รู้ทั้งรู้ว่ามันดี แต่หลายคนก็ไม่อยากทำประกัน
อะไรอยู่เบื้องหลังความไม่ชอบใจเหล่านี้ ลองมาหาคำตอบกัน

รู้มั้ย? ประชากรไทย ทำประกันค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบประเทศอื่นๆ

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า คนไทย 100 คน มีกรมธรรม์เพียง 39.5 ฉบับ หรือ เฉลี่ยทำประกันคนละไม่ถึง 1 ฉบับ ผิดกับ คนสิงคโปร์ 100 คน มีกรมธรรม์ถือครองถึง 267 ฉบับ เฉลี่ยคนละ 2 ฉบับกว่าๆ ขณะที่ คนญี่ปุ่น 100 คน มีกรมธรรม์ ถึง 332 ฉบับ หรือ เฉลี่ยคนละ 3 ฉบับเลยทีเดียว

แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเมินหน้าหนีประกัน aomMONEY ได้รวบรวมหลากหลายเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความไม่ชอบทำประกันของคนไทยมาฝากกัน

1. รายได้ไม่เพียงพอ

ส่วนใหญ่เห็นว่าทำประกันเป็นเรื่องสิ้นเปลือง ใช้เงินเยอะ และมองว่านำเงินมากินมาใช้ในชีวิตประจำวันดีกว่า เรื่องประกันยังไม่จำเป็น

ผลการวิจัย หัวข้อ “ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อประกันของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ - ปริมณฑล” ของ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2560 ระบุชัด “รายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีผลต่อการตัดสินใจทำประกันของผู้บริโภค” ยิ่งเงินเดือนสูง โอกาสทำประกันก็จะมากขึ้น แต่หากรายได้เฉลี่ยต่อเดือนน้อย เงินเดือนแทบไม่พอใช้ ก็แทบมองไม่เห็นโอกาสทำประกัน เพราะจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

2. เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้

ประกันเป็นสินค้าที่มีลักษณะพิเศษ คือ จับต้องไม่ได้ ไม่เหมือนสินค้าอื่นๆ เช่น ซื้อรถเก๋งได้ขับ ซื้อโทรศัพท์ได้ใช้ ซื้อทีวีจอแบนได้ดู แต่ประกันชีวิตจะได้ใช้เฉพาะตอนเกิดเรื่องเท่านั้น พอยังไม่เกิดเหตุขึ้น คนส่วนใหญ่มักไม่นึกถึง

3. มีสวัสดิการคุ้มครองอยู่แล้ว

เชื่อว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนยังไม่ทำประกันชีวิตตอนนี้ เพราะมองว่าตราบใดที่ยังทำงานอยู่ ก็จะมีสวัสดิการของบริษัทดูแลยามเจ็บป่วย จึงยังไม่เห็นความจำเป็นของการทำประกันอื่นๆ เพิ่มเติม

นอกจากเหตุผลหลักทั้ง 3 ข้อนี้แล้ว ยังมีเหตุผลที่เกิดจากประสบการณ์เชิงลบ จนกลายเป็นเรื่องจำฝังใจ และเล่าต่อจากปากต่อปากในทางแย่ๆ เกิดเป็นปรากฏการณ์ “Word-of-Mouth” ที่เมื่อคนส่วนใหญ่ได้ฟังแล้วก็ไม่อยากทำประกัน เช่น

- ไม่ไว้ใจตัวแทนประกัน: กลัวว่าตัวแทนประกันจะบอกรายละเอียดไม่หมดหรือขายประกันให้เกินความจำเป็น บางรายใช้วิธีตามตื้อเช้า-เย็น เพื่อกดดัน แม้จะขายได้แต่เหตุผลจริงๆ ก็เป็นเพราะลูกค้าเกรงใจ ขณะที่ลูกค้าบางครั้งสนใจจะซื้อกรมธรรม์จริงๆ แต่กลับถูกชักชวนให้ซื้อประกันที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ และต้องจ่ายเบี้ยแพงขึ้น

- เกิดเหตุแล้วเคลมยาก: ใช้เวลาเดินเรื่องค่อนข้างนาน หรืออาจจะมีการประวิงเวลาจ่ายสินไหมทดแทน จนเกิดปัญหาฟ้องร้องกันบ่อยครั้ง หลายคนจึงตัดสินใจไม่ทำประกันดีกว่า เพราะขี้เกียจยุ่งยาก

และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ของคนที่ไม่ทำประกัน อย่างไรก็ดี aomMONEY เชื่อว่า ประกันเป็นสิ่งสำคัญกับทุกคน เพราะเราไม่สามารถมีทางรู้ได้เลยว่า เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร

การเจียดเงินเพื่อซื้อประกันไว้ แม้อาจไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงลดลง แต่จะเป็นตัวช่วยในการคุ้มครองความเสี่ยงที่ดี ให้กับเราหรือคนที่เรารักสามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างมั่นใจ

สุดท้าย สำหรับใครที่ยังกลัวการทำประกันอยู่ อาจจะต้องลองเปิดใจ ลองประเมินความเสี่ยงที่มี แล้วเลือกให้เหมาะกับความต้องการ เหมาะกับงบที่มี เชื่อเถอะครับว่า สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องพูดทีหลังว่า “รู้งี้ทำประกันไว้ก็ดี”