รู้ไหมว่าทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ถึงเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก?

ลูแอน ลอฟตัน (LouAnn Lofton) อดีตบรรณาธิการ The Motley Fool เว็บไซต์การเงินการลงทุนชื่อดัง ได้นำเอางานวิจัยด้านการเงินของผู้ชายและผู้หญิงมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมการลงทุนของบัฟเฟตต์ เธอสรุปออกมาว่าที่บัฟเฟตต์ลงทุนได้ประสบความสำเร็จแบบนี้เพราะเขาลงทุนแบบผู้หญิงนั่นเอง

[จนกลายเป็นที่มาของหนังสือ “Warren Buffett Invests Like a Girl”]

ซึ่งตอนที่ ลอฟตัน ถามบัฟเฟตต์ในการประชุมผู้ถือหุ้นว่าเขาลงทุนเหมือนผู้หญิงใช่ไหม? บัฟเฟตต์บอกว่า “ผมยอมรับแบบนั้นเลย”

ผู้ชาย ผู้หญิง และการลงทุน

นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมากมายใช้เวลานานหลายปีศึกษาความแตกต่างระหว่างการลงทุนของผู้ชายและผู้หญิง ครอบคลุมเกือบทุกแง่มุมของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจ การประเมินความเสี่ยง ความถี่ในการซื้อขาย และความสม่ำเสมอของผลลัพธ์

นอกจากคนทั่วไปแล้ว นักวิจัยยังศึกษาความแตกต่างระหว่างนักลงทุนมืออาชีพ ทั้งชายและหญิง และงานวิจัยล่าสุดก็ค้นพบว่าฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) ส่งผลกระทบต่อการลงทุน การเสี่ยงโชค และเทรดหุ้นจริงๆ

แบรด เอ็ม. บาร์เบอร์ (Brad M. Barber) และ เทอร์แรนซ์ โอดีน (Terrance Odean) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (จากวิทยาเขตเดวิสและเบิร์กลีย์) ได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่มีชื่อเสียงและมีความก้าวล้ำที่สุดเกี่ยวกับความแตกต่างทางเพศในการลงทุน บทความเรื่อง "Boys Will Be Boys: Gender, Overconfidence, and Common Stock Investment" ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Quarterly Journal of Economics ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2001

บาร์เบอร์และโอดีนศึกษาบัญชีส่วนลดการซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 35,000 บัญชี เป็นเวลานานเกือบหกปี พบความแตกต่างที่ชัดเจนหลายประการ ทั้งในด้านอารมณ์และผลการดำเนินงานระหว่างชายกับหญิง

งานที่ตีพิมพ์อิงจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชายมักจะมั่นใจในตัวเองมากกว่าผู้หญิงในกิจกรรมที่ดูมีความเป็น “ชาย" (นับรวมเรื่องการเงินด้วย) พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ชายคิดว่าพวกเขารู้มากกว่าความเป็นจริง แต่ผู้หญิงหากไม่รู้ก็พร้อมจะยอมรับว่าไม่รู้มากกว่าผู้ชาย พร้อมที่จะยอมรับว่าตัวเองไม่ได้รู้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยให้มีความระมัดระวังและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจมากกว่าผู้ชายนั่นเอง

เมื่อมั่นใจมากเกินไป ผู้ชายก็จะเทรดจำนวนครั้งเยอะกว่าผู้หญิง และการเทรดบ่อยๆ ก็มีโอกาสสร้างผลเสียต่อพอร์ตฯ​การลงทุนของตัวเองมากกว่านั่นเอง

งานวิจัยพบว่าผู้ชายซื้อขายหุ้นในบัญชีมากกว่าผู้หญิงถึง 45% และยิ่งกว่านั้นถ้าเป็นผู้ชายโสดจะมีการซื้อขายหุ้นมากกว่าผู้หญิงโสดถึง 67% เลยทีเดียว

“ผู้ชายมักคิดว่าตัวเองรู้มากกว่าที่รู้ และมันสามารถนำไปสู่การเทรดที่บ่อยเกินไป เสี่ยงเกินไป และลงทุนในบริษัทที่ไม่เข้าใจ ส่วนผู้หญิงจะบอกว่าตัวเองไม่ได้รู้อะไรมาก ไม่ได้มั่นใจเท่ากับผู้ชายและหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่มันผลลัพธ์กลับออกมาดี เพราะต้องหาข้อมูลเพิ่มและจริงจังกับมันนั่นเอง” ลอฟตันอธิบายเพิ่ม

กรอบคิดการลงทุน

ประเด็นสำคัญเรื่องของกรอบความคิดที่ถูกต้อง การเทรดบ่อยๆตลอดเวลาสามารถส่งผลเสียต่อการลงทุนของเราได้ ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดมากแค่ไหนก็ตาม หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เทรดเพราะอยากเอาชนะหรือเอาคืนจะกลายเป็นการทำร้ายตัวเองซะมากกว่า

ลอฟตัน บอกว่า “บัฟเฟตต์พูดอยู่เสมอว่าอารมณ์ - ไม่ใช่ความฉลาด - ที่ทำให้คุณเป็นนักลงทุนระยะที่ยอดเยี่ยม”

บัฟเฟตต์มองการลงทุนในระยะยาว และลงทุนกับสิ่งที่ตัวเองรู้และเข้าใจเท่านั้น หากหุ้นตัวไหนที่ซื้อแล้วยังดีอยู่ก็ถือไปเรื่อยๆ ซึ่งจะแตกต่างจากการเก็งกำไรที่ซื้อขายกันบ่อยๆ เล่นกับความเสี่ยงและเต็มไปด้วยอารมณ์

การวิ่งตามหุ้นร้อนและคำเชียร์ของคนอื่นๆ (ที่เราก็ไม่มีทางรู้ว่ามีส่วนได้ส่วนเสียมากแค่ไหน) โดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ

งานศึกษาชิ้นหนึ่งจาก Vanguard บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนพบว่าในตลาดหมีปี 2008 พบว่าผู้ชายมักจะตื่นตระหนกและขายตอนหุ้นร่วงหนัก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ส่วนผู้หญิงมักจะสงบกว่า อดทนมากกว่า และมองไปในระยะยาว

ลอฟตันอธิบายว่าด้วยความที่ผู้หญิงนั้นมักจะหารายได้ได้น้อยกว่าในอาชีพการงานและมีอายุยืนกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน จึงแนะนำให้ผู้หญิงศึกษาเรื่องการลงทุนให้มากขึ้นด้วยเพราะเป็นสิ่งจำเป็น

7 คุณลักษณะของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับใครก็ตามที่อยากลงทุนแบบผู้หญิงให้ประสบความสำเร็จเหมือนบัฟเฟตต์ลองทำตามคำแนะนำของ ลอฟตัน ตามนี้ดู

1. เทรดให้น้อยครั้ง

2. ยอมรับในสิ่งที่เราไม่รู้แล้วหาข้อมูล

3. หลีกเลี่ยงความเสี่ยงเท่าที่ทำได้

4. มองโลกตามความเป็นจริง

5. อยากลงทุนอะไรให้ทุ่มเทเวลาหาข้อมูล มองหลายๆ มุมและรายละเอียดต่างๆ และมองด้านกลับกันด้วย

6. อย่าเดินตามฝูงชน อย่าถูกโน้มน้าวโดยคนอื่น

7. เรียนรู้จากความผิดพลาด

ไม่ว่าบัฟเฟตต์จะลงทุนแบบผู้หญิงหรือแบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือเขาไม่สนใจหรอกว่าตอนนี้คนในตลาดกำลังฮิตหุ้นตัวไหน อะไรที่กำลังเป็นกระแส เขาเลือกหุ้นที่ตัวเองเข้าใจและรู้จัก มั่นใจในตัวผู้บริหาร มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน และซื้อในมุมมองของการเป็นเจ้าของธุรกิจ ซื้อในเวลาที่เหมาะสมเพื่อจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนให้มากที่สุด