aomMONEY เชื่อว่าเป้าหมายชีวิตของทุกคนคงไม่ต่างกัน เหตุผลที่อดทนทำงานหนัก สุดท้ายแล้วเราก็แค่อยากสบายในบั้นปลายชีวิต มีเงินใช้ยามเกษียณ ไม่ต้องรบกวนลูกหลาน

แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ “ระหว่างทาง” กว่าจะไปถึงจุดนั้นมันไม่ราบรื่นอย่างที่คิด มีทั้งค่าใช้จ่ายมากมาย ไหนจะรายจ่ายฉุกเฉิน เจ็บป่วย ตกงานกะทันหัน ฯลฯ จากที่มีสภาพคล่อง ก็เริ่มหมุนเงินไม่ทัน จนต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาประทังชีวิต

หนี้ก็ต้องจ่าย เงินก็ต้องเก็บ ไหนจะต้องลงทุนเพื่อหารายได้เพิ่มอีก แล้วเราควรเริ่มจากตรงไหน? ...aomMONEY จะเล่าให้ฟังครับ

ถ้าเปรียบการลงทุนเป็นการปลูกต้นไม้ การออมเงินเป็นน้ำในถัง หนี้ก็จะเป็นเหมือน “รูรั่ว” ที่จะทำให้น้ำไหลออกจากถังไปเรื่อยๆ เติมเท่าไรก็ไม่มีทางเต็มแน่นอน แล้วยังงี้เราจะเอาน้ำที่ไหนไปปลูกต้นไม้ล่ะครับ ดังนั้นก็ต้องจัดการอุดรูรั่วก่อน ด้วย 3 ขั้นตอนต่อไปนี้

(1) แยกประเภทของหนี้

✅ หนี้ดี คือหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้กู้ยืมเพื่อทำธุรกิจ หนี้กู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน หนี้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา

❌ หนี้เสีย คือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครติด หนี้บัตรกดเงินสด หนี้นอกระบบ

(2) แจกแจงหนี้ทีละรายการ

👉 ต้องจ่ายเดือนละเท่าไร
👉 เสียดอกเบี้ยเท่าไร
👉 เหลือเวลาผ่อนอีกนานแค่ไหน

(3) เคลียร์หนี้

เริ่มจากปิดหนี้เสียที่ดอกเบี้ยเยอะที่สุด หรือเหลือยอดค้างชำระน้อยที่สุดก่อน จะได้จบเป็นก้อนๆ ไป ส่วนหนี้ที่ดี จริงๆ แล้วถ้ามันสร้างรายได้ให้เรา เช่น กู้สินเชื่อมาทำธุรกิจ ต้องผ่อนคืนเดือนละ 10,000 บาท แต่เราได้กำไรจากการลงทุนเดือนละ 15,000 บาท แบบนี้ก็คุ้มค่ากับการเป็นหนี้อยู่นะ พอมีกำไรถึงจุดหนึ่งที่จะจ่ายหนี้ส่วนนี้ได้หมด ก็ค่อยจัดการปิดหนี้ แล้วใช้เงินส่วนตัวมาลงทุน

มีหนี้สิน จะเก็บเงินได้ไหม?

คำตอบก็คือ “ได้ครับ” อยู่ที่ว่าเราจะบริหารจัดการยังไง ระหว่างที่ทยอยใช้หนี้ ก็ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายดู อาจตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ และควรหารายได้เสริม ใช้ทักษะ/ความถนัดที่มีให้เกิดประโยชน์ เท่านี้ก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นแล้ว

เคลียร์หนี้+มีเงินเก็บแล้ว ต้องทำยังไงต่อ?

เมื่อเราเก็บเงินได้ตามเป้าหมาย ทีนี้ก็เริ่มลงทุนได้อย่างสบายใจ อาจเลือกให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล หรือถ้ามีเวลาจะศึกษาข้อมูลเองก็ได้ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงน้อยก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนน้อย เสี่ยงมากก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนมาก ถ้าเรารู้จักวางแผนดีๆ แผนเกษียณก็อาจไม่ต้องรอจนถึงอายุ 60 ก็ได้นะครับ