ช่วงที่ผ่านมาผมมีโอกาสเห็นกลโกงใหม่ ๆ ที่โผล่ขึ้นมาในรูปแบบ ‘กองทุนเถื่อน’ ที่เปิดเพจเฟซบุ๊กแล้วก็ยิงโฆษณาแอบอ้างชื่อบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือแล้วว่าเปิดโอกาสให้ซื้อหน่วยลงทุน เริ่มต้น xxx บาท (ส่วนใหญ่ก็หลักพัน) แล้วก็ให้ผลตอบแทนสูงมากๆ บางทึ่เคลมว่า 7% / สัปดาห์

ผมคิดในใจ “มึงบ้าไปแล้ว! ถ้ามันดีอย่างนั้น คนก็รวยกันไปหมดแล้ว”

ใช่ครับมันเป็นแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่งนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ไส้ในก็เหมือนเดิม เอาเงินเหยื่อคนใหม่มาหมุนให้เหยื่อคนเก่า จนกองเงินมากพอก็รวบเงินหนีไป ปล่อยผู้เสียหายทิ้งไว้ให้รวมตัวกันไปฟ้องตำรวจเพื่อดำเนินคดีกันเอา (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นมีอะไรคืบหน้าในกรณีประมาณนี้)

ในฐานะคนที่ลงทุนมาสิบกว่าปี เรียกว่าประสบการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นก็พอมีบ้าง ผ่านวิกฤติมาก็เยอะ เล่นจริงเจ็บจริงมาไม่น้อย เพื่อนหรือคนรู้จักหลายคนที่สนใจเกี่ยวกับการลงทุนก็มักจะถามผมว่า

“ในเมื่อไม่มีความรู้ พวกเขาควรเอาเงินไปให้บริษัทลงทุน หรือเอเจนซีที่โฆษณาออนไลน์ที่การันตีผลตอบแทน x% ต่อเดือนดีกว่าไหม?”

สำหรับผมแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นอะไรแบบนี้จะ ‘หนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย’

เพราะการสัญญาหรือการันตีอะไรแบบนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่ชอบมาพากล (ส่วนใหญ่ก็มีแชร์ลูกโซ่หรือหลอกเอาเงินเรานั่นแหละครับ) รูปแบบมันจะประมาณนี้

- เรามีสูตรลับเพื่อสร้างรายได้มหาศาล
- นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ไม่มีใครรู้
- เรา (คนที่การันตี) รู้เทคนิคที่สร้างรายได้จากโอกาสครั้งใหญ่
- แค่เอาเงินมาวางไว้ให้เราวันนี้ เงินของคุณจะงอกเงยโดยไม่ต้องทำอะไรเลย
- เรื่องลงทุนปล่อยเป็นหน้าที่ของเรา คุณแค่รอรับเงินก็พอ
- คุณพร้อมจะรวยแล้วรึยัง?

อะไรทำนองนี้ ซึ่งช่วงหลังพวกนักต้มตุ๋นเหล่านี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเทคนิคไปเรื่อย ๆ พัฒนาไปตามความรู้ของเหยื่อในตลาด บางทีก็น่าสนใจจนเราเห็นแล้วก็รู้สึกว่า “อืมมมม....น่าสนใจเหมือนกันนะ” อะไรแบบนี้เลย

หลัง ๆ มาจะไม่ได้เคลมเว่อร์ว่าจะเป็นเศรษฐีพันล้านภายในพรุ่งนี้ (เพราะมันคงไม่มีใครเชื่อหรอก) แต่จะการันตีผลตอบแทนที่สูง ๆ 15% บ้าง 20% บ้าง (ต่อปี) ซึ่งจริงอยู่ว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ “ถ้ามันดีอย่างนั้น คนก็รวยกันไปหมดแล้ว” มันเป็นไปไม่ได้ที่จะการันตีผลตอบแทน เป็นไปไม่ได้เลย ดึงสติกลับมาก่อนครับ

ความรู้เรื่องการเงินเป็นสิ่งสำคัญ

ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีความรู้มากพอ อย่าเพิ่งท้อนะครับ เพราะความรู้เรื่องการเงินการลงทุนนั้นตอนนี้สามารถหาได้ไม่ยากแล้ว มีหนังสือมากมาย เพจการเงิน (รวมถึง aomMONEY ด้วย) ที่มอบความรู้และคอยเตือนภัยต่าง ๆ อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นถ้าไม่รู้ ให้เริ่มหาความรู้ใส่ตัวก่อนครับ

เงินที่มีอย่าเพิ่งรีบร้อนจะเอาไปลงทุนถ้าเรายังไม่รู้ว่าเราลงทุนกับอะไร หาเวลาเรียนรู้เรื่องการลงทุนก่อน อย่าเพิ่งรีบเอาเงินที่อุตส่าห์หามาอย่างยากเย็นไปลงในสิ่งที่เราไม่เข้าใจว่าเงินนั้นมันงอกเงยได้ยังไง หรือไม่รู้ว่าโลกของการเงินการลงทุนทำงานยังไง

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรกับทักษะการอ่านเขียนเลย ต้องรู้เรื่องหนี้ดีหนี้เสีย บัตรเครดิต นิสัยการใช้เงิน เก็บออม ฯลฯ นอกจากนั้นแล้วต้องมีความรู้อย่างน้อย ๆ ก็เบื้องต้นเรื่องการลงทุนด้วย เช่น ตลาดหุ้นทำงานยังไง? ซื้อขายหุ้นคืออะไร? คาดหวังผลตอบแทนตามปกติแล้วเท่าไหร่? กองทุนคืออะไร? ลงทุนในอสังหาฯ? ต้นทุนการลงทุนมีอะไรบ้าง? ควรซื้อหุ้นแบบไหน?

สิ่งเหล่านี้คือความรู้เบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้ก่อนที่คิดจะเริ่มลงทุน ผมเองก็ซื้อหนังสือมาอ่าน เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะเตี่ยถึงเป็นนักธุรกิจ ก็ไม่เคยแม้แต่จะซื้อหุ้นหรือลงทุนเลยด้วยซ้ำ และเวลาลงทุน ผมก็ลงด้วยตัวเอง มันเป็นวิธีเดียวที่จะได้เรียนรู้ (แม้จะเจ็บตัวบ้าง) ในการลงทุนจริง ๆ

ก่อนจะลงทุนในอะไรก็ตาม ลงทุนในความรู้ก่อน

ยิ่งมีความรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเกราะป้องกันตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้น แล้วคุณจะเริ่มเห็นว่า “ถ้ามันดีอย่างนั้น คนก็รวยกันไปหมดแล้ว” สิ่งที่ดีเกินไปก็คล้ายยูนิคอร์นครับ มันสวยดีแต่ไม่มีอยู่จริง