ในช่วงนี้ข่าวเด็ดและร้อนแรงอย่างหนึ่งที่ทุกคนพูดถึงกันคือเรื่องประชาชนแห่ถอนเงินจากธนาคารออมสิน โดยปกติแล้วธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับหัวใจเศรษฐกิจของประเทศ ผมเชื่อว่าทุกคนนำเงินฝากของตัวเองไปไว้ที่ธนาคาร เนