[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 15-19 สิงหาคม 2559

สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม “อัศวินกองทุน” กันอีกแล้วในสัปดาห์ที่ 10 กับ Weekly Outlook คอลัมน์ที่จะมาช่วยสรุปภาพรวมการลงทุนเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้ทุกคนได้สร้างโอกาสในการลงทุนและกระจายผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสมครับ

เอาล่ะครับ.. เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าในช่วงวันที่ 15-19 สิงหาคม 2559 นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกและสินทรัพย์ต่างๆ มีอะไรที่น่าสนใจบ้างครับผม แต่แอบกระซิบเบาๆว่าคราวนี้ ตลาดเกาหลีค่อนข้างน่าสนใจครับ (อิอิ)

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

สรุปภาพรวมประจำสัปดาห์ : 
OPEC เริ่มส่งสัญญาณการคงอัตราการผลิต เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

เริ่มจากทางตลาดหุ้นสหรัฐฯกันเลยครับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสสอง ซึ่งผมมองว่าในสัปดาห์นี้ตลาดจะจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการลงทุนและการส่งออกต่างๆ ถ้าหากยังไม่ฟื้นตัวมีโอกาสฉุดตลาดหุ้นปรับฐานได้ครับ แถมมูลค่าต่อราคาพื้นฐานก็ค่อนข้างแพงแล้วเหมือนกัน ดังนั้นสัปดาห์นี้แนะนำให้คงการลงทุนดูท่าทีกันไปก่อนครับ

ตลาดหุ้นยุโรป

มาดูทางฝั่งยุโรปกันบ้างครับ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังธนาคารกลางอังกฤษทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงผลของการทดสอบความแข็งแกร่งของภาคธนาคารออกมาดี อย่างไรก็ตามผมมองว่าเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนมีแนวโน้มชะลอตัวครับ แบบนี้คงการลงทุนไว้เหมือนเช่นเคยก่อนจะดีกว่าครับ

ตลาดหุ้นจีน (A-SHARE / H-SHARE)

ตลาดหุ้นจีนทั้ง A-SHARE และ H-SHARE ค่อนข้างสดใสและน่าสนใจ  หลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสะท้อนความมีเสถียรภาพทั้งในแง่เศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้นมากครับ ประกอบกับรัฐบาลจีนเองมีความก้าวหน้าในการลดอุปทานส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมมองว่าโดยรวมแล้วจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจของตลาดหุ้นจีน ดังนั้นสัปดาห์นี้แนะนำให้กลับมาเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้น A-SHARE มากขึ้น ส่วน H-SHARE ก็เช่นเดียวกันครับผมยังแนะนำให้เพิ่มการลงทุนต่อไปครับผม

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

กลับมาทางด้านญี่ปุ่นของเรากันบ้างครับ ผมมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นหลังค่าเงินเยนเริ่มอ่อนตัว เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณของการฟื้นตัวของการลงทุนในประเทศ ประกอบกับระดับราคาหุ้นญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากขึ้น แบบนี้เห็นทีต้องเริ่มหันมาปรับพอร์ตเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้นแล่วล่ะครับ

ตลาดหุ้นเกาหลี

ส่วนทางเกาหลี จะเห็นว่าความน่าเชื่อถือต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศปรับเพิ่มขึ้นครับ รวมถึง GDP ไตรมาสสองของเกาหลีโตกว่าที่คาดจากการลงทุนของภาคเอกชน ตรงนี้สะท้อนให้เห็นครับว่า ผลประกอบการบริษัทน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบบนี้เห็นที่ต้องจัดกันต่อโดยการเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีอีกสักทีครับผม

ตลาดหุ้นไทย

มาดูทางด้านหุ้นไทยกันบ้างครับ ผมมองว่าตอนนี้หุ้นไทยมีสัญญาณที่ดีหลังประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญ การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัว โครงการลงทุนภาครัฐและเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศจะเป็นปัจจัยบวกผลักดันหุ้นไทยมากขึ้น แบบนี้เห็นทีก็ต้องเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกันต่อไปเหมือนเคยคร้าบ

ตลาดหุ้นอินเดีย

ตลาดหุ้นอินเดีย เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากเงินทุนไหลเข้าชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าเศรษฐกิจอินเดียยังคงแข็งแกร่งจากการบริโภคภายในประเทศ และร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น ดังนั้นผมยังคงแนะนำให้เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียกันต่อไปครับ

เงินสดและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

จากความผันผวนของตลาดหุ้นมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอยากแนะนำให้นักลงทุนควรลดการถือครองเงินสด และ หาการลงทุนที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นครับ

น้ำมัน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากสมาชิ กในกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมั นออกมากล่าวถึงการประชุมระหว่ างประเทศผู้ผลิตเพื่อคงกำลั งการผลิต ซึ่งคาดว่าจะเป็นข่าวดีสนับสนุ นให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ประกอบกับอุปทานส่วนเกินของน้ำ มันมีแนวโน้มลดลง และการปิดกิจการของบริษัทน้ำมั นที่มีต้นทุนสูงในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน  แบบนี้เห็นทีจะเป็นอีกโอกาสที่ เราจะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนครับ

ทองคำ

ผลกระทบจากการที่อังกฤษออกจากกลุ่มยุโรป และผลทดสอบความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร ทำให้ตลาดคลายความกังวล ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงลดลง เพราะฉะนั้นผมอยากแนะนำให้คงการลงทุนในทองคำไปอีกสักระยะเพื่อดูท่าทีก่อนครับ

ตราสารหนี้ไทย

ถึงแม้ว่า ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยช่วงอายุ 1-3 ปีปรับตัวเล็กน้อย แต่ผมมองว่านักลงทุนควรถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้รัฐบาล ไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงอยู่ดีครับ ดังนั้นแนะนำให้คงการลงทุนไว้เหมือนอย่างเช่นเคยครับ

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์นี้ เริ่มจะเห็นภาพอะไรที่ชัดเจนขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ซึ่งมาจากผลของการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก และการเติบโตของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ต่างๆ ทางฝั่งเอเชียที่ยังคงน่าสนใจเหมือนเช่นเคย ตั้งแต่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย และตลาดหุ้นไทยของเรา ทั้งหมดนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่สดใสในการลงทุนเพื่อทำกำไร และกระจายความเสี่ยงในการลงทุนตามความเหมาะสมของเราครับ