ใคร ๆ ก็รู้ว่าตลาดหุ้นผันผวน

หุ้นถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจสูง ตลาดหุ้นจึงผูกพันยึดติดกับสภาพเศรษฐกิจไปด้วยโดยปริยาย แน่นอนว่าแต่ในช่วงระยะของตลาดหุ้น วิธีการลงทุนให้ได้กำไรมากที่สุดย่อมแตกต่างกัน ในแต่ละช่วงเวลาของเศรษฐกิจ กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย

การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้เราได้

หุ้นแต่ละตัวจะมีช่วงเวลาทอง หรือช่วงเวลาที่ราคาหุ้นโดดเด่นขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าเราสามารถเลือกถือหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่งยาวต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเราสามารถสลับกลยุทธ์ไปมาได้อย่างเหมาะสม เราก็จะสามารถทวีคูณผลตอบแทนของเราให้สูงขึ้นไปได้อีก หรือในอีกแง่หนึ่ง เราสามารถลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตของเราได้ด้วย

การมีเครื่องมีที่หลากหลายจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญของนักลงทุน

สำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุนรวมเป็นหลักแล้ว การเลือกนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมที่เหมาะสมถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ แต่กองทุนรวมส่วนใหญ่มักจะกระจายแยกกันในแต่ละกลยุทธ์ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ปรับพอร์ตร่วมกัน เมื่อถึงเวลาจริง การใช้งานจึงอาจจะยากกว่าปรกติ ใครที่กำลังมองหาวิธีจัดการพอร์ตจากกลุ่มกองทุนรวมที่มีการออกแบบนโยบายมาอย่างเหมาะสมแล้ว กองทุนรวมชุด SCB SMART BETA คือ

SCB SMART BETA คือ ชุดกองทุนรวมเพื่อรับมือกับทุกสภาพตลาดหุ้น

ความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่ม Smart Beta ก็คือเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากนักลงทุนมาอย่างยาวนาน จุดเด่นคือเป็นการรวมข้อดีของทั้ง Passive Fund และ Active Fund เข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ แม้จะมีค่าธรรมเนียมต่ำแบบ Passive Fund แต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีได้ในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะเงื่อนไขการลงทุน หรือเกณฑ์ในการคัดเลือกสินทรัพย์ตามปัจจัยที่กำหนดอย่างเป็นระบบ ซึ่งแต่ละปัจจัยจะสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นตามสภาวะตลาดแต่ละช่วง

โดยชุดกองทุนรวม SCB SMART BETA ประกอบด้วยกองทุนรวมที่มีนโยบายแตกต่างกันทั้งหมด 5 กองทุน เพื่อนำมาใช้ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงสภาพตลาดหุ้น ช่วงสภาพเศรษฐกิจ รวมไปถึงยังใช้ในการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มลดความเสี่ยงให้เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละคนได้ด้วย เรียกได้ว่าจะซื้อกองเดียวก็ดี จะกระจายซื้อเท่ากันก็ได้ จะปรับสัดส่วนตามความเสี่ยงก็ไม่ติดขัด หรือจะปรับพอร์ตไปตามช่วงกลยุทธ์ตลาดก็ทำได้เช่นกัน

1) SCBQUALITY

SCBQUALITY หรือ SCB Thai Equity Quality Portfolio คือ กองทุนรวมที่เน้นปัจจัยคุณภาพ (Quality Factor Investing) เน้นคุณภาพที่ดีและมีการเติบโตที่เหมาะสม อ้างอิงจากความสามารถในการทำกำไรต่าง ๆ เช่น ROE , ROE Growth , Gross Profit Margin 

กองทุนนี้จะเหมาะสมกับช่วงตลาดขาลง เศรษฐกิจชะลอตัวหรือหดตัว การมีหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงขาลงได้ดี

2) SCBVALUE

SCBVALUE หรือ SCB Thai Equity Value Portfolio คือ กองทุนรวมที่เน้นปัจจัยคุณค่า (Value Factor Investing) เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาไม่แพง และมีความน่าสนใจในเชิงมูลค่าพื้นฐาน อ้างอิงจากตัวชี้วัดที่บ่งชี้มูลค่าพื้นฐานของกิจการต่าง ๆ เช่น Earning Yield , Cash Flow Yield และ Dividend Yield 

กองทุนนี้จะเหมาะสมกับช่วงตลาดขาขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัวหรือขยายตัว การมีหุ้นที่มีมูลค่าพื้นฐานถูกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรได้มากกว่าหุ้นที่มีราคาแพง

