ทศวรรษที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยผันผวนแต่ราคาอสังหาฯ ไม่เคยหยุดปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะราคาคอนโดมิเนียมขยับขึ้นแรงกว่าอสังหาฯ ประเภทอื่นกว่า 2 เท่าตัว ทุกวันนี้หากต้องการซื้อคอนโดในกรุงเทพฯใกล้รถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ด้วยราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาทนั้นเป็นเรื่องยาก และอนาคตข้างหน้าอีกไม่ไกลจะกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะที่ดินทำเลทองเหล่านี้กำลังจะหมดไป ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของที่ดินคงต้องการขายราคาแพงกว่าเดิม ประกอบกับอีก 10 ปีหน้าโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เกือบเสร็จสมบูรณ์ก็ทำให้อสังหาฯ ที่อยู่โดยรอบเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

บางคนกังวลว่าโครงการคอนโดเปิดใหม่ผุดขึ้นเยอะ หากลงทุนตอนนี้จะช้าไปมั้ย ผมมองว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันปล่อยเช่าและขายต่อ แต่ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในทำเลที่ใช่และมีความต้องการที่แท้จริง (Real Demand) ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมีทางเลือกในการเดินทางเยอะ เป็นแหล่งที่ผู้คนจากทุกสารทิศเข้าอยู่อาศัย มาเรียนหนังสือ หรือมาทำงาน เป็นย่านที่มีประชากรหนาแน่นสังเกตได้จาก Google Map เวลาชั่วโมงเร่งด่วนมีรถติดถนนเปลี่ยนเป็นสีแดง และหากเลือกใช้แผนที่แบบ Satellite จะไม่ค่อยเหลือพื้นที่ว่างให้เห็นบนแผนที่ครับ

“รามคำแหง” เป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพสูงมีแม่เหล็กที่สำคัญอย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ราชมังคลากีฬาสถาน และห้างเดอะมอลล์รามคำแหง ดึงดูดคนเข้ามาในพื้นที่โดยจุดที่มีความคึกคักเป็นพิเศษคือ จุดขึ้นทางยกระดับรามคำแหงบริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์ แยกวัดเทพลีลาบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง และจุดลงทางยกระดับรามคำแหงบริเวณแยกลำสาลี เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจตลอดตามแนวถนน ซึ่งรามคำแหงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตบางกะปิ จากสถิติบ้านและประชากรของกรมการปกครองพบว่ามีจำนวนบ้านเรือนมากเป็นอันดับ 3 และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 13 จากจำนวนทั้งหมด 50 เขตในกรุงเทพฯ

แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก http://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statTDD/

อนาคตจะมีรถไฟฟ้าให้บริการบนถนนรามคำแหงนั่นคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ครับ โดยเฟสแรกวิ่งจากมีนบุรีไปศูนย์วัฒนธรรม และเฟสสองวิ่งจากศูนย์วัฒนธรรมไปตลิ่งชัน ตามแนวตะวันตกมาตะวันออกของกรุงเทพฯ และผ่านจุดสำคัญ อาทิ รัชดา ประตูน้ำ สนามหลวง และศิริราช เป็นต้น ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาเดินทางเข้าเมืองได้ดี

โครงการที่ผมจะพามารู้จักคือ “Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์” ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 60 ใกล้กับแยกลำสาลี จุดที่มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะอนาคตเป็นสถานีรถไฟฟ้า 2 สายตัดกัน (Interchange Station) ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (มีนบุรี-ตลิ่งชัน) กับสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) นอกจากนี้ทำเลยังใกล้กับห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ศูนย์การค้าตะวันนา และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทำให้ทำเลนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ จากสถิติมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนที่มีจำนวนนักศึกษามากที่สุดของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาพบว่าม.รามคำแหง ม.อัสสัมชัญ และนิด้า มีจำนวนนักศึกษาเป็นอันดับ 1, 27 และ 42 ตามลำดับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก 

http://www.info.mua.go.th/information/show_all_statdata_table.php?data_show=2

โครงการ Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 60 ซึ่งเป็นซอยขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างถนนรามคำแหงกับถนนกรุงเทพกรีฑา โดยอยู่ลึกเข้ามาเพียง 200 เมตรจากถนนรามคำแหง และห่างจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีลำสาลีเพียงแค่ 350 เมตร (คอนโดคาดว่าสร้างเสร็จปี 2562 ก่อนรถไฟฟ้าสายสีส้มเสร็จปี 2563) โดยอสังหาฯที่อยู่รอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอพาร์ตเมนท์ แสดงว่าแถวนี้มีคนอาศัยอยู่เยอะห้องเช่าได้รับความนิยม จึงเป็นโอกาสลงทุนคอนโดปล่อยเช่าสำหรับกลุ่มผู้เช่าที่มีกำลังพอจ่ายไหวและต้องการสภาพแวดล้อมน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ตามตารางที่ผมทำขึ้นมาพอให้เห็นภาพว่าคอนโดมีข้อได้เปรียบหลายอย่างทั้งเรื่องส่วนกลางน่าใช้ ความปลอดภัยในการอยู่อาศัย และพื้นที่จอดรถที่มากกว่า เป็นต้น

ตัวโครงการ Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 8 อาคารรวม 960 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต บนเนื้อที่ 8 ไร่เศษ ถือว่าจำนวนยูนิตไม่เยอะ ส่วนที่จอดรถ 385 คัน ประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน เน้น Spec ภายในห้อง และงานส่วนกลางจัดเต็มรวมกว่า 2,000 ตร.ม. เป็นโครงการที่ให้ Spec ดีที่สุดในแบรนด์ Plum โดยโครงการขายราคาเริ่มต้นเพียง 1.35 ล้านบาท หรือเริ่มต้นเฉลี่ย 60,000 บาทต่อตร.ม. และราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 70,000 บาทต่อตร.ม. เป็นราคาที่จับต้องได้ โดยห้องพักอาศัยมี 3 รูปแบบดังนี้ครับ

1 Bedroom 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท

ออกแบบการใช้พื้นที่ได้ลงตัวในพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กสามารถกั้นเป็น 1 ห้องนอนไม่อึดอัด โดยเปิดประตูเข้าไปจะเจอห้องรับแขกก่อน สามารถวางโซฟาและแขวนทีวีขนาดใหญ่ได้ ส่วนด้านหน้าจะเป็นห้องนอนที่อยู่ตรงหน้าต่างมีประตูกั้น 3 ตอน เข้าออกสะดวก และติดตั้งแอร์ไม่เป่าเข้าหน้าเวลานอนบนเตียง ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นห้องครัวสามารถวางตู้เย็น 2 ประตูได้สบาย และโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ส่วนห้องน้ำมีอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป

1 Bedroom 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท

ออกแบบการใช้พื้นที่ได้ลงตัวในพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ขึ้น โดยเปิดประตูเข้าไปจะเจอห้องรับแขกตรงไปก็จะเป็นห้องครัวกับระเบียง ซึ่งมีข้อดีคือพื้นที่เปิดโล่งไม่มีอะไรมาบังทำให้แสงสว่างเข้ามาได้เต็มที่ ส่วนด้านขวามือจะเป็นห้องนอนกับห้องน้ำ โดยห้องนอนมีขนาดกว้างขึ้นสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้ง และติดตั้งทีวีแขวนปลายเตียงได้ ห้องน้ำอยู่ในพื้นที่ของห้องนอนใช้งานได้สะดวกสบาย 

1 Bedroom Plus 34.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท

1 Bedroom Plus คือ ห้องที่มีทั้งห้องนอนใหญ่และห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ตามความต้องการในอนาคต ผมเข้าไปเยี่ยมชมโครงการมาแล้วบอกเลยว่าชอบการจัดพื้นที่ของห้องนี้ที่สุดมันลงตัวมาก ลักษณะห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้างรับวิวได้เต็มที่ โดยเปิดประตูเข้าไปจะเจอห้องรับแขก และโต๊ะรับประทานอาหาร ทำให้พื้นที่ดูโปร่งทะลุไปถึงระเบียงห้อง ส่วนด้านซ้ายมือเป็นห้องอเนกประสงค์กับห้องครัว ซึ่งมีจุดเด่นตรงเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่เข้ามุมทำอาหารสนุกมากขึ้น และเครื่องซักผ้าย้ายจากระเบียงมาอยู่ในห้องครัว ไม่ต้องออกไปตากแดดนอกห้อง แถมโครงการยังทำเป็นตู้เก็บเครื่องซักผ้าไว้ให้

วัสดุปูพื้นในตู้เป็นกระเบื้อง และทำขอบกั้นให้เรียบร้อยไม่เสี่ยงเรื่องพื้นบวมเวลามีน้ำรั่ว พร้อมเตรียมชั้นวางของไว้ให้ด้วย ซึ่งตรงนี้แทบจะไม่เคยเห็นโครงการคอนโดมิเนียมในราคานี้ที่ไหนจัดเตรียมให้เลยนะครับ หันกลับมาดูด้านขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่กับห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ และห้องน้ำก็ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านห้องนอน ผมเชื่อว่าใครได้ไปเห็นห้องตัวอย่างจะทึ่งว่าพื้นที่เท่านี้สามารถจัดวางฟังก์ชั่นได้อย่างครบครันได้แบบนี้เลยทีเดียว

สิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการเค้าจัดเต็ม เริ่มจากสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือมี 2 สระ ขนาด 4.5 x 30 ตร.ม. และ 4.5 x 19 ตร.ม. โดยสระเล็กมีสระว่ายน้ำเด็ก และสระใหญ่มี Sunken Seat ให้นั่งเล่นได้เก๋ๆ นอกจากนั้นยังมีฟิตเนสกลางแจ้ง มีห้องสำหรับเด็ก Reading Lounge สวนลอยฟ้า ลู่วิ่ง Jogging Track และสวนหย่อมรอบโครงการ และที่เป็นจุดเด่นอีกอันคือ อาคาร 3 ชั้นบริเวณหน้าทางเข้าโครงการ ซึ่งมีชื่อว่า Plum Space โดยมี Co-Working Space, Mini Home-Theatre และ ห้องฟิตเนส อยู่ในนี้ และด้านล่างก็เป็นจะเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อีกด้วยครับ

นี่เป็นไฮไลท์เพียงบางส่วนบนเนื้อที่กว่า 2,000 ตร.ม. เรียกได้ว่าเยอะจนไม่ต้องออกไปไหน ใครที่สนใจก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายโครงการอยู่ปากซอยรามคำแหง 58/5 ใกล้ๆกับตัวโครงการครับ หรือเข้าดูรายละเอียดและลงทะเบียนรับโปรโมชั่นได้ที่ https://plum.pruksa.com/14207/ram60interchange

บทความนี้เป็น Advertorial