แม้ว่าเงินจะไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่หลายอย่างในชีวิตก็ต้องใช้เงิน! หลายคนจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จนบางครั้งก็เกิดความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคน Gen Y หรือชาวมิลเลนเนียล ที่ความเครียดเรื่องเงินพุ่งสูงกว่าคนวัยอื่นๆ

Affirm บริษัทสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีการเงิน ที่กำลังเติบโตอย่างมากในสหรัฐอเมริกา เผยผลสำรวจการเงินของชาวอเมริกัน จำนวน 2,000 คน พบว่าชาวมิลเลนเนียล ที่เกิดในช่วง ค.ศ.1981-1994 (ตามปีที่เกิดของคนในแบบสำรวจนี้) มีความเครียดและคิดเรื่องเงินเฉลี่ย 7 ครั้งต่อวัน ขณะที่คนกลุ่มอื่นๆ คิดเรื่องนี้ราว 6 ครั้งต่อวัน

Silvija Martincevic ประธานฝ่ายการขาย Affirm ระบุว่า 40% ของกลุ่มมิลเลนเนียลดังกล่าว ยอมรับว่าความล้มเหลวทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุด คือการเป็น “หนี้บัตรเครดิต” ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคนกลุ่มนี้นิยมใช้เทคโนโลยีทางการเงิน ที่ทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวมิลเลนเนียลจะเครียดเรื่องเงินมากที่สุด แต่ราว 79% ของคนกลุ่มนี้ก็ยังมีความมั่นใจมากที่สุดในสถานะทางการเงินของตัวเอง อาจเป็นเพราะว่าอายุยังน้อย และเพิ่งเริ่มทำงานมีรายได้ไม่นานนัก โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าการเงินของพวกเขาจะดีขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า

ตัดภาพมาที่กลุ่มคน Gen X มีความมั่นใจในสถานะการเงินของตัวเองรองลงมา อยู่ที่ 71% ตามด้วยกลุ่ม Gen Baby Boomers อยู่ที่ 65% และกลุ่ม Gen Z ซึ่งมีอายุน้อยที่สุด มีความมั่นใจในระดับต่ำสุด อยู่ที่ 57% เท่านั้น จึงทำให้เกือบครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้ เริ่มออมและลงทุนเร็วขึ้นตั้งแต่อายุ 25 ปี

แม้ว่าคนแต่ละช่วงวัย จะมีพฤติกรรมการออมและการใช้จ่ายที่แตกต่างกัน แต่จะเห็นได้ว่า “เงิน” ยังเป็นปัญหาความเครียดและวิตกกังวลของคนทุกช่วงอายุ แต่ “ทัศนคติ” และ “การวางแผนการเงิน” จะช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้ ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม ยิ่งรู้ตัวเร็ว ก็ยิ่งเริ่มวางแผนได้เร็วกว่าคนอื่นนะครับ