หลายๆครั้งที่ผมเห็นมนุษย์เงินเดือนท้อใจนะครับว่า ไม่ได้มีรายได้มากเหมือนการทำงานอิสระ ได้รับเงินเป็นเดือนๆไปแต่ต้องมาทำงานทั้งเดือน ในขณะที่คนทำงานอิสระสามารถหาเงินได้จากการรับจ้างทำงานแค่ไม่กี่วันก็สามารถได้รับรายได้เท่าๆกับเขาแล้ว แต่ลึกๆแล้วผมว่ามันก็ไม่ใช่ทุกคนนะครับ สิ่งที่เรามีมากกว่าหลายๆอาชีพที่ต้องเป็นเจ้านายตัวเองก็คือ การมีเงินเข้าทุกเดือนตามเงื่อนไขของบริษัท หากเราทำงานปกติไม่ได้มีการขาดงานบ่อยๆ สายๆบ่อยๆ ส่งมอบผลงานได้ ยังไงบริษัทก็จะจ่ายเงินเดือนให้ทุกเดือนอยู่แล้ว ในช่วงที่เกิดวิกฤตต่างๆ เช่น วิกฤตการเมือง น้ำท่วม ที่ทำให้ธุรกิจเดินต่อไม่ได้ คนทำอาชีพอิสระงานไม่เข้า รายได้หายไปหมดแต่คนที่ได้เงินเดือนประจำยังสามารถได้รับเงินเดือนต่อนะครับ

รายรับสม่ำเสมอ (เงินเดือน) = สามารถวางแผนการเงินเป็นประจำได้

เงินเดือนเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถวางแผนการเงินของตัวเองได้มากกว่าการรับเงินในรูปแบบอื่นๆ อันนี้ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะคุณสามารถกำหนดได้เลยว่า คุณจะนำไปออมเท่าไหร่ จะเอาไปใช้จ่ายเท่าไหร่ตามแบบแผนของตัวเอง และแน่นอนว่า หลายๆคนก็อาจจะมีรายได้อื่นๆที่มาไม่ประจำ อาจจะมาแบบไม่รู้ตัวบ้าง เป็นการทำงานพิเศษ ค่าคอมมิชชั่น มรดก สร้างรายได้ตามเป้าหมาย ก็ทำให้มีรายได้อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นรายได้ที่เป็นครั้งคราว

รายรับไม่ประจำ = สามารถนำมาการวางแผนการเงินเพิ่มเติมได้

หากคุณไม่แยกเงินสองส่วนนี้ออกมานะ บางครั้งเราอาจจะสับสนได้ว่า รายได้ของเราจริงๆแล้วมันเท่าไหร่กันแน่ และหากเราวางแผนทางการเงินผิดพลาดก็อาจจะทำให้เราเกิดปัญหาได้ ผมขอยกตัวอย่างเช่น ยอดมนุษย์เงินเดือนท่านหนึ่ง

  • มีเงินเดือน 20,000 บาท (รายรับสม่ำเสมอ)
  • ในเดือนนี้ถูกรางวัลล็อตเตอรี่ 10,000 บาท (รายรับครั้งคราว)
  • ในเดือนนี้ได้เบี้ยเลี้ยงจากการทำงาน 15,000 บาท (รายรับครั้งคราว)

หากเรามองเผินๆก็จะพบว่า เขามีรายได้ถึง 45,000 บาทเชียวนะ และมีอำนาจซื้อที่มากขึ้น เขาจะใช้เงินไปทั้งหมดเพื่อความสุขก็ได้ แต่หลายๆครั้งที่บางคนอาจจะพบกับภาพลวงตาว่า เขามีรายได้มากพอที่สามารถนำเงินไปก่อหนี้สินเพิ่มได้ จึงไปผ่อนโน้นผ่อนนี่ และเมื่อเขาเดินตามสิ่งที่เขาคิดโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบและวางแผนให้ดี สุดท้ายแล้วมันจะจบที่การเกิดหนี้สินที่ไม่สามารถชำระได้ เพราะรายได้ในเดือนต่อๆมาจากรายรับที่ไม่ประจำมันไม่ครอบคลุมซะแล้ว นี่ล่ะเป็นความเสี่ยงของหลายๆคนที่จะต้องระวัง ฉะนั้นแล้วต้องอย่าลืมว่า รายรับที่มาเป็นครั้งคราวมันอาจจะมากมายแต่ก็เป็นไปได้ที่ว่ามันจะมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น   ในแต่ละเดือนควรวางแผนรายรับอย่างไรบ้าง?

  • นำรายได้มาแจกแจงเลยครับว่าในแต่ละเดือนคุณมีรายรับประเภทไหนเท่าไหร่บ้าง
  • ส่วนที่เป็นรายได้ประจำ คุณเอามาวางแผนการเงิน กำหนดเงินออมและค่าใช้จ่าย อย่าสร้างภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายจากเงินก้อนนี้เกิน 80% ต่อเดือน
  • ส่วนที่เป็นรายได้ไม่ประจำ สามารถเอามาวางแผนการเงินเพิ่มเติมได้ โดยจำกัดค่าใช้จ่ายเป็นครั้งคราว ไม่ก่อหนี้สินระยะยาว และเก็บเงินในส่วนนี้เป็นทุนสำรองไว้เผื่ออนาคตเรามีเหตุต้องใช้เงินมากขึ้น ใช้เป็นทุนสำรอง หรือมีแผนการลงทุนที่จะสร้างความมั่งคั่งในอนาคตเพิ่มเติม

หากเราสามารถวางแผนทางการเงินในส่วนของรายรับได้แล้วว่า เราควรจะบริหารอย่างไร ใช้จ่ายสิ่งที่เป็นภาระผูกพันได้จากเงินก้อนไหน ไม่เกินเท่าไหร่ และส่วนที่เหลือถ้าเราได้เงินเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ รับรองว่าคุณจะเก็บออมได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยครับ

อ่านซีรี่ย์การเงิน ชุด รวยได้จริงกับสิ่งที่เรียกว่าเงินเดือน ย้อนหลัง >> ที่นี่ 

ต้าร์ กวิน สุวรรณตระกูล

ผู้แต่งหนังสือ รวยได้จริงกับสิ่งที่เรียกว่าเงินเดือน