ช่วงหนึ่งสมัยมัธยมปลาย ผมก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นชายในยุค 90’s ส่วนใหญ่ที่คลั่งใคล้กีฬาบาสเกตบอลเพราะกระแสมังงะอย่าง Slam Dunk มาแรงมากช่วงนั้น มีช่วงหนึ่งที่เล่นบาสฯทุกวัน ถึงขั้นติดทีมโรงเรียนและได้ไปแข่งขันกับโรงเรียนอื่น ๆ ด้วย
แม้ความฝันในการเป็นนักบาสฯทีมชาติหรือเล่นเป็นมืออาชีพจะแสนสั้นและตายไปในเวลานาน แต่ยังจำได้ดีถึงช่วงเวลาที่ฝึกซ้อมกับทีมและคำสอนหนึ่งของโค้ชที่ติดอยู่ในหัวตลอด
“ถ้ารับไม่ดี บุกให้ตายพวกเอ็งก็ไม่ชนะ”
นั่นคือสิ่งที่โค้ชมักพูดอยู่เสมอ และเน้นย้ำให้ทีมโฟกัสไปกับเล่นเกมป้องกันให้เหนียวแน่น กันอีกฝั่งหนึ่งไม่ให้ทำแต้มได้ ฝึกการตั้งโซน ฝึกรีบาวด์ ฝึกการอ่านเกมเพื่อตัดบอล ปรับเล่นดับเบิลทีม เปลี่ยนไปประกบ 1:1 ฯลฯ
จำได้ว่าช่วงเวลา 60%-70% ของการเก็บตัวซ้อมจะเน้นไปที่การฝึกการตั้งรับเป็นหลัก
ที่จริงปรัชญาการโฟกัสเรื่องการตั้งรับในเกมกีฬานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ในฐานะแฟนกีฬา เรามักจะเชียร์ให้ทีมทำแต้มให้ได้เยอะ ๆ และรู้สึกสนุกเวลาทีมทำคะแนนได้
แต่ถ้าลองปรับมุมมองมาเป็นผู้เล่นคนหนึ่งในเกม การทำคะแนนได้เป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่ถ้าทำแต้มแล้วโดนทำแต้มคืนง่ายๆ แบบไม่น่าเสีย เป็นเรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกและกำลังใจที่จะสู้ต่อไปเยอะมากกว่าการทำแต้มซะอีก
ถ้าเอาจริง ๆ เราไปดูสถิติแชมป์บาสเกตบอล NBA ของแต่ละปี จะเห็นว่าพวกเขามีเกมป้องกันที่ดีที่สุดติดอยู่ 1 ใน 5 ของปีอยู่ตลอดไม่ว่าจะปีไหนก็ตาม ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย
การตั้งรับที่ดีคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ในเกมกีฬาอย่างบาสเกตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องการสร้างความมั่งคั่งของเกมการเงินในชีวิตด้วย พอล ทูดอร์ โจนส์ (Paul Tudor Jones) มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Hedgefund Manager) เขียนเอาไว้ในหนังสือ “Stock Market Wizards” ว่า
“เคล็ดลับของการทำเงินคือการเล่นเกมป้องกัน คุณต้องปกป้องเงินทุนของคุณและต่อต้านความรู้สึกถูกกระตุ้นที่จะลงไปเดิมพันแบบเสี่ยง ๆ ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำ”
ซึ่งคำกล่าวที่เราเคยได้ยินมาบ่อยครั้งจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ก็ไม่ต่างกัน เขาบอกว่า “กฎข้อแรกของการลงทุนคือ อย่าขาดทุนส่วนกฎข้อที่สอง คือ อย่าลืมกฎข้อแรก”
แล้วทำไมมันถึงสำคัญ?
