ในยุคที่ของมันต้องมี และเต็มไปด้วยเทศกาลลดราคาที่มากมายเต็มไปหมด มักจะทำให้หลายคนสนุกกับการจับจ่ายใช้สอยจนลืมไปว่า เรายังมีเป้าหมายการเงินที่ต้องทำอยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคต ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ไปจนถึงวางแผนสร้างครอบครัว และดูแลตัวเองด้วยการเกษียณ

แน่นอนว่าถ้าพูดแบบนี้ ใครหลายคนต้องทำหน้าเซ็งขึ้นมา แต่เดี๋ยวก่อนครับ ผมอยากให้ลองคิดว่า สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่ทุ่มเททำตามเป้าหมายเต็มที่จนหลงลืมความสุขไป แต่ลองใช้วิธีปรับสมดุล แบ่งเงินส่วนหนึ่งที่เราใช้จ่ายไปนั้น มาลงทุนไว้สำหรับชีวิตในอนาคตบ้าง น่าจะดีไม่น้อย เพราะถึงวันที่เราต้องการก็จะได้มีใช้ไม่ลำบาก

หนทางที่ง่ายและชัดเจนที่สุดในวัยที่มีรายได้   คือ กองทุนลดหย่อนภาษี

ทุกครั้งที่ได้บรรยายเรื่องการวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผมมักจะพูดประโยคแบบนี้เสมอ เพราะในวัยทำงานสร้างรายได้ สิ่งที่เราสร้างได้ด้วยตัวเอง คือ วินัยในการจัดการการเงิน โดยเฉพาะกองทุนลดหย่อนภาษีประเภทต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาให้เราวางแผนลดหย่อนภาษีพร้อมกับลงทุนตามเป้าหมายไปด้วย 

ยกตัวอย่างเช่น กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่เพิ่งออกมาใหม่ในปี 2563 ถึงแม้ว่าจะมีเงื่อนไขในการถือครองที่ยาวนานคือ 10 ปีเต็ม แต่ส่วนตัวแล้วผมว่ากองทุนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งทำงานมาได้สักพัก และต้องการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้า แยกออกจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่สอดคล้องเป้าหมายในการเกษียณมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น นาย B เป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่มีเป้าหมายที่จะเก็บเงินเพื่อดาวน์และผ่อนบ้านในอีก 10 ปีข้างหน้า นาย B อาจจะเลือกกองทุน SSF มาช่วยวางแผนในการทำตามเป้าหมาย โดยทยอยสะสมไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่มีรายได้ เพื่อแบ่งเบาภาระในตอนนั้นที่ต้องมีการจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง

หรือบางคนอาจจะเลือกกองทุน SSF เพื่อเก็บเงินก้อนไว้ใช้ในแต่ละปี (ทยอยสะสมทุกปี) เพื่อให้ช่วยค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้าที่วางไว้ก็ทำได้เช่นเดียวกัน

จะเห็นว่าสิ่งสำคัญของเรื่องนี้คือการสร้างวินัยในการจัดการการเงินของเรานั่นเอง ว่าสามารถทำได้ไหม ซึ่งถ้าใครทำได้แล้ว ผมอยากฝากอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือการเลือกสินทรัพย์เพื่อลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้

ถ้าจะลงทุน ต้องเลือกลงทุนในกองทุนแบบไหนดี

การลงทุนที่ดี นอกจากมีวินัยแล้ว สิ่งที่ได้คือผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน โดยสอดคล้องกับความเสี่ยงของเรา สำหรับคนที่กำลังมองหาว่ากองทุนแบบไหนดี ทาง บลจ. บัวหลวงมีกองทุนดี ๆ มานำเสนอให้พิจารณากันครับ

จะเห็นว่ากองทุนแต่ละตัวนั้นถูกออกแบบมาสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์คนละแบบ โดยมีทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงมีการจัดพอร์ตการลงทุนที่แตกต่างกันไป ดังนั้นถ้าใครมีคำถามว่า แล้วลงทุนว่ากองทุนไหนเหมาะกับเรานั้น ผมอยากแนะนำสั้นๆ ตามนี้ครับ

1. เราเข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุนไหม?

สำหรับผู้เริ่มต้น ผมอยากแนะนำเพิ่มเติมให้ศึกษากองทุนแต่ละตัวว่ามีนโยบายการลงทุนแบบไหน ยังไงดีรวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปก่อน

2. เราวางแผนการลงทุนอย่างไร?

สินทรัพย์แต่ละประเภทแตกต่างกัน โดยเฉพาะความเสี่ยง ดังนั้นการกระจายหรือมีแผนการลงทุนของเราต้องเหมาะสม (จัดพอร์ต) โดยควรกำหนดสัดส่วนการลงทุนตามความเสี่ยงที่เรายอมรับได้

3. เรามีเงินแค่ไหน?

การลงทุนที่ดีต้องอาศัยระยะเวลา และวินัยที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวัยที่สร้างรายได้ ดังนั้นอย่าลืมมองหากระแสเงินสดที่จะช่วยให้เราลงทุนได้อย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเลือกกองทุนที่ดีเพื่ออนาคต ต้องเริ่มการมองเห็นเป้าหมาย แล้วเริ่มต้นลงทุนให้เป็น และถ้าได้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีด้วยก็ยิ่งดี เพราะเหมือนช่วยประหยัดให้เราได้อีกต่อหนึ่งไปพร้อมๆ กัน 

ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ดูรายละเอียดได้ที่เว็ปไซต์ www.bblam.co.th แถมทางกองทุนบัวหลวงยังฝากบอกมาด้วยครับว่า ช่วงนี้ใครที่ลงทุนกองทุนโดยซื้อผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ มีโอกาสรับโปรโมชั่นถึง 3 ต่อดังนี้

• ต่อที่ 1 เมื่อซื้อ SSF หรือ RMF ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ และแลกใช้คะแนนสะสม Thank You Reward ทุก 1,000 คะแนน รับเครดิตเงินคืน 100 บาท

• ต่อที่ 2 สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่กองทุน SSF หรือ RMF  และแลกใช้คะแนนสะสม Thank You Reward เพื่อซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนบัวหลวงที่เปิดบัญชีใหม่ มีสิทธิ์รับ Starbuck e-Coupon มูลค่า 100 บาท (จำกัดมูลค่าสูงสุด 100 บาท/ท่าน และจำกัด 1,000 สิทธิ์ต่อเดือน)

• ต่อที่ 3 สำหรับลูกค้าที่ลงทุน SSF หรือ RMF ครบ 5 ครั้งขึ้นไป และมียอดเงินลงทุนรวมกัน 150,000 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 63 - 30 ธ.ค. 63 รับ Starbuck e-Coupon มูลค่า 300 บาท/ท่าน

บทความนี้เป็น Advertorial