[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2559

สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วในสัปดาห์ที่ 8 กับผม “อัศวินกองทุน” เจ้าเก่าเจ้าเดิม ที่จะมาเพิ่มเติมการลงทุนทั่วโลกรายสัปดาห์แบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ให้ทุกคนลงทุนและกระจายความเสี่ยงได้อย่างสบายใจเหมือนเช่นเคยคร้าบ

สำหรับช่วงวันที่ 1-5 สิงหาคม 2559 นี้ ดูเหมือนว่ามีสัญญาณหนึ่งที่น่าสนใจให้เราได้พิจารณาลงทุนกัน นั่นคือการที่ธนาคารกลางสหรัฐไม่มีสัญญานขึ้นอัตราดอกเบี้ย แบบนี้เห็นทีว่าจะมีอะไรบางอย่างน่าสนใจสำหรับตลาดหุ้นในหลายๆประเทศกันเลยทีเดียว มาครับ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าสัปดาห์นี้ควรลงทุนที่ไหนอย่างไรบ้างครับผม

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

สรุปภาพรวมประจำสัปดาห์ :
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุน ในหุ้นตลาดเกิดใหม่

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเอง ได้รับแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการบริษัทไตรมาสสองที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรก และจากที่ธนาคารกลางไม่ส่งสัญญานขึ้นดอกเบี้ยแบบนี้ บอกได้คำเดียวสั้นๆว่า เพิ่มการลงทุนกันต่อไปเลยดีกว่าครับบบบ

ตลาดหุ้นยุโรป

สำหรับตลาดหุ้นยุโรปนั้น ยังทรงตัวอยู่ครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นเพราะยังไม่มีปัจจัยกังวลเข้ามา ซึ่งคงต้องรอผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยเฉพาะอังกฤษกำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะถดถอย และยังมีความเสี่ยงจากปัญหาภาคการธนาคารในอิตาลีเข้ามากดดัน ดังนั้นคำแนะนำสำหรับสัปดาห์นี้คงเป็นการลดการลงทุนเหมือนเช่นเคยครับ

ตลาดหุ้นจีน

มาดูทางฝั่งตลาดหุ้นจีนกันบ้าง โดยทางตลาด H-SHARE ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้น A-SHARE มีปัจจัยเข้ามากดดันหลังจากรัฐบาลมีการส่งสัญญาณถึงการเข้าควบคุม wealth management products (WMPs) ดังนั้นคำแนะนำของผมเห็นว่าทาง H-SHARE ยังน่าสนใจอยู่ครับ เพิ่มการลงทุนต่อไปได้ แต่สำหรับ A-SHARE นั้นให้คงการลงทุนต่อไปก่อนจะดีกว่าครับผม

ตลาดหุ้นไทย

ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้น ผมมองว่าเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง และผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ดีกว่าคาด ซึ่งถ้าหากมองในระยะถัดไป คาดว่าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการบริโภคของภาคครัวเรือน และการลงทุนจากรัฐบาล ซึ่งปัจจัยพวกนี้สนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจมากขึ้นครับ ดังนั้นสัปดาห์นี้ขอปรับมาเป็นการเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช่นกันครับ

ตลาดหุ้นอินเดีย

ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าการคาดการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคาร โดยเศรษฐกิจอินเดียมีการเร่งตัวจากการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเงินทุนต่างชาติที่ยังคงมีแนวโน้มไหลเข้า แบบนี้ทางฝั่งเราก็ควรจะเพิ่มการลงทุนแบบยาวๆกันต่อไปครับ เพราะปัจจัยสนับสนุนมาขนาดนี้ แนวโน้มในอนาคตน่าจะดีแน่นอนครับผม

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสสองที่เริ่มออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากการที่เงินเยนแข็ง  อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสภาฯ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคงต้องรอดูความชัดเจนในการดำเนินการต่อไป แบบนี้ผมคิดว่าการคงการลงทุนต่อไปน่าจะเป็นอะไรที่ใช่สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นตอนนี้ครับ

ตลาดหุ้นเกาหลี

ตลาดหุ้นเกาหลีน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่เศรษฐกิจเกาหลีมีแนวโน้มอ่อนแอลงตามทิศทางการชะลอตัวของการค้าระหว่างประเทศ แบบนี้การรอดูท่าทีด้วยการคงการลงทุนน่าจะดีกว่าครับ

เงินสดและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

ความผันผวนของตลาดหุ้นมีแนวโน้มลดลง นักลงทุนควรลดการถือครองเงินสดและหันมาลงทุนมากขึ้น ดังนั้นลดสัดส่วนกันได้เลยครับผม (ยิ้มหวาน)

น้ำมัน

ดูจากแนวโน้มแล้ว ผมคาดว่าราคาน้ำมันจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ จากความกังวลถึงอุปทานส่วนเกินในตลาด เนื่องจากกำลังการผลิตจากไนจีเรียและแคนาดาที่หายไปในช่วงก่อนหน้าสามารถกลับมาผลิตได้บางส่วน แบบนี้การคงการลงทุนน่าจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยไว้ก่อนครับ

ทองคำ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมีโอกาสส่งผลให้ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อได้ แบบนี้การถือครองต่อไปโดยการคงการลงทุนไว้น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ

ตราสารหนี้ไทย

ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยช่วงอายุ 1-3 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับทิศทางอัตราผลตอบแทนที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยในช่วงที่เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงภาวะชะลอตัว ผมยังยืนยันคำเดิมครับว่าการถือครองพันธบัตรยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีในการกระจายความเสี่ยงอยู่ครับ ดังนั้นยังคงแนะนำให้คงการลงทุนต่อไปครับ

จบกันไปอีกแล้วครับผม กับสำหรับการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในสัปดาห์ที่ 8 หวังว่าคราวนี้คงเริ่มตัดสินใจลงทุนกันได้ถูกต้องและถูกใจกันใช่ไหมครับ

สำหรับภาพรวมของสัปดาห์นี้ ผมเปลี่ยนทิศทางมายังตลาดหุ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา (Emerging Market) อย่างประเทศจีน (H-SHARE) และตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย รวมถึงประเทศไทย และผมยังคงให้น้ำหนักในตลาดหุ้นสหรัฐเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อย่าลืมพิจารณาข้อมูลให้ดี กระจายความเสี่ยงให้ถูกต้อง เหมือนที่คำพูดประจำที่เรารู้จักกันดีอย่าง “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”

ท้ายสุดก่อนจากกันไปในคอลัมน์ WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุนประจำสัปดาห์นี้ จะทำให้ทุกคนตัดสินใจลงทุนดีขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพบกับผม “อัศวินกองทุน” อีกครั้งสัปดาห์หน้า