ความเชื่อหนึ่งที่เราอาจจะเคยได้ยินคนพูดกันคือ “เสี่ยงมาก ได้มาก” (High Risk, High Return) และแห่ทำตามความเชื่อนั้นเพราะอยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ ในช่วงเวลาอันสั้น โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเดินเข้าไปในเกมการเงินที่มีความเสี่ยงสูงโดยที่ไม่มีความรู้เลยด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่
บางคนเห็นคนนั้นรวยจากการเล่นคริปโตฯ ก็ไปลงกับเขาด้วย บางทีเห็นคนนี้เทรด Forex ก็ไปกับเขาอีก หรือแม้แต่ได้ยินข่าวว่าหุ้นนี้กำลังจะมา ก็ตาม ‘พี่คนนั้น’ ไปลงด้วย เพราะมีชื่อเสียงในกลุ่มไลน์ลับ แน่นอนครับ...บางทีก็ฟลุ๊คได้เงินมาจริง (แล้วหลงผิดคิดว่านี่แหละคือทางสว่าง) แต่ส่วนใหญ่แล้วปลายทางก็จะเสียหายไปแล้วไม่น้อย
เหตุผลก็ค่อนข้างชัดเจน เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องการเงินหรือการลงทุนเลยนั่นแหละ เราไม่รู้ว่าต้องป้องกันเงินทุนของตัวเองยังไง เราไม่เคยเรียนรู้เกมรับ แต่มัวแต่ไปโฟกัสที่เกมรุก บางทีอาจจะโชคดีทำเงินได้ แต่ไม่รู้จะรักษาไว้ยังไง พริบตาเดียวก็กลับมาขาดทุนอีกแล้ว
การเล่นเกมรับหลายคนอาจจะมองว่า ‘ป๊อด’ เป็นไก่อ่อน ไม่กล้าสู้ มีกรอบคิดของคนขี้แพ้ คนที่จะชนะในเกมการเงินต้องเสี่ยงสิถึงจะได้เงิน ซึ่งถ้าใครคิดแบบนั้น คุณก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ เขาอาจจะทำได้ก็ได้ แต่คุณจำเป็นต้องเสี่ยงตามเขาไหม? ตอบได้เลยว่าไม่จำเป็น
ทุกการตัดสินใจลงทุนคือการตัดสินใจของคุณ เงินของคุณ คนอื่นบอกให้เสี่ยง เขาไม่ได้มาเสียกับคุณด้วย จำข้อนี้ไว้ให้ดี
ที่สำคัญคือการค่อย ๆ สร้างความมั่งคั่งโดยเน้นเกมรับคือการที่เราคิดคำนวณมาแล้วว่าความเสี่ยงไหนคือสิ่งที่ทำได้ อันไหนที่มีโอกาสมากกว่าก็ค่อยเล่น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เคยพูดไว้ในรายการ ‘Millionaire Mindset’ ว่า
“เกมไหนผมมีโอกาสชนะ 80% ผมถึงค่อยเล่น ไม่งั้นก็ไม่รู้จะเล่นทำไม”
แม้แต่เซียนหุ้นพันล้านที่มีประสบการณ์มานานหลายสิบปีคนนี้ยังบอกว่าโอกาส 50%, 60% หรือแม้แต่ 70% ก็ยังถือว่าเสี่ยงเกินไป สำหรับผมนั่นคือสิ่งที่คนมีเหตุผลทุกคนควรทำ
ทีนี้เราจะเล่นเกมรับทางการเงินของเรายังไงดี?
กุญแจคือเราต้องมีสติเสมอเวลาตัดสินใจลงทุน ศึกษา หาความรู้ วิเคราะห์ให้หนักก่อนจะตัดสินใจ
1. อย่าเอาเงินทุกบาทมาลงทั้งหมด
ทุ่มหมดตัว หลายครั้งก็หมดตัวจริง ๆ อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาดกับเงินทุนที่เรามี ความเชื่อว่า อยากได้เงินเยอะ ก็ต้องทุ่มสิ ส่วนใหญ่แล้วจะเสียมากกว่าได้
2. กระจายความเสี่ยง
หาวิธีกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ลงทุนในตลาดหุ้น ซื้ออสังหาฯ สร้างธุรกิจ ลงเรียนคอร์สพัฒนาทักษะต่าง ๆ สร้างผลิตภัณฑ์ ฯลฯ หาวิธีกระจายการลงทุนของคุณ ไม่ใช่แค่กระจายซื้อหุ้นหลาย ๆ ตัวในตลาดหุ้นเท่านั้น
3. ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
ปัญหาหนึ่งของคนคือความโลภ อยากรวยให้เร็ว อยากมีอย่างคนอื่น ความโลภคือแรงผลักที่ทำให้เราอยากเอาชนะในตอนนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ ลองหาวิธีใช้ชีวิตให้เรียบง่ายมากขึ้น พยายามไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น ใช้เวลากับคนที่เรารัก อาจจะหางานอดิเรกที่ทำให้มีความสุขโดยไม่ต้องอาศัยเงินเยอะ (เรียนคอร์สออนไลน์ อ่านหนังสือ วิ่ง ปลูกต้นไม้ ฯลฯ)
4. อย่าเชื่อใครง่าย ๆ
เวลามีคนมาเล่าเรื่องความสำเร็จหรือคนนั้นรวยแบบนี้ คนนี้ขายครีม ทำธุรกิจนำเข้า รวยแบบนั้น ต้องพยายามตั้งคำถามเอาไว้ก่อนเลย ไม่มีเงินที่ได้มาง่ายๆ ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
การเล่นเกมรับ เริ่มจากแนวคิดที่ถูกต้อง
“ถ้ารับไม่ดี บุกให้ตายพวกเอ็งก็ไม่ชนะ”
ถ้าอยากชนะในเกมบาสเกตบอลก็ต้องเริ่มที่การเล่นเกมรับที่ดี
ถ้าอยากชนะในเกมการลงทุนก็ต้องเริ่มจากการปกป้องเงินทุนของคุณให้ดีเช่นกัน
เมื่อไม่เสียแต้มและป้องกันเงินทุนได้แล้ว ทีนี้เราก็มีเวลาที่จะเลือกแล้วครับว่าจะเดินหมากยังไงต่อไป จะลุยเมื่อไหร่ จะเล่นเกมรุกต่อไปยังไง
ความมั่งคั่งแบบทบต้นไม่ได้เกี่ยวกับผลตอบแทนที่คุณได้รับ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถรักษาผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ยาวนานขนาดไหนต่างหาก