ถึงแม้จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านที่สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเอง รามิตร เศรษฐี (Ramit Sethi) เจ้าของหนังสือขายดี “ผมจะสอนให้คุณรวย” (ติดหนังสือขายดีของ The New York Times ด้วย) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาทางการเงิน ก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะซื้อรถหรูคันใหม่มาใช้เลย

อันที่จริงแล้วเศรษฐียังคงขับรถ Honda Accord ที่เขาซื้อเองหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2005 อยู่ทุกวัน นับถึงตอนนี้อายุของรถก็เกือบ 20 ปีเข้าไปแล้ว เขาบอกกับเว็บไซต์ CNBC ว่า

“มันเป็นรถที่สมเหตุสมผลนะ ผมดูแลมันอย่างดี ผมซื้อรถใหม่พรุ่งนี้ได้ไหม? ได้สิ แต่มันสำคัญกับผมรึเปล่า?​ ไม่เลย”

การขับรถที่ไม่ต้องผ่อน ทำให้เศรษฐีเองมีเงินเหลือเยอะขึ้นในแต่ละเดือนเพื่อใช้สำหรับสิ่งที่ ‘สำคัญ’ สำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง เอาเงินไปลงทุน หรือการบริจาคเงินในส่วนต่าง ๆ ด้วย

เศรษฐีเรียกกลยุทธ์นี้ว่า “หน้าปัดของเงิน” หรือ “Money Dial” นั่นเอง

ซึ่งตามหลักคิดของเขาแล้ว คุณจะสามารถใช้เงินมากขึ้นกับสิ่งที่นำความสุขมาให้กับคุณโดยลดการใช้จ่ายในสิ่งที่คุณไม่ได้สนใจอะไรกับมันสักเท่าไหร่นัก

ลองจินตนาการใช้เงินแต่ละแบบนั้นจะมีหน้าปัดของเงินเป็นของตัวเอง นึกถึงปุ่มหมุนบนหน้าปัดวิทยุก็ได้ครับ อย่างรถยนต์ก็มีหน้าปัดอันหนึ่ง ท่องเที่ยวก็มีหน้าปัดอีกอันหนึ่ง กินข้าวกับครอบครัวก็อีกอันหนึ่ง ฯลฯ

“ผมใช้เงินเยอะมากกับสิ่งที่ผมรัก และลดส่วนที่ไม่สนใจออกหมดเลย”

นั่นหมายความว่าสำหรับเศรษฐีแล้วหน้าปัดของรถยนต์ก็ถูกหมุนจนเหลือต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนหน้าปัดส่วนการเดินทางก็สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นถ้าคุณชอบอ่านหนังสือก็ใช้เงินซื้อหนังสือ ถ้าคุณชอบดูหนังก็ใช้เงินไปดูหนัง แต่ส่วนไหนที่คุณไม่สนใจก็ตัดออกไปให้หมด หรือให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“นี่คือตอนที่เงินกลายเป็นบางอย่างที่มีความหมายมากกว่าแค่สิ่งที่เอาไว้จับจ่ายซื้อของ เงินส่วนนี้สร้างความหมาย และนั่นก็เป็นแกนหลักสำคัญของชีวิตที่ร่ำรวย” เศรษฐีกล่าว

เราถูกสอนมาให้ประหยัดเงิน อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แม้จะชอบอะไรมาก ๆ ก็อย่าซื้อถ้าไม่จำเป็น

“มันโอเคนะที่จะอยากได้อะไรสักอย่าง และมีเงินพอที่จะซื้อมันได้”

แทนที่จะพยายามกีดกันตัวเองจากสิ่งที่ตัวเองรัก วิธีนี้จะช่วยให้คุณมองดูสิ่งเหล่านี้ใหม่และใช้เงินกับมันได้ แต่นั่นก็หมายถึงการตัดส่วนอื่น ๆ เพื่อเป็นการชดเชยการใช้จ่ายตรงนี้ด้วย

เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญในการใช้วิธีของเศรษฐีคือการวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างมีสติ แบ่งเงินออกเป็น 4 หมวด

1. รายจ่ายประจำ - ค่าเช่าบ้าน หนี้การศึกษา ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ
2. ส่วนเงินออม - เก็บเงินสำรองฉุกเฉินเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
3. ลงทุน - ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเพื่อการเกษียณ ลงทุนหุ้น ฯลฯ
4. เงินที่ใช้ได้โดยไม่รู้สึกผิด - เดินทาง กินข้าวนอกบ้าน ซื้อหนังสืออ่าน

สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องรับผิดชอบในส่วนที่จำเป็นในชีวิตก่อน (รายจ่ายประจำ ออมเงิน ลงทุน) แล้วถ้าเงินเหลือค่อยเอาไปใช้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร

เศรษฐีกล่าวปิดท้ายว่า “เราถูกสอนมาว่าเงินนั้นต้องประหยัดทุกบาท มาลองพลิกกลับกันดู ลองดูว่าจะใช้มันกับสิ่งที่เรารักได้มากขึ้นยังไง”