สำหรับโค้งสุดท้ายของการซื้อ LTF และ RMF ในปี 2560 นี้ ใครที่ยังหาข้อมูลอยู่แล้วยังไม่ได้ซื้อก็ลองมาดูข้อมูลดีๆ กับกองทุน K20SLTF และ KMSRMF ของ บลจ.กสิกรไทยกันดูนะครับ ทั้ง 2 กองนี้ก็ถือได้ว่าเป็นกองทุนที่มีคนพูดถึงกันเยอะมาก ซึ่งวันนี้ผมจะเล่าให้ฟังนะครับว่ากองทุนดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร และทำไมถึงน่าสนใจ

1. มุมมองทางเศรษฐกิจของทาง บลจ.กสิกรไทย

ภาพรวมของเศรษฐกิจหลังจากนี้ต่อไปถึงช่วงปีหน้านั้น จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากปัจจัยขับเคลื่อนในเรื่องของการลงทุนภาครัฐ ความมั่นใจมากขึ้นของภาคเอกชนและผู้ประกอบการ การท่องเที่ยวที่กำลังเป็นขาขึ้น และภาคการส่งออกก็เติบโตจากการที่คู่ค้าสำคัญของไทยนั้นมีเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ทาง บลจ.กสิกรไทยก็ได้คาดการณ์ว่าดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ในระดับที่ 1,650 - 1,700 จุด และคาดการณ์ดัชนีในปี 2561 นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,820 จุด

มุมมองจากที่วิเคราะห์ เราก็จะเห็นได้ว่าถ้าเรามองไปข้างแล้วในจุดนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการสะสมกองทุนหุ้นเข้าพอร์ตเพื่อรับการเติบโตในอนาคต และที่สำคัญก็คือจะต้องเป็นกองทุนที่คัดเลือกหุ้นที่เข้าธีมการเติบโตด้วยครับ

2. กลยุทธ์กองทุน LTF/RMFที่ควรมีในพอร์ตในปี 2561

หลายๆ คนก็อาจจะมองว่าตอนนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปจากเมื่อตอนต้นปีค่อนข้างเยอะแล้ว และก็ไม่แน่ใจว่าหากลงทุนตอนนี้จะซื้อตอนราคาแพงและมีโอกาสติดดอยหรือเปล่า? ตรงนี้อยู่ที่ว่ากองทุนที่เราลงทุนนั้นมีนโยบายอย่างไร เพราะหุ้นในตลาดนั้นก็ไม่ได้ขึ้นพร้อมๆ กันทุกตัว ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนที่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้ อาจจะต้องเน้นการคัดเลือกหุ้นตัวเด็ดๆ หรือหุ้นที่ยังมีระด้บราคาไม่แพง หรือกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ยังมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต

K20SLTF

K20SLTF นั้นจะใช้กลยุทธ์การลงทุนหุ้นแบบ Stock Selection โดยเริ่มจากการวิเคราะห์หุ้นทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อหาหุ้นที่น่าสนใจ หาหุ้นที่ยังราคาไม่แพง มีแนวโน้มในการเติบโตสูง และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน กองทุนนี้จะคัดหุ้นจำนวน 20 ตัวมาลงทุนครับ ในปัจจุบันจะเน้นน้ำหนักไปยังหุ้นกลุ่มค้าปลีก เงินทุนหลักทรัพย์ พลังงานและสาธารณูปโภคที่มีแนวโน้มกำไรดี รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากแผนพัฒนา Eastern Economic Corridor (EEC) ด้วยครับ

หากเรามองตารางข้างล่างจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนในระยะสั้นในรอบ 1 ปีนั้นต่ำกว่าดัชนีชี้วัด SET TRI แต่ในระยะยาว 3-5 ปีนั้นสามารถชนะดัชนีชี้วัดได้ กองทุนนี้จึงเป็นกองทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน LTF จากทาง บลจ.กสิกรไทย และผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ก็ติดอันดับ 1 ใน 5 ของกลุ่มกองทุน LTF ทั้งหมดจาก 76 กองทุนในอุตสาหกรรม แถมยังได้รับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 3 ปีด้วย (ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ ณ  31 ต.ค. 60)

