บทความออมหุ้น นี้ เป็นบทความตอนที่ 6 นะครับ

ผมเชื่อว่าเป็นคำถามในใจของหลายๆคนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เลยล่ะ

โดยเฉพาะมือใหม่หลายๆคนที่เข้ามาในช่วงตลาดมัน เขียว งดงาม กำไรตลอด

และส่วนใหญ่จะเข้ามาในช่วงเขียวล่ะครับ ไม่เข้ามากันตอนช่วงแดงๆที่ตลาดวายแน่นอน

อย่างตัวผมเข้ามาแรกๆก็เพราะมีคนพูดถึงหุ้น เข้ามาเล่นกันสิ ขึ้นตลอด กำไรเป็น 100%

จนมันมีคำกล่าวว่าเมื่อใดที่หุ้นมันขึ้นถึงจุดที่ใครๆก็ชวนคนอื่นเข้ามาเล่น นั่นแหระจะลง

ทำไมคนที่อยู่ในตลาดเขาถึงพูดอย่างงั้น???

ลองคิดดูสิ ถ้าเราสามารถร้านขายของร้านหนึ่งในราคา 10 บาทแล้วผลกำไรมากถึง 2 บาท

แล้วอยู่ดีๆ มีคนเข้ามาซื้อเต็มไปหมดจนหุ้นราคา 100 บาท แต่ผลกำไรยัง 2 บาทเท่าเดิม

กำไรมันโตไม่ทันการขึ้นของราคาหุ้น แล้วเจ้าของบริษัทจะไปหาที่ไหนมาแจก

มันไม่มีทางทำให้ทุกคนรวยขึ้นพร้อมๆกันที่ 100 บาทได้หรอก มันเลยมีคนรู้แล้วขาย ตู้ม

หุ้นลง ฆ่าเม่าตายเต็มไปหมด แล้วหลายๆคนก็อาจเจอดอยยาวแบบไม่มีวันกลับก็ได้

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตลอด ถ้าใครไปอ่านประวัติศาสต์สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15

ตอนที่มีการปั่นหุ้นบริษัทที่ไปลงทุนแบบปาหี่ที่หลุยส์เซียน่าดูนะครับ สนุกมาก

อ่านเพิ่มสนุกใน website ส่วนตัวผมดูนะครับ "วิกฤติเงินกระดาษ"

มันมีเหตุการณ์แบบนี้มาตั้งแต่ในอดีตแล้วล่ะ มีจนถึงปัจจุบันเลย เร็วกว่าเดิมด้วย

เรื่องนี้สำหรับมือใหม่ควรจะระวังมากๆนะครับ (เป็นห่วงจริงๆนะ จุ๊ฟๆ)

สำหรับคำถามที่ว่า... 

ออกจากงานมาเล่นหุ้นอย่างเดียวดีไหมนะ?

ในมุมมองทัศนของผมนะ มันก็อยู่ที่เรานั่นแหระว่าเรามีความพร้อมมากขนาดไหน

หลายคนเป็น Full Time Trader ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ว่ามีพรสวรรค์

แต่เพื่อนผมแต่ละคนเขากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่ เทรดหุ้นปุ๊ปกำไรปั๊ป 

"ลาออกมาเทรดหุ้นกันเถอะ" แล้วก็ไปยื่นใบลาออกทันที

นักลงทุนเทพๆทั้งหลายเขา ฝึกฝน Skill จาก Novice มาเป็น Master กันนานนะ

ผมเข้าใจนะว่าหลายๆคนเบื่องานประจำ เบื่อมากๆๆๆ (สมัยก่อนผมก็เคยเบื่อ)

