ปั้นเงินสังเกตว่าวิธีการวางแผนภาษีของคนไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หลายๆคนคำนึงถึง “ความจำเป็น” และ “เป้าหมาย” ในชีวิตมากขึ้น จากเดิมที่หลับหูหลับตาจะลดหย่อนภาษีให้ได้มากที่สุด ก็เริ่มมีการคัดสรรเครื่องมือต่างๆเพื่อการลดหย่อนภาษีอย่างเหมาะสม เลือกวางแผนการลดหย่อนภาษีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตไปพร้อมกัน

ที่ผ่านมาคงไม่มีใครไม่รู้จักกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ (LTF) หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมสำหรับการลดหย่อนภาษี คนที่เคยซื้อ LTF จะคุ้นเคยกับกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้น มีระยะเวลาการถือครองประมาณ 5-7 ปีปฏิทิน (ขึ้นอยู่กับปีที่ซื้อ) มักจะซื้อเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะสั้นกลาง ไม่ต้องการถือครองนาน

แต่หลังจากที่ LTF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีในปี 2562 ได้เป็นปีสุดท้าย ประเทศไทยก็มีกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ออกมาแทน พร้อมกับนโยบายลงทุนที่หลากหลาย ได้สิทธิลดหย่อนทางภาษี โดยมีระยะเวลาถือครองนานขึ้น 

นักลงทุนบางท่านอาจกังวลว่า SSF ที่มาแทนจะตอบโจทย์การลงทุนเหมือนเดิมมั้ย? ปั้นเงินอาสาตอบให้หายข้องใจได้เลยว่า SSF ตอบโจทย์การลงทุนได้ครอบคลุมยิ่งกว่า LTF เสียอีก!

เพราะ SSF สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ทำให้มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย กระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่หลากหลายได้มากกว่า LTF เคยถูกกำหนดไว้ โดยระยะเวลาถือครองการลงทุน 10 ปีขึ้นไปสามารถตอบโจทย์เป้าหมายระยะยาวบนกรอบผลตอบแทนและความเสี่ยงในการลงทุนที่ต่างกัน เราจึงสามารถเลือกกองทุนให้เหมาะกับแผนการใช้เงินในอนาคตได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่ บลจ.ที่เราสนใจจะมีกองทุนรวม SSF ที่ตอบโจทย์การลงทุนของเรามั้ย นั่นก็อีกเรื่อง

คงไม่มีใครที่เคยซื้อ LTF แล้วจะไม่รู้จัก CG-LTF และ UOBLTF ของ บลจ. ยูโอบี (UOBAM) ที่ให้ผลตอบแทนดีติดอันดับ TOP5 กลุ่มกองทุนรวม LTF ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลงานในอดีตนับเป็นเครื่องชี้วัดการบริหารกองทุนระยะยาวได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ปั้นเงินก็เลยขอแกะกล่องกองทุนใหม่ของ UOBAM ซึ่งปัจจุบันมีกองทุน SSF ที่น่าสนใจมากๆ 9 กองทุน 6 ประเภทสินทรัพย์

1) UOBSD-SSF : กองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ เดลี – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (กองทุนความเสี่ยงระดับ 1)

กองทุน SSF ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดของ UOBAM มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง และเงินฝากธนาคาร เรียกได้ว่าเป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก 

2) UOBEQ-SSF : กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ตราสารทุน เพื่อการออม (กองทุนความเสี่ยงระดับ 6)

กองทุนที่วางกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 80% นโยบายจะคล้ายๆกับ LTF ซึ่งอย่างที่บอกว่าทาง UOBAM เคยมีผลงานเด่นๆคือ CG-LTF และ UOBLTF แม้รายละเอียดจะแตกต่างกันในเรื่องนโยบาย แต่ผลการดำเนินงานของ LTF ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนพอจะอุ่นใจได้บ้าง

SSF กองนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายระยะยาว นอกเหนือจากการลดย่อนภาษี 

ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563   สามารถดูข้อมูลปัจจุบันได้ที่ :

https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00685/UOBEQ-SSF

3) UGQG-SSF : กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (กองทุนความเสี่ยงระดับ 6)

SSF หุ้นต่างประเทศที่ลงทุนใน Master Fund ของ UOBAM ประเทศสิงคโปร์ ชื่อ United Global Quality Growth Fund (กองทุนหลัก) กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก เช่น APPLE MICROSOFT AMAZON GOOGLE FACEBOOK เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักหุ้นจากฝั่งอเมริกาที่ยกตัวอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีหุ้นเติบโตใน จีน ไต้หวัน สวิสเซอร์แลนด์ ฯลฯ เรียกว่าซื้อกองเดียวได้หุ้นเติบโตเกือบทั่วทั้งโลก

กองนี้เหมาะกับการลงทุนระยะยาวเพราะการลงทุนกับหุ้นเติบโตต้องใช้เวลาพอสมควร มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อีกมากในช่วงเวลาหลายปีข้างหน้า

United Global Quality Growth Fund (Master Fund)

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563

สามารถดูข้อมูลปัจจุบันได้ที่ : www.uobam.co.th

4) UNI-SSF : กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (กองทุนความเสี่ยงระดับ 6)

ชื่อเสียงเรียงนามของ SSF กองนี้มีคำว่า “Global Innovation” ประกอบอยู่ นโยบายเด่นของกองทุนนี้คือลงทุนกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั่วโลก โดยมอบหมายให้ Wellington Management เป็นผู้รับดำเนินการช่วงการลงทุนต่อ ทำให้ผู้ถือหน่วยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

นักลงทุนเป้าหมายที่เหมาะกับกองทุนนี้ควรจะเป็นเป้าหมายที่ต้องการผลตอบแทนสูง ซึ่งต้องแลกมากับความผันผวนที่สูงและนักลงทุนต้องสามารถแบกรับความเสี่ยงได้มาก พูดง่ายๆว่าถ้าระหว่างทางเกิดขาดทุนก็จะสามารถหาเงินจากส่วนอื่นมาเติมเต็มได้

5) UOBSHC-SSF : กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล เฮลท์แคร์ ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม และ UGH-SSF : กองทุนเปิด ยูโอบี โกลบอล เฮลท์แคร์ ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (ความเสี่ยงของกองทุนระดับ 7)

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยเทรนด์เรื่องสุขภาพก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุน ยิ่งมีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาผนวกด้วยแล้ว เฮลธ์แคร์ก็ยิ่งดูน่าสนใจ UOBAM จึงออก SSF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ มาตอบสนองความต้องการของนักลงทุนถึง 2 กองด้วยกัน

โดย SSF ประเภทนี้ของ บลจ.ยูโอบี จะลงทุนในกองทุนหลักที่สิงคโปร์ชื่อว่า United Global Healthcare Fund เน้นลงทุนในหุ้น Health Care ทั่วโลก ทั้งบริษัทยา ห้องแล็บ เครื่องมือการแพทย์ และธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ โดยกระจายการลงทุนไปในประเทศต่างๆ

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563

สามารถดูข้อมูลปัจจุบันได้ที่ : www.uobam.com.sg

ผลตอบแทนของกองทุนหลักอาจจะไม่ได้เติบโตดีเหมือนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่เมื่อดูผลตอบแทนในอดีตตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (สิงหาคม 2000) นับเป็นเวลา 20 ปีแล้ว กองทุนหลักที่สิงคโปร์ทำผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 9.79% ต่อปี เรียกว่าทำผลตอบแทนได้ดีมาโดยตลอด (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2563)

6) United Harmony Fund Series : ยูไนเต็ด ฮาร์โมนี ฟันด์ ซีรีส์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (ความเสี่ยงของกองทุนระดับ 5)

อันนี้ว้าวมาก! ผมชอบในความครีเอทีฟของทาง UOBAM เพราะพี่แกเล่นคิดชื่อซีรีส์กองทุนรวม SSF ที่มีนโยบายลงทุนแบบผสม หรือ Asset Allocation ล้อกับประเภทของดนตรีที่ตัวโน้ตต่างกันไปตามผลตอบแทนและความเสี่ยง ทั้ง UJAZZ-SSF, UPOP-SSF และ UROCK-SSF สามกองสามสไตล์

UJAZZ-SSF เป็นตัวแทนของเพลงแจ๊สฟังสบาย ลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ในสัดส่วน 80% ขึ้นไป เน้นสร้างรายรับอย่างสม่ำเสมอ สามารถจำกัดความเสี่ยงได้แบบสบายๆ และอีก 15% ลงทุนกับหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งทั่วโลก

UPOP-SSF บทเพลงป๊อปใสโยกสนุก ลดสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ให้เหลือประมาณ 70% แล้วเพิ่มการลงทุนในหุ้นเติบโตพื้นฐานแข็งแกร่งทั่วโลก 20% ขึ้นไป และใส่ทองคำลงมาอีก 3-4% เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน 

UROCK-SSF แค่อ่าน Fund Fact ก็สัมผัสได้ถึงพลังเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้า กระเดื่องกลองชุด และเบสอันหนักแน่น เพราะหยิบเอาตราสารนี้มาลงทุนประมาณ 40% ที่เหลือแบ่งไปให้หุ้นเติบโต 25% หุ้นเฮลธ์แคร์ประมาณ 11% ทองคำ 7% และหุ้นเทคโนโลยีระดับโลกอีก 3%

(ที่มาข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 สามารถดูข้อมูลปัจจุบันได้ที่ : www.uobam.co.th)

SSF ซีรีส์นี้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงจากการบาล้านซ์สินทรัพย์ชนิดต่างๆ เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ หรือมือเก่าที่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกจัดพอร์ตลงทุนด้วยตัวเองในระยะยาว เปิดโอกาสให้เราเลือกผลตอบแทนและความเสี่ยงตามที่นักลงทุนยอมรับได้

แกะกล่องกันครบหมดแล้วครับ สำหรับกองทุน SSF ซึ่งจะเห็นได้ว่า UOBAM ออกแบบกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์แบบครบครันด้วยความหลากหลายของสินค้าที่ตอบโจทย์เป้าหมายระยะยาว 10 ปีขึ้นไป ทำให้เราสามารถใช้กองทุน SSF วางแผนการเงินและวางแผนภาษีไปได้พร้อมๆกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นจะใช้กองไหนเป็นเครื่องมือก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน

แต่ปั้นเงินขอเน้นย้ำครับว่า เราควรเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตหลักของเราทั้งเรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนที่จะเลือกว่าควรจะซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่แผนลดหย่อนภาษี มันมีอะไรมากกว่านั้น...

ปล. หากสนใจรายละเอียดกองทุน SSF ของ UOBAM สามารถเข้าเว็บไซต์ https://www.uobam.co.th เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมในหนังสือชี้ชวน หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทางเบอร์โทร 02 786 2222

คำเตือน

- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า นโยบายกองทุน เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุน SSF 

- กองทุน UJAZZ-SSF, UPOP-SSF, UROCK-SSF, UGQG-SSF, UOBSHC-SSF, UGH-SSF และ UNI-SSF มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

บทความนี้เป็น Advertorial