ในยุคที่สถานการณ์ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เป็นมาตรฐานชีวิตแบบ New-Normal จากเดินทางไปทานอาหารในห้างก็เปลี่ยนมาสั่งแบบเดลิเวอรี่ จากการรับชมสื่อโทรทัศน์หรือฟังวิทยุก็มารับชมสื่อออนไลน์กันมากขึ้น จนอาจเรียกได้ว่า เป็นการผลักดันให้ Digital Disruption เกิดขึ้นในภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและเต็มรูปแบบ

แต่รู้หรือไม่ว่า มีอยู่บริษัทหนึ่งที่นอกจากจะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสื่อและความบันเทิงที่มีโมเดลธุรกิจที่มีความแตกต่างแล้ว ยังเป็นบริษัทฯ ที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ท่ามกลาง Digital Disruption อีกด้วย บริษัทนี้ยังมีการเติบโตถึงขนาดเป็นหนึ่งใน Big Player ในอุตสาหกรรมที่ทำอยู่ บริษัทนั้นคือบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ “ONEE” ที่กำลังเดินหน้าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

ONEE ประกอบธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิตและสร้างสรรค์รายการเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น ช่องทางโทรทัศน์ ช่องทางวิทยุ ช่องทางออนไลน์ ทั้ง Social Media และ OTT Platform ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการบริหารศิลปิน การจัดอีเวนต์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย ONEE ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของ ช่อง ONE31 หรือเป็นตัวแทนการตลาดให้กับช่อง GMM25 เท่านั้น แต่อาณาจักรของกลุ่ม ONEE ยังประกอบด้วยบริษัทในเครือ 9 บริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรือสร้างสรรค์รายการผ่านสายตาของคนไทยส่วนใหญ่มาไม่มากก็น้อย อย่าง ONE31 ที่ผลิตรายการคุณภาพและได้รับความนิยม เช่น ละครวันทอง และ ละครเมีย 2018 GMMTV ที่ผลิตซีรีส์วัยรุ่นและคนรุ่นใหม่, GMM Media ที่ผลิตรายการวิทยุ และยังมี GMM Studios ที่เป็นผู้ผลิต Content ให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น  ซีรีส์เด็กใหม่ Season 2 (แนนโน๊ะ) ที่เผยแพร่ผ่านทาง Netflix เป็นต้น

ONEE มีรากฐานจากการเป็นผู้ผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยยังเป็นบริษัท Exact และ บริษัท Scenario ที่ผลิตคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมออกอากาศผ่านช่องโทรทัศน์อนาล็อก แต่นับจากปี 2556 ที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคของทีวีดิจิทัล กลุ่มบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจของตนเองให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำมากขึ้น ด้วยการเป็นเจ้าของช่องโทรทัศน์ช่อง ONE31 ที่สามารถนำคอนเทนต์คุณภาพมาส่งความสุขให้กับผู้ชมได้โดยตรง และนับจากนั้นมา อาณาจักรสื่อและความบันเทิงของกลุ่ม ONEE ก็สามารถสร้างการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งจนก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจในปัจจุบัน

ทุกวันนี้ รายได้ของกลุ่ม ONEE ไม่ได้มาจากการผลิตคอนเทนต์เพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต และไม่ได้มาจากช่อง ONE31 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถสร้างรายได้และการเติบโตผ่าน 5 ธุรกิจ หลัก ได้แก่

1. ธุรกิจผลิตรายการ บริหารลิขสิทธิ์ และให้บริการช่องโทรทัศน์

ประกอบธุรกิจผลิตรายการที่หลากหลาย ได้แก่ ละคร ซิทคอม วาไรตี้ ข่าว รวมทั้งบริหารลิขสิทธิ์ โดยการนำรายการไปเผยแพร่ในทั้งช่องทางโทรทัศน์ ONE31 ช่องทางออนไลน์ เช่น ช่องทาง Social Media อย่าง YouTube และ Facebook เป็นต้น และ ช่องทาง OTT Platform เช่น  Netflix และ LineTV เป็นต้น  นอกจากนี้ กลุ่ม ONEE ยังเป็นตัวแทนการการตลาดให้แก่ช่อง GMM25 อีกด้วย ตัวอย่างผลงาน เช่น ละครเรื่องวันทอง, เพราะเราคู่กัน, เด็กใหม่ ซีซัน 2และกระเช้าสีดา

