“เพราะวัยทำงาน คือ ช่วงเวลาแห่งการสร้างเนื้อสร้างตัว”

หลังจากที่เปลี่ยนผ่านชีวิตวัยรุ่นเข้าสู่วัยเริ่มต้นทำงานกันอย่างเต็มตัว ทุกคนก็เริ่มมีรายได้ประจำเป็นของตนเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดของวัยนี้ นอกจากการพัฒนาตัวเองเรื่องความรู้ความสามารถ “ความรู้เรื่องการบริหารจัดการการเงิน” ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทุกคนควรจะศึกษาไว้และห้ามมองข้ามเด็ดขาด

หลายคนเมื่อทำงานได้สักพัก เก็บออมจนมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน (*ควรมีอย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน) ก็เริ่มวางแผน "เก็บเงิน" เพื่อเป้าหมายชีวิตอื่นๆ  ไม่ว่าจะเป็นดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ดาวน์คอนโด เก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ อยากเก็บเงินเพื่อไว้ใช้ยามเกษียณ หรืออยากเก็บเงินไว้เพื่อครอบครัวและคนข้างหลัง

วันนี้ทีมกองบรรณาธิการ aomMONEY เลยอาสาจะมาแนะนำ “5 How to เก็บเงินขั้นเทพที่สุด” สำหรับวัยทำงานทุกคน ซึ่ง aomMONEY ก็ขอแนะนำเพื่อนๆ ให้แบ่งเงินออมที่ 10-20% ของรายในแต่ละเดือนนะครับ

1. “เก็บเงิน” กับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง

“เงินฝากออมทรัพย์” คือ เงินฝากประเภทที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการฝาก ข้อดี คือ สภาพคล่องสูงมาก จะฝากจะถอนเมื่อใดก็ได้ ในวันและเวลาทำการ

“เหมาะกับคนเพิ่งเริ่มต้นออมเงิน ไม่มีความรู้การลงทุนและต้องการใช้เป็นที่เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน” 

ถึงแม้ในปี 62 นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงท้ายปี ติดต่อกันถึง 2 รอบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย จนดอกเบี้ยนโยบายเหลืออยู่ที่ 1.25% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 ปีของไทย แน่นอนครับว่ามติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้งติดแบบนี้ ย่อมส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากทั้งหลายที่ต้องปรับลดลงตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบัญเงินฝากออมทรัพย์อีกหลายธนาคารที่ยังให้ดอกเบี้ยสูงอยู่นะครับ ตัวอย่างเช่น

 

   
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงธนาคารอัตราดอกเบี้ย 
บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษสวัสดิการแห่งรัฐธนาคารออมสิน (GSB)3.000 %
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB THAI)2.000 %
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ TISCO My Savingsทิสโก้ (TISCO)2.000%

ขอบคุณข้อมูลจาก checkraka.com

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดู 10 อันบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงได้ที่ http://bit.ly/33E5whB

2. “เก็บเงิน” กับกองทุนรวมตลาดเงิน

“กองทุนรวมตลาดเงิน” คือ กองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้อายุสั้น ไม่เกิน 1 ปี นโยบายการลงทุนคล้ายกับกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น สภาพคล่องสูง ได้รับเงินสดทันทีหลังจากขายกองทุน 1 วัน ผลตอบแทนอาจจะต่ำกว่ากองทุนประเภทอื่น แต่ก็มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในบรรดากองทุนรวมทุกประเภท

“เหมาะกับคนที่ต้องการพักเงินในระยะสั้น ความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีกว่าหรือใกล้เคียงเงินฝากประจำธนาคาร” 

ข้อดี คือ ถ้าพักเงินกับกองทุนรวมตลาดเงิน เรามีโอกาสได้ผลตอบแทนดีกว่าหรือใกล้เคียงเงินฝากประจำธนาคาร ซึ่งผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยในช่วงเวลานั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะได้ผลตอบแทนที่ไม่ตามคาดหวังต่างจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยเป็นตัวเลขแน่นอน

อันดับกองทุนรวมตลาดเงิน จัดอันดับตามผลตอบแทนย้อนหลัง

(จัดอันดับ ณ วันที่ 10/11/2562 *)

ขอบคุณข้อมูลจาก wealthmagik.com

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดู 10 อันดับกองทุนรวมตลาดเงิน (จัดอันดับตามผลตอบแทนย้อนหลัง)

ได้ที่ https://www.wealthmagik.com/fundinfo/topreturn.aspx

3. เก็บเงินกับประกันชีวิต

เราสามารถเก็บเงินกับประกันชีวิตได้หลายรูปแบบ แต่แบบหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือ ประกันชีวิตที่ควบการลงทุนด้วย อย่าง  “ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์” ที่นอกจากจะช่วยคุ้มครองชีวิตเราแล้ว เรายังได้ลงทุนในกองทุนรวม เพื่อสร้างผลโอกาสรับเพิ่มผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ขอย้ำนะครับประกันยูนิตลิงค์ว่าไม่ใช่กองทุนแถมประกัน ไม่ใช่ประกันแถมกองทุน