3) SCBMOMENT

SCBMOMENT หรือ SCB Thai Equity Momentum Portfolio คือ กองทุนรวมที่เน้นปัจจัยโมเมนตัม (Momentum Factor Investing) เน้นหุ้นที่มีแนวโน้มพฤติกรรมราคาที่ดี ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม อ้างอิงไปกับสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วง อ้างอิงจาก Momentum Factor ต่าง ๆ เช่น Return และ Sharpe Ratio 

กองทุนนี้จะเหมาะสมกับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มการเติบโตเป็นบวก โดยอาจจะเป็นช่วงขยายตัวหรือหดตัวก็ได้ ช่วงเวลาเหล่านี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีของตลาดหุ้น เหมาะสมกับการลงทุนแบบโมเมนตัม

4) SCBEQUAL

SCBEQUAL หรือ SCB Thai Equity Equal Weight Portfolio คือ กองทุนรวมที่กระจายเงินลงทุนในบริษัท 80 บริษัทแรกในดัชนี SET100 แบบให้น้ำหนักเท่ากัน ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของหุ้นบางตัวมากเกินไปตาม index เช่น ในดัชนี SET 100 เกือยครึ่งของดัชนีลงทุนกระจุกอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่เพียง 10 ตัว เช่น PTT (9.84%) AOT (8.51%) CPALL (5.33%) (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)

กองทุนนี้จะเหมาะสมกับช่วงตลาดขาขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัวหรือขยายตัว เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฟื้นตัวเป็นอย่างมาก การกระจายมาลงทุนมากกว่า SET50 จะทำให้ช่วยได้ผลตอบแทนจากหุ้นขนาดกลางที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งไปอีกด้วย

5) SCBLARGE

SCBLARGE หรือ SCB Thai Equity Large-Cap Multi-Factor Portfolio คือ กองทุนรวมที่จะลงทุนในบริษัท 20 – 30 บริษัทแรกในดัชนี SET50 โดยอ้างอิงกับปัจจัยต่าง ๆ ที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

กองทุนนี้จะเหมาะสมกับช่วงตลาดขาลง เศรษฐกิจชะลอตัวหรือหดตัว เนื่องจากในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นย่ำแย่ หุ้นขนาดใหญ่มักมีความผันผวนเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบกับตลาดหุ้นรวมต่ำกว่าหุ้นขนาดเล็ก การเข้าหุ้นใหญ่ในช่วงตลาดขาลงจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการจำกัดความเสี่ยงได้

นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนรวมใน SCB SMART BETA อย่างไรได้บ้าง?

1) เลือกกองทุนตามสภาวะตลาด

SCB SMART BETA ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการจัดสรรพอร์ตในช่วงเวลาตลาดหุ้นที่แตกต่างกันออกไป ตลาดขาลง ชะลอตัวหรือหดตัว เลือก SCBQUALITY กับ SCBLARGE ช่วงตลาดขาขึ้น ฟื้นตัวหรือขยายตัว เลือก SCBVALUE กับ SCBEQUAL ในขณะที่หากการเติบโตของเศรษฐกิจยังอยู่ในแดนบวก เราก็สามารถเพิ่มเติม SCBMOMENT ไปเพิ่มผลตอบแทนได้

2) เลือกกองทุนตามความเสี่ยงที่เหมาะสม

SCB SMART BETA สามารถใช้ในการจัดสรรพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนสามารถรับได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนอยากลงทุนในหุ้น แต่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก อยากได้ผลตอบแทนในระยะยาวอ้างอิงไปกับดัชนีตลาด แบบนี้อาจจัด SCBEQUAL คู่กับ SCBLARGE เป็นต้น

3) เลือกกองทุนแบบกลยุทธ์ตามตลาดแต่ละช่วง

SCB SMART BETA สามารถจัดสรรพอร์ตแบบเป็นตะกร้าความเสี่ยงได้เช่นกัน โดยเริ่มต้นเราอาจจะลงทุนไว้ทั้ง 5 กองเลย แต่อาจจะปรับสัดส่วนแต่ละช่วงไปตามแต่สภาพตลาดแบบนี้ก็ทำได้ การกระจายลงหลายกองจะช่วยลดความเสี่ยงในการกระจุกตัว และช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวได้เช่นกัน

นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิกหรือโหลดแอปพลิเคชัน SCB EASY APP ลงทุนง่ายใน 3 นาที จะดูข้อมูลเพิ่มเติม จะกดซื้อขายกองทุนก็สามารถทำได้ง่ายมาก หรือว่าจะติดต่อโดยตรงที่ SCBAM Client Relations 0 2777 7777 กด 0 กด 6 ก็ได้เช่นกัน

ลงทุนศาสตร์

คำเตือน

  1. เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  2. ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  3. ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน
  4. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย

บทความนี้เป็น Advertorial