2. ธุรกิจรับจ้างผลิตและบริการ

ประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตรายการให้แก่สถานีโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ที่ต้องการผลิตรายการของตนเองเพื่อนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ โดยลิขสิทธิ์รายการจะเป็นของผู้ว่าจ้าง ตัวอย่างคอนเทนต์ที่คนไทยรู้จักกันดีก็อย่างเช่น เมียหลวงwe TV Original Series, ตะวันตกดิน

3. ธุรกิจรายการวิทยุ

ประกอบธุรกิจผลิตรายการวิทยุเพื่อเผยแพร่ผ่านคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งหมดจำนวน 3 รายการ ได้แก่รายการ EFM บนคลื่นความถี่เอฟ.เอ็ม. 94.0 เมกะเฮิรตซ์, GREENWAVE บนคลื่นความถี่เอฟ. เอ็ม. 106.5 เมกะเฮิรตซ์ และ Chill Online บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

4. ธุรกิจจัดอีเวนต์

กลุ่ม ONEE จะเป็นผู้วางแผนจัดงาน และหารายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าร่วมงานและการให้บริการสื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนต์ โดยตัวอย่างงานอีเวนต์ที่กลุ่มบริษัทฯ จัดได้แก่ งานพบปะกับศิลปิน (Fan Meeting) งานคอนเสิร์ต และงานสัมมนากิจกรรมตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เป็นต้น เช่น งาน Bright&Win Global Live Fan Meeting ผ่าน V Live

5. ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น

ได้แก่ ธุรกิจบริหารจัดการศิลปินกว่า 200 ราย เช่น ป้อง ณวัตน์, บี น้ำทิพย์, ไบรท์ วิน เป็นต้น โดยกลุ่ม ONEE เป็นตัวแทนในการติดต่อและวางแผนงานระหว่างศิลปินและลูกค้าที่ต้องการว่าจ้างศิลปินในสังกัดและได้ทำการต่อยอดไปสู่ธุรกิจขายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับรายการหรือศิลปิน,และธุรกิจให้บริการเช่าสถานที่สำหรับการถ่ายทำงานและจัดอีเวนต์ เช่น งานโฆษณา รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และงานแต่งงาน

เห็นได้ชัดว่า ธุรกิจภายใต้อาณาจักรของกลุ่ม ONEE ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสื่อและความบันเทิงตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เรียกได้ว่าเป็นโมเดลการทำธุรกิจที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนก็ว่าได้ แล้วในช่วงที่เกิดปรากฎการณ์ Digital Disruption กลุ่ม ONEE ได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน?

คำตอบก็คือ ONEE สามารถก้าวผ่าน Digital Disruption อย่างสวยงาม เพราะทั้งรายได้และกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง นั่นแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม ONEE สามารถปรับตัวในช่วงเวลาวิกฤตได้เป็นอย่างดี

โดยอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่ม ONEE ก้าวผ่านวิกฤต ตลอดจนกระแส Digital Disruption เหล่านี้ คือทีมผู้บริหารและทีมฝ่ายผลิตที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในยุคเอ็กแซ็กท์และซีเนริโอที่ผลิตซิทคอม 3 หนุ่ม 3 มุม ซึ่งเป็นซิทคอมสำหรับวัยรุ่นเรื่องแรก ๆ ในเมืองไทย  

