สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้ววววววววววววววว กับผม อัศวินกองทุน เจ้าเก่า เจ้าเดิม และไม่ได้หนีไปเพิ่มเติมที่ไหนครับ ยังคงเขียนบทความสรุป Weekly Outlook ประจำสัปดาห์ให้กับทุกคนเหมือนเดิมอย่างเช่นเคยครับ
ห่างหายไปกันสักพักในช่วงต้นปี กลับมาอีกทีต้องพบกับความยิ่งใหญ่ของบทความใหม่อย่างแน่นอนครับ โดยในปี 2560 นี้ ผม อัศวินกองทุน ตั้งใจปรับปรุงบทความใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม โดยเพิ่มเติมหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ พร้อมกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน (ถ้าไม่มีใครถาม ฮ่าๆ) ซึ่งสำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นการรายงานภาวะตลาดสำหรับวันที่ 6 - 10 กุมภาพันธ์ 2560 ให้ฟังกันครับ แบบนี้ลองมาดูกันเลยดีกว่าครับผม
ภาพรวมของตลาด
ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงมาครับผม ซึ่งนำโดยตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์
แต่ในทางกลับกัน ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นโลกหลังจากรัฐบาลเปิดเผยงบประมาณการใช้จ่ายทางการคลังที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้น ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีโดยเฉพาะการส่งออก ดัชนีพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวขึ้นโดยมีแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติหลัง Fed คงอัตราดอกเบี้ย
ทางด้านราคาน้ำมัน มีการปรับตัวลงหลังจากตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นกว่าการคาดการณ์มาก ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์หลังจาก Fed คงอัตราดอกเบี้ยและ GDP สหรัฐฯ ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ไว้ครับ
ภาพรวมของตลาดเป็นแบบนี้ ทีนี้เรามาดูกันครับว่า เราควรจะปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไรบ้าง?
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผมแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าตั้งแต่ต้นปีจะกดดันต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนครับผม
- ตลาดหุ้นยุโรป ต่อให้ตลาดโดยรวมเหมือนจะปรับตัวลง แต่ผมยังคงแนะนำให้ทยอยเข้าสะสมหุ้นยุโรป จากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาดไว้ครับ
- ตลาดหุ้นเอเชีย ผมแนะนำให้ทยอยสะสมในตลาดไทย และเกาหลี เพราะจากท่าทีของ Fed ที่ไม่มีการส่งสัญญาณรีบขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.พ. เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ ซึ่งผมมองว่าทั้งสองตลาดนี้เป็นตลาดหุ้นที่มีความน่าสนใจที่สุด ณ ตอนนี้ครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ คือ:ทยอยเข้าสะสมหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นเกาหลี และตลาดหุ้น A-SHARE และชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, ตลาดหุ้น H-SHARE และ อินเดีย ครับ
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้
- พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลงหลังการประชุม Fed มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50-0.75%
- พันธบัตรรัฐบาลไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุน้อยกว่า 2- 3 ปี ทยอยปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ไทยหลังทรัมป์ยังไม่ให้ความชัดเจนถึงนโยบายเศรษฐกิจ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ ผมแนะนำให้ลดการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว และไปเน้นลงทุนในตลาดเงินแทนครับ
กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
- น้ำมัน แนะนำครับว่า ควรชะลอการลงทุนในน้ำมัน แม้ประเทศในกลุ่ม OPEC จะลดการผลิตและการส่งออกตามข้อตกลง แต่ราคาที่ปรับตัวดีขึ้นจะทำให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาทำการผลิตครับ
- ทองคำ เช่นเดียวกันกับน้ำมันครับ ผมยังแนะนำให้ชะลอการลงทุนในทองคำ นักวิเคราะห์ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนในทองคำ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าในระยะยาว จากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัวดี
คำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้สั้นๆ คือ ชะลอการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกทั้งหมดครับ
เห็นไหมครับว่าทั้ง 3 สินทรัพย์ลงทุนนั้น มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซึ่งปีทีแล้วผมมักจะแนะนำให้กระจายความเสี่ยง และลงทุนให้เหมาะสมใช่ไหมครับ แต่ปีนี้ผมอยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่า นอกจากการกระจายลงทุนที่ดี เรายังต้องเข้าใจการลงทุนแต่ละประเภทว่ามีความเสี่ยงแค่ไหนด้วยครับ เพราะว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
สำหรับสัปดาห์นี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ!
หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 2 ก.พ. 2560 ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวน ชี้นำ หรือ เสนอซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ใดๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจการลงทุนทางการเงิน และทางธุรกิจแต่อย่างใดโดยสิ้นเชิง ผู้ใช้ข้อมูลนี้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง