[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน] สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 5-9 ธันวาคม 2559

สวัสดีครับ กลับมาพบกับ Weekly Outlook ครั้งที่ 25 เหมือนเช่นเคย ยังอยู่กับผมครับ “อัศวินกองทุน” เจ้าเก่าเจ้าเดิม พร้อมกับความรู้เสริมให้กับทุกคนเรื่องการลงทุนอีกครั้งหนึ่งครับ เอาล่ะครับ ไม่ยืดยาวให้เสียเวลา เรามาดูแนวโน้มการลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 5 - 9 ธันวาคม 2559 กันเลยครับผม

ในช่วงนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จากความกังวลของนักลงทุนต่อผลการลงประชามติของประเทศอิตาลี รวมไปถึงการเลือกตั้งในอีกหลายๆประเทศในเขตยูโรโซน อย่างไรก็ดี เรื่องดังกล่าว จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ทำให้การลงทุนในทองคำมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นครับ ดังนั้น ช่วงนี้ทองถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ   

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

สรุปภาพรวมประจำสัปดาห์
“ผลการทำประชามติ ในอิตาลี จะเป็นตัวชี้วัดความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลก”

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (+)

ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกอบกับผลกำไรของบริษัทในไตรมาสล่าสุดดีเกินความคาดหมายของตลาดอีกด้วยครับ ดังนั้น การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสัปดาห์ก่อนๆ ยังคงน่าสนใจอยู่ ผมขอแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนต่อไปครับ  

ตลาดหุ้นยุโรป (=)

ผมมองว่าตลาดหุ้นยุโรปจะยังถูกกดดันจากความกังวลต่อการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของอิตาลีซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและตลาดหุ้นอาจจะเกิดความผันผวนขึ้นได้ครับ ซึ่งผลของความไม่แน่นอนยังคงอยู่เหมือนเคย แบบนี้ผมยังขอให้ดูท่าทีโดยคงสัดส่วนการลงทุนต่อไปในสัปดาห์นี้ครับ

ตลาดหุ้นจีน (A-SHARE + / H-SHARE +)

การเชื่อมโยงตลาด Shenzhen-HK connected กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ธค.นี้ครับ และจากข้อตกลงของการเชื่อมโยงตลาดนี้จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติสามารถมีการลงทุนในตลาดหุ้นของจีนได้มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนยังได้รับปัจจัยบวก จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ดังนั้นในสัปดาห์นี้ผมมองว่าควรจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนทั้ง A-SHARE และ H-SHARE ได้เลยครับ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (+)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจมีความผันผวนมากขึ้นจากความเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรป ซึ่งความผันผวนในตลาดหุ้นโลกมักจะส่งผลให้เงินเยนแข็งค่า และเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นได้ครับ แบบนี้คงการลงทุนและดูท่าทีกันไปก่อนน่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่าครับ  

ตลาดหุ้นเกาหลี (+)

ทางฝั่งตลาดหุ้นเกาหลีมีแรงกลับเข้าซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ต้องชะลอลงเนื่องจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศครับ ดังนั้นทางฝั่งเกาหลี ยังคงแนะให้คงสัดส่วนการลงทุนกันไปก่อนครับ

ตลาดหุ้นไทย (+)

ตลาดหุ้นไทยตอนนี้คาดหวังถึงการใช้จ่ายภาคเอกชนที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นภายหลังกลุ่มโอเปค สามารถบรรลุข้อตกลงในการควบคุมกำลังการผลิต ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานอยู่ครับ ดังนั้น แนะนำเหมือนเดิมคือเพิ่มสัดส่วนการลงทุนครับ

ตลาดหุ้นอินเดีย (+)

มาดูทางฝั่งอินเดียกันบ้างครับ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ที่ประกาศออกมาล่าสุด แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น จาก 7.1% เป็น 7.3% ในไตรมาสก่อนหน้า  ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนมากยังคงมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจของอินเดีย ซึ่งอนาคตที่สดใสยังรออยู่ครับ แบบนี้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนกันต่อไปได้เลยครับ

เงินสดและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น  (-)

ตอนนี้จังหวะยังเหมือนเดิมครับ “ความผันผวนของตลาดหุ้นมีแนวโน้มลดลง นักลงทุนควรลดการถือครองเงินสด และ หาการลงทุนที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น“ จัดไปยาวๆครับ

น้ำมัน (+)

ทางฝั่งกลุ่มโอเปค สามารถบรรลุข้อตกลงในการลดการผลิตน้ำมันลง 1.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้การผลิตต่อวันลดลงเหลือ 32.5 ล้านบาร์เรล ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มสูงที่ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปค นำโดยรัสเซียและอิหร่าน จะร่วมลดปริมาณการผลิตเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเป็นผลให้ราคาน้่ำมันเพิ่มขึ้น แบบนี้จัดกันต่อไปครับ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนกันยาวๆครับผม

ทองคำ (+)

ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวน จากความกังวลของนักลงทุนต่อผลการลงประชามติของอิตาลี และการเลือกตั้งในอีกหลายๆประเทศในเขตยูโรโซน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำมากมายครับ ซึ่งก็เป็นโอกาสดีทีเราจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำกันต่อครับ  

ตราสารหนี้ไทย (+)

ดัชนีพันธบัตรรัฐบาลไทยช่วงอายุ 1-3 ปีปรับตัวลงจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่เหมือนเดิมครับ ผมมองว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยังมีความน่าสนใจในแง่การกระจายความเสี่ยงครับผม  

สรุปสำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์นี้ โดยรวมๆแล้วการลงทุนยังคงอยู่ในช่วงที่ยังน่าสนใจอยู่ครับ ตลาดเดิมที่ผมยังคงแนะนำในสัปดาห์ก่อนยังน่าสนใจอยู่เหมือนเคย เช่น ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นอินเดีย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่สัปดาห์นี้เพิ่มจีนเข้ามาอีกตลาดหนึ่งแล้วล่ะครับ

ส่วนสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำกับน้ำมันก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ซึ่งผมยังอยากแนะนำให้ทุกท่านกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปในสินทรัพย์กลุ่มนี้ด้วยเช่นกันครับ

อย่างที่ผมเน้นเสมอครับ ความปลอดภัยในการลงทุนของเรานั้น มันอยู่ที่การกระจายความเสี่ยงครับผม เลือกสินทรัพย์