ปัจจุบัน การทำงานของกลุ่ม ONEE เน้นผสมผสานระหว่างทีมงานที่มีประสบการณ์และทีมงานคนรุ่นใหม่ ทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคสมัย โดยมี คุณบอย – ถกลเกียรติ วีรวรรณ เป็น Group CEO ซึ่งต้องบอกว่าตลอดระยะเวลา 30 ปีที่อยู่ในวงการสื่อและความบันเทิงนั้น คุณบอยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังละคร ซีรีส์ และละครเวทีที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก

รวมทั้งทีมผู้บริหารท่านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณนิพนธ์ ผิวเณร ผู้อยู่เบื้องหลังละคร Viral ชื่อคุ้นหู, คุณสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือดีเจพี่ฉอด Club Friday, คุณเดียว วรตั้งตระกูล แม่ทัพใหญ่แห่งช่อง ONE31 และคุณเอกชัย เอื้อครองธรรม Vice President GMM Studios ผู้ผลิต Original Content หลายเรื่องที่เผยแพร่อยู่บน Online Streaming ระดับโลก

งบการเงินกลุ่ม ONEE

ปี 2561

รายได้รวม 4,199.4 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 72.6 ล้านบาท

ปี 2562

รายได้รวม 4,818.3 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 227.6 ล้านบาท

ปี 2563

รายได้รวม 4,875.3 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อ 7.7% ใน 3 ปีที่ผ่านมา

กำไรสุทธิ 657.6 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อ 201.0% ใน 3 ปีที่ผ่านมา

ครึ่งปีแรกปี 2564

รายได้รวม 2,782.6 ล้านบาท เติบโต 29.8% จากครึ่งปีแรก ปี 2563

กำไรสุทธิ 455.13 ล้านบาท เติบโต 151.4% จากครึ่งปีแรก ปี 2563

อย่างไรก็ตาม แม้ทุกวันนี้กลุ่ม ONEE จะกลายเป็นอาณาจักรสื่อและความบันเทิงยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้ปีละเกือบ 5 พันล้านบาท แต่แผนการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่กลุ่ม ONEE กำลังให้ความสำคัญไม่น้อยคือการเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง Social Media & OTT Platforms และการขยายตลาดไปสู่ระดับภูมิภาค

สำหรับการเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่ม ONEE ถือได้ว่ากลุ่มบริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงทีเดียวในการดึงดูดผู้ชม จากข้อมูลล่าสุดในเดือนกรกฎาคมปี 2564 ช่องทางการรับชมผ่านทางช่องทางออนไลน์ของกลุ่มบริษัทฯ นั้นมีผู้ติดตามทั้งใน YouTube และ Facebook  สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายการและช่องอื่น ๆ (61.5 ล้านคน, 54.3 ล้านคนตามลำดับ) ถึงแม้รายได้จากช่องทางออนไลน์อาจไม่ได้สูงเทียบเท่ากับช่องดิจิทัลทีวี แต่ในโลกของธุรกิจสื่อแล้ว ตราบใดที่ยังมีฐานผู้ชมที่แข็งแกร่งและมีคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม ก็ย่อมมีหนทางสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ทุกที่ ทุกเวลา

ส่วนการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีความน่าสนใจและมีศักยภาพการเติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบันรายการของ ONEE ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เช่น ซีรีส์ เด็กใหม่ Season 2 ที่เป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับรายการที่มียอดชมสูงสุดใน Netflix 5 ประเทศ และติดหนึ่งในสิบอันดับรายการที่มียอดชมสูงสุดใน Netflix อีกกว่า 5 ประเทศ หากกลุ่ม ONEE ต้องการขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าในประเทศใหม่ ๆ ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถนักเมื่อเทียบกับศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ และการเติบโตนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาณาจักรสื่อของกลุ่ม ONEE เติบโตไปได้ไกลขึ้นอีก

และตอนนี้ กลุ่ม ONEE กำลังเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจมาร่วมเดินทางและเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้แล้วผ่านการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ....

https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=339274

และ www.theoneenterprise.com

ลงทุนศาสตร์

บทความนี้เป็น Advertorial