KMSRMF

KMSRMF กองทุนนี้เป็นกองทุนรวม RMF ที่เน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ มีการวิเคราะห์เพื่อเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ราคาไม่แพงและมีแนวโน้มในการเติบโตสูง สามารถกลายเป็นหุ้นขนาดใหญ่ได้ในอนาคต การลงทุนในกองทุนนี้มีความเสี่ยงสูงนะครับ เพราะฉะนั้นการถือยาวในรูปแบบ RMF นั้นก็ถือว่าเหมาะสมดีเพราะขายได้อีกทีก็ตอนอายุ 55 ปีนั่นเลย แต่ลงยาวๆ ยังไงก็มีเงินไว้ใช้สุขสบายในยามเกษียณ อย่างแน่นอน

พอร์ตการลงทุนนั้นก็เน้นในกลุ่มหุ้นสถาบันการเงิน พาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์และการสื่อสาร ด้วยมุมมองการลงทุนที่ว่าตลาดหุ้นยังได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับสูงในระบบการเงินแม้จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมถึงหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและการบริโภคภายในประเทศที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น

หากมาดูผลงานของกองทุน จะเห็นได้ว่าทั้งในระยะ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปีนั้นมีผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องและมากกว่าดัชนีชี้วัด SET TRI ในทุกช่วงระยะเวลา จึงเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับ 1 ในช่วง 1 ปีย้อนหลัง ในกลุ่ม RMF หุ้นไทยทั้งหมดในอุตสาหกรรม (ข้อมูลจาก Morningstar? ณ 31 ต.ค. 60) แม้กองทุนนี้เพิ่งจัดตั้งมาได้ประมาณ 2 ปี แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูข้อมูลเมื่อปลายปีที่แล้ว กองทุนนี้ก็ทำผลตอบแทนได้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม RMF หุ้นขนาดกลางและเล็กด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นการรักษาผลการดำเนินงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แบบนี้อนาคตมีแววให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเลยทีเดียว

3. เทคนิคในการซื้อกองทุน K20SLTF และ KMSRMF

ตามที่เราได้เห็นข้อมูลแล้วว่า กองทุนทั้ง 2 นั้น เน้นหาหุ้นที่ราคาไม่แพงและมีแนวโน้มเติบโตระยะยาว ประกอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เทคนิคในการซื้อกองทุนรวมนั้นจะใช้วิธี “ถือ & ถัว” ก็ได้นะครับ “ถือ” ก็หมายถึง เน้นลงทุนยาวๆ อย่าไปหวั่นไหวกับความผันผวนในระยะสั้น อย่างช่วงปลายปีนี้หากใครยังไม่ได้ซื้อ LTF และ RMF อาจจะซื้อและถือทั้งก้อนก็ได้ และในปีหน้าหากใครจะใช้กลยุทธ์ “ถัว” ซึ่งหมายถึงการทยอยซื้อด้วยหลักการ Dollar Cost Average (DCA) ที่แบ่งเงินเป็นก้อนย่อยๆ แล้วลงทุนแบบสม่ำเสมอ ก็จะช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนให้ถูกลง แบบนี้ก็ทำได้เช่นกัน ขอให้เน้นแค่ลงทุนยาวๆเข้าไว้ ก็จะเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้มากขึ้นครับ

น่าสนใจไหมครับกับ Style การลงทุนของกองทุนรวม LTF และ RMF ของ บลจ.กสิกรไทย หากเพื่อนๆ คนไหนอ่านข้อมูลกองทุนแล้วรู้สึกว่าเป็นกองทุนที่ใช่ อย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/h1fRbA นะครับ

สนใจลงทุนกับกองทุน LTF RMF กสิกรไทย เริ่มต้นเพียง 500 บาท ซื้อง่ายผ่าน App K-Plus, K-My Funds, บริการ K-Cyber Invest และที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาและตอนนี้ยิ่งสะดวกมากขึ้นเพราะผู้ลงทุนสามาถเปิดบัญชีใหม่กองทุน LTF/RMF ผ่าน K PLUS ได้ทันที ใครที่ยังไม่เคยมีบัญชีกองทุนกับกสิกรไทยก็สามารถทำผ่านแอพได้เลยทันที ไม่ต้องไปที่สาขา ช่วยให้สะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่มี App K-My Funds ก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แล้ววันนี้ แถมยังได้รับตั๋วหนังฟรีไปเลย 1 ใบ หมดเขต 29 ธันวาคม 2560

คำเตือน:  ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน - ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต - การลงทุนในหุ้นเด่น/หุ้นขนาดกลางและเล็กอาจมีราคาที่ผันผวนตามภาวะตลาด

บทความนี้เป็น Advertorial