ช่วงปลายปี คือ ช่วงเวลาทองของการลงทุน

ด้วยข้อกำหนดหลาย ๆ อย่างที่การลงทุนบางประเภทจะได้สิทธิพิเศษในรอบปีปฏิทินเท่านั้น เช่น การซื้อ LTF, RMF และประกันชีวิต เพื่อลดหย่อนภาษี แต่ละช่วงปลายปี ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันภัย บริษัทจัดการกองทุนรวม ไปจนถึงบริษัทบัตรเครดิตจึงพากันพาเหรดโปรโมชันออกมาเอาใจคนอยากลงทุนเป็นจำนวนมาก

แต่สิ่งสำคัญคือเป้าหมายที่แท้จริงของการซื้อผลิตภัณฑ์ลงทุน

นักลงทุนควรพิจารณาถึงเป้าหมายของการลงทุนมาเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะพิจารณาผลประโยชน์ที่จะได้รับเป็นอันดับสอง ยกตัวอย่างเช่น เราควรมองเรื่องการลงทุน การวางแผนการเงิน หรือการประกันชีวิต มาก่อนส่วนลดภาษีที่ได้ อย่าซื้อเพียงแต่ว่าซื้อให้ครบสิทธิ์ลดหย่อนภาษี แบบนี้เราอาจจะได้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ไม่เหมาะสมกับเรามาได้

LTF – RMF - ประกันชีวิต

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้ง 3 ประเภทถือว่ามีความสำคัญต่อนักลงทุนมาก โดยเฉพาะนักลงทุนที่ไม่ได้เน้นลงทุนในหุ้นรายตัว แต่ใช้กองทุนรวมเป็นเครื่องมือในการลงทุนและวางแผนการเงิน จุดเด่นของ LTF และ RMF คือ การกระตุ้นให้เราลงทุนในระยะยาวซึ่งมีข้อดีมาก เพราะการลงทุนระยะยาวจะช่วยทำให้เราลดความผันผวนจากตลาดหุ้นในระยะสั้น และยังช่วยสร้างวินัยการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วย

ในขณะที่ประกันชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยอาจจะเรียกได้ว่า ประกันชีวิตคือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สมควรจะทำก่อนที่จะเริ่มต้นลงทุนเสียด้วยซ้ำ เพราะการคุ้มครองความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะคนที่มีภาระต้องดูแลค่อนข้างมาก การวางแผนประกันชีวิตจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลย

1. LTF

LTF คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะกับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย และมีเงินลงทุนที่สามารถถือครองได้ในระยะยาวอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน ใครที่กำลังจะลงทุนในกองทุนหุ้นไทย โดยมีเป้าหมายจะลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว การเลือกซื้อ LTF เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยบริหารการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสมและลงทุนให้และยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วยตามเงื่อนไขสรรพากร

LTF จึงเหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยในระยะยาว

2. RMF

RMF คือ กองทุนรวมสำหรับวางแผนเกษียณ กองทุนรวมประเภทนี้มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนได้หลากหลายต่างจาก LTF ตัวอย่างสินทรัพย์ เช่น ตราสารหนี้ ตลาดเงิน อสังหาริมทรัพย์ หุ้น เป็นต้น นักลงทุนจึงสามารถเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่ต้องการและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ด้วยกองทุน RMF มีจุดมุ่งหมายที่จะวางแผนการเกษียณเป็นหลัก ดังนั้น RMF จะมีเงื่อนไขการถือครองจนถึงอายุ 55 ปี และต้องลงทุน 5 ปีต่อเนื่อง (ผิดนัดได้ไม่เกิน 2 ปีติดต่อกัน โดยนับเงื่อนไขเฉพาะปีที่ลงทุน)RMF จึงเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย แต่ก็ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงไปการวางแผนเกษียณเป็นหลัก

RMF จึงเหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนเกษียณด้วยกองทุนรวม

3. ประกันชีวิต

ประกันชีวิต เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเสียชีวิตเป็นหลัก นอกจากนี้ ประกันชีวิตบางประเภทยังมีจุดมุ่งหมายเสริมได้อีก เช่น เพื่อการวางแผนภาษี , เพื่อแบ่งเบาภาระเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และ เพื่อการวางแผนเกษียณ เป็นต้น ดังนั้น ก่อนที่เราจะวางแผนการซื้อประกันชีวิต เราควรเริ่มต้นกับการพิจารณาความเสี่ยงและจุดประสงค์ของการซื้อประกันชีวิตของเราให้รอบคอบเสียก่อน มุ่งเน้นไปที่ทุนประกันที่ครอบคลุมความเสี่ยงของเราและครอบครัว ภายใต้เบี้ยประกันที่จ่ายไหว โดยอาจจะเลือกประกันชีวิตที่มีเงื่อนไขพิเศษอื่นขึ้นมาตามความต้องการของแต่ละท่าน

ประกันชีวิต จึงเหมาะกับคนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการเสียชีวิตเป็นหลัก

เลือกผลิตภัณฑ์ได้แล้ว ก็อย่าลืมมาใช้โปรโมชันให้เป็นประโยชน์

ตอนนี้ธนาคารกรุงไทยกำลังจัดแคมเปญ กรุงไทย Investment Festival ที่มีโอกาสให้นักลงทุนได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 60,000 บาท โดยแบ่งโปรโมชันออกเป็น ด้านประกันชีวิต ด้านกองทุนรวม และด้านบัตรเครดิต KTC

1. ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต

นักลงทุนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 60,000 บาท เมื่อซื้อประกันชีวิตตามที่กำหนด ตั้งแต่ 16 กันยายน – 31 ธันวาคม 2562 (อนุมัติภายในวันที่ 15 มกราคม 2563)

2. ผลิตภัณฑ์กองทุนรวม

นักลงทุนรับเครดิตเงินคืนเข้ากองทุน KTSTPLUS  100 บาท เมื่อลงทุนใน LTF/RMF ทุก ๆ 50,000 บาท (ยกเว้นกองทุน RMF2 , RMF3 และ RMF4)

3. บัตรเครดิต KTC

นักลงทุนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 14% หรือผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตกรุงไทย-แอกซ่า ผ่านบัตรเครดิต KTC

หากใครคิดจะลงทุนอยู่แล้ว โปรโมชันพวกนี้คุ้มมาก

คุ้มต่อที่ 1 คือ ผลตอบแทนจากการลงทุน 

คุ้มต่อที่ 2 คือ สิทธิในการลดหย่อนภาษี 

คุ้มต่อที่ 3 คือ โปรโมชันพิเศษจากธนาคารกรุงไทย

ใครต้องการอ่านรายละเอียดของโปรโมชันเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2pN9QMC หรือจะเข้าไปสอบถามที่ธนาคารกรุงไทยโดยตรงก็ได้เช่นกัน โดยเฉพาะใครที่ยังนึกไม่ออกหรือวางแผนไม่ได้ว่าจะลงทุนอะไรยังไงบ้าง ก็สามารถให้พนักงานกรุงไทยแนะนำได้ที่สาขาได้เลย

ลงทุนศาสตร์

บทความนี้เป็น Advertorial