การเอาเงินมาเล่นหุ้น 1 แสนบาท แล้วได้กำไร 5% ก็คือ 5,000 บาทในวันเดียว

เราก็จะมโนกันแล้วว่า ถ้าได้ทุกวัน วันละ 5,000 ก็ได้เป็น แสนบาทต่อเดือนเลยเนอะ

แล้วเราก็จะมีชีวิตชิวๆ มีอิสรภาพทางการเงิน ไปเที่ยว ญี่ปุ่น อเมริกา เก๋ๆๆ

อู้ย เมื่อก่อนนะ ผมเทรดหุ้นใหม่ๆนะ ได้ตลอด (เพราะขาขึ้น) แปปๆก็ขาย 

พอได้มา 2,000 - 3,000 ดีใจมาก เลี้ยงบุฟเฟต์แฟนตลอด 

พาไปกินข้าวที่ดีๆ ชีวิตมหาเศรษฐีมาก ตอนนั้นคิดอยากจะออกมาเทรดเอง

แต่อย่างที่บอกแหระ หุ้นมันมีขึ้นมีลงตลอด แล้วมันก็ทำให้เจ๊งได้

แล้วพอเจ๊งนะ ผมเองเป็นคนที่จะเจ๊งทุกๆเรื่อง #ความรักก็เช่นกัน เจ๊งหมด

ผมมารู้ที่หลังว่าเวลาผมได้หุ้นได้ครั้งละ 2,000 แต่มันเอาคืนทีเดียว เป็นแสน

เสียใจไหมกับทุกสิ่ง เสียใจมาก เหตุการณ์ร้ายๆเกิดได้กับทุกคนละครับ

แต่ตอนนั้นสิ่งที่ผมยังมีอยู่ในมือก็คือ ครอบครัว และ หน้าที่การงาน

ผมเกือบสละกับทุกสิ่งไปแล้ว ติดแฟนหนักมาก ทั้งๆที่บ้านนั่งรอกินข้าวเย็นด้วย

ผมเคยคิดว่าคนเรามันจะรักกันจนวันตายได้ แต่ความจริงมันอาจจะไม่ใช่กับทุกคน

ผมกะจะลาออกจากงานไปนั่งทำกำไรชิลๆในตลาดหุ้นเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ

ผมเคยคิดว่างานประจำมันเหนื่อยลำบาก เงินเดือนน้อย ผู้บริหารเรื่องมาก น่าเบื่อจริงๆ

พอเราเจอเหตุการณ์ไม่ดีมันจะกลับมานึกถึงชีวิตของตัวเองใช่ไหม?

เมื่อผมกลับบ้าน ครอบครัวก็ยังยิ้มให้ แต่คนๆนั้นไม่เคยกลับมาอีกเลย

เมื่อผมไปทำงาน พี่ๆก็ยังชวนไปเฮฮาปาร์ตี้ และยิ้้มให้กันเสมอถึงปัจจุบัน

นั่นล่ะ ผมเลยรู้ว่าชีวิตที่เราไม่ค่อยชอบ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทุกอย่างมีจุดดี

และชีวิตของเรามันมีขึ้นมีลง #ตลาดหุ้นก็เช่นกัน มันขึ้นได้ ก็ลงได้

ผมสังเกตนักลงทุนหลายๆคนพูดว่า "เราควรจะวางไข่ไว้หลายๆตระกร้า"

ท่องได้ทุกคนเลยล่ะ มันเป็นหลักการของการลดความเสี่ยงในการลงทุน

แต่ทำไมผมกลับอยากทำตัวสบายๆ ชิวๆ แล้วหาทางหนีจากการทำงานออกมา

ทั้งๆที่การทำงานนั้นก็สามารถสร้างรายได้ได้เช่นกันและความเสี่ยงน้อยกว่าด้วย

และมันก็คือ "การหารายได้หลายๆทางและวางไข่ไว้ในหลายๆตระกล้าเช่นกัน"

ตอนนั้นผมก็เลยมานั่งคิดใหม่ว่าจะทำอย่างไร แผนแรกของผมก็คือ

ทำทั้งงาน ทำทั้งลงทุนมันเลยนี่แหระ!!

สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้นก็คือ เออ....

ถ้าเราตั้งใจทำงาน = เงินเดือนก็คงเยอะขึ้นตามผลงาน

เมื่อเงินเดือนเยอะขึ้น = เราก็ออมหุ้นได้เยอะขึ้น

ถ้าออมมีหุ้นเยอะขึ้น = ผมก็รวยได้เช่นกัน

นี่ไง มันคือสิ่งที่ง่ายๆ แค่เพียงผมมาเปลี่ยนวิธีคิดของผมในการใช้ชีวิต

ถ้าคุณอยากรวยและชิลจากการลงทุนนะ ออมหุ้น แบบ DCA มันก็ตอบโจทย์

เพียงแค่มันช้าหน่อย แต่คุณชิวได้ ไม่ต้องมองหน้าจอ แค่ทำตามวินัยให้ได้

และสุดท้ายมันก็กลายมาเป็นแนวทางปฏิบัติของชีวิตผมในเวลาต่อมาเลยนะ

"ทำงานหาเงิน เอาเงินมาออมหุ้น"

ต้าร์ กวิน สุวรรณตระกูล

เจ้าของผลงานหนังสือ ออมหุ้น ออมความสุข จากเวปไซต์ www.aomstock.com

 และ หนังสือรวยได้จริงกับสิ่งที่เรียกว่าเงินเดือน

นักเขียนประจำเวปไซต์ www.aommoney.com/tarkawin