศักยภาพเหนือกว่ามนุษย์ ลดปัจจัยทางจิตวิทยาต่างๆ ที่เกิดจากมนุษย์ในการตัดสินใจเลือกหุ้นไปได้ นอกจากนี้ระบบยังสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

SCBMLT หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning Thai Equity (SCB Machine Learning Thai Equity Fund) บริหารโดยบลจ. ไทยพาณิชย์ โดยกองทุน SCBMLT ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกที่ 5,000 บาท กองทุนรวมไม่มีปันผล เน้นให้กองทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และลงทุนในประเทศไทยทั้งหมด ดังนั้นจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

ด้วยความที่ SCBMLT เป็นกองทุนที่เน้นเลือกหุ้นโดยใช้ Quantitative Analysis เป็นหลักและมุ่งเน้นที่จะชนะตลาด (Active Management) สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามคือผลการดำเนินงานเทียบกับตลาดซึ่งอาจจะดูทุกปีหรือทุกไตรมาส โดยส่วนตัวลงทุนศาสตร์จะไม่เน้นแกะไส้ในหรือพื้นฐานหุ้นที่กองทุนถือเท่าไหร่สำหรับกองทุนที่มีนโยบายแบบนี้ เพราะกองทุนเน้นการใช้ Machine Learning การไปดูถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนจึงดูจะตอบโจทย์ที่สุด

SCBROBO : กองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

SCBROBO หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลโรโบติกส์ SCB Global Robotics Fund บริหารโดยบลจ. ไทยพาณิชย์ โดยจะเน้นนำเงินไปลงทุนต่อในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จากทั่วโลก กองทุนรวมเป็นแบบผสม โดยปัจจุบันลงทุนในกองทุน ETF 3 กองทุน ดังนี้ RBOT BOTZ และ ROBO

“สังเกตได้ว่า หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์
มีการเติบโตได้ดีในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา”

ซึ่งอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมของโลกที่เป็น Megatrend อย่างชัดเจน เห็นได้จากปัจจุบันสิ่งต่างๆ รอบตัวเราเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์มากขึ้น ไม่ว่าจะทางตรงอย่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หรือทางอ้อมอย่างการใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ โดยส่วนตัวมองว่ากระแสดิจิทัลและหุ่นยนต์ยังคงจะอยู่กับโลกใบนี้ไปอีกนาน การเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่เกาะกระแสไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรมแบบนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่นิยมเลือกหุ้นต่างประเทศรายตัวด้วยตนเอง

SCBROBO ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกที่ 5,000 บาท กองทุนรวมไม่มีปันผล เน้นให้กองทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม กองทุนเน้นลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก กองทุนก็จะได้รับผลจากค่าเงินมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตรงนี้ทางกองทุนก็จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่แล้ว

SCBDIGI : กองทุนที่ลงทุนในเทคโนโลยีที่ Interactive กับมนุษย์ และนวัตกรรม

SCBDIGI หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล (SCB GLOBAL DIGITAL FUND) บริหารโดยบลจ. ไทยพาณิชย์ ซึ่งกองทุนจะนำเงินไปลงทุนต่อในกองทุน Pictet-Digital ที่บริหารโดย PICTET Asset Management ที่มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลที่ Interactive กับมนุษย์ และนวัตกรรม อธิบายง่ายๆ ก็คือพวกบริษัทต่างๆ ที่มีสินค้าและบริการที่มนุษย์ใช้บริการและมีปฎิสัมพันธ์โดยตรง ส่วนใหญ่จับต้องได้และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างหุ้นที่ Pictet-Digital ถือลงทุนอ้างอิงจากหนังสือชี้ชวนฉบับสิ้นเดือนตุลาคมของกองทุน เช่น หุ้น Alphabet ที่เป็นเจ้าของโปรแกรมค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google และเว็บไซต์ Youtube หุ้น Apple ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง iPhone iPad และ Mac book หรือแม้กระทั่งหุ้น Facebook เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กลายมาเป็นสื่อสำคัญของโลกอยู่ ณ ขณะนี้ โดยหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าเติบโตไปกับกระแสดิจิทัลและสามารถติดตามได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน

SCBDIGI ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกที่ 5,000 บาท กองทุนรวมไม่มีปันผล เน้นให้กองทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม กองทุนเน้นลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก กองทุนก็จะได้รับผลจากค่าเงินมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตรงนี้ทางกองทุนก็จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่แล้วเช่นเดียวกับ SCBROBO

“เห็นไหมว่าถึงแม้จะเป็นดิจิทัลเหมือนกันแต่ก็เลือกการลงทุนที่แตกต่างกันได้”

หากชอบหุ้นไทย แต่ไม่อยากเลือกหุ้นเอง อยากให้ Machine Learning เข้ามาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้เป็นระบบมากขึ้น แบบนี้ก็สามารถลงทุนใน SCBMLT ในขณะที่ SCBROBO จะเน้นลงทุนผสมผสานทั่วโลก มุ่งไปที่การเติบโตของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เป็นหลัก หรือถ้าอยากจะเน้นเฉพาะเทคโนโลยีและมี Interactive กับมนุษย์ รวมถึงเกาะเทรนด์นวัตกรรมใหม่ๆ แบบนี้ก็เลือกลงทุนใน SCBDIGI ได้เช่นกัน

หากสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่

SCBMLT : https://www.scbam.com/th/fund/equity-funds/fund-information/scbmlta

SCBROBO : https://www.scbam.com/th/fund/interesting-fund/fund-information/scbroboa

SCBDIGI : https://www.scbam.com/th/fund/interesting-fund/fund-information/scbdigi

"ตัวเราเองก็ใช้เทคโนโลยีอยู่ทุกวัน หากวันหนึ่งจะหันมาลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ และทำให้สิ่งที่อยู่รอบตัวกลับมาสร้างผลตอบแทนให้เราบ้าง มันก็คงจะดีไม่น้อยเลย"

ลงทุนศาสตร์ - Investerest

บทความนี้เป็น Advertorial