“เหมาะกับคนที่อยากมีเงินก้อนให้กับครอบครัว มีภาระทางการเงิน และอยากลงทุนเพื่อรับโอกาสได้ผลตอบแทนเพิ่ม แต่ไม่มีเวลาโฟกัสหรือเลือกกองทุนเองไม่เป็น”

ประโยชน์ของประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ ถ้ามองในมุมของประกันชีวิต ก็ถือเป็นว่าเป็นหลักประกันป้องกันความเสี่ยงให้กับชีวิตและครอบครัวของเรา เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับตัวเรา ครอบครัวเราก็จะได้ไม่ลำบาก เพราะมีเงินก้อนทิ้งไว้ให้ ซึ่งประกันชีวิตบางเจ้าก็ให้ความคุ้มครองสูงมากถึง 200-250 เท่าของเบี้ยประกัน และถ้าช่วงไหนเรามีปัญหาเรื่องการเงิน ก็สามารถพักการชำระเบี้ยได้

ถ้ามองในแง่ของการลงทุนก็คือ เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในกองทุนรวม โดยเราที่เป็นคนเลือกกองทุนเอง มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นจากการลงทุน โดยความน่าสนใจ คือ 1.ไม่มีค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนกองทุน (บางส่วนหรือทั้งหมด) 2.มีการปรับสัดส่วนกองทุนให้อัตโนมัติ 3.ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของกองทุนด้วยการลงทุนแบบ ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของกองทุนด้วยการด้วยการจ่ายเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อเป็นการเฉลี่ยต้นทุนระยะยาว (DCA)

ตัวอย่างประกันแบบยูนิตลิงค์

และถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ >> http://bit.ly/2q3NRRM

4. เก็บเงินกับกองทุน LTF , RMF

“กองทุน LTF” ย่อมาจาก Long Term Equity Fund หรือชื่อไทยว่า “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว” เน้นลงทุนในหุ้นไม่น้อย 65% ของมูลค่ากองทุน ใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 7 ปีปฏิทิน และไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี

ส่วน “กองทุน RMF” ย่อมาจาก Retirement Mutual Fund มีชื่อไทยว่า “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนเก็บออมระยะยาว เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ คล้ายๆ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอกชน และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จะขายคืนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยจำเป็นต้องซื้อหน่วยลงทุนทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปีครับ

“เหมาะกับคนที่อยากลงทุนในระยะยาว มีเงินเก็บเป็นเงินก้อน คาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก กองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนรวมตราสารหนี้ และอยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนที่มากกว่า ไม่มีการรับประกันเงินต้น” 

ขอบคุณข้อมูลจาก morningstarthailand.com

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูการจัดอันดับผลตอบแทน LTF ได้ที่ http://bit.ly/2O0Xc4N

5. เก็บเงินกับการ DCA หุ้น

“การ DCA หุ้น” คือวิธีการลงทุนใน “หุ้น” รูปแบบหนึ่ง โดยการทยอยการลงทุนเป็นงวด ๆ งวดละเท่า ๆ กัน จะลงทุนเป็นรายเดือน รายไตรมาสก็ได้ โดยไม่สนว่าราคาหุ้น ณ ตอนนั้นจะถูกหรือแพง การลงทุนแบบนี้ จะช่วยตัดเอาเรื่องอารมณ์ความรู้สึกออกไปจากการลงทุน เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน แต่ข้อควรระวังก็ คือ ต้องมีความรู้ในการคัดเลือกหุ้น เพราะเราต้องตัดสินใจเลือกเอง ต่างจากกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนคอยจัดการให้

“เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว คาดหวังผลตอบแทนที่สูง และมีวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ”  

ข้อดีของการ DCA หุ้น คือ เนื่องจากหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าภาวะตลาดในช่วงนั้นมีความผันผวนสูงมาก ๆ หรือเป็นตลาดขาลง การ DCA จะช่วยให้เราจะมีโอกาสขาดทุนจากหุ้น น้อยกว่าการซื้อด้วยเงินก้อนครั้งเดียว แต่ข้อควรระวังก็คือ วิธี DCA หุ้น ไม่ได้เหมาะกับหุ้นทุกตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ไม่มีการเติบโต เพราะฉะนั้นต้องศึกษากันดีๆ เลยครับ และถ้าใครอยากศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการออมหุ้นเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ https://aommoney.wpenginepowered.com/stories/tarkawin

และนี่คือ “5 How to เก็บเงินขั้นเทพที่สุด” สำหรับวัยทำงานทุกคน ที่ aomMONEY นำมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนครับ หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ก็ลองไปพิจารณากันดูครับว่าตัวเองเหมาะกับวิธีเก็บเงิบเงินแบบไหน เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน

สำหรับครั้งหน้าทีมกองบรรณาธิการจะนำเรื่องอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆ อ่านกันก็ต้องติดตามกันในบทความต่อไปครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

ทีมกองบรรณาธิการ aomMONEY

บทความนี้เป็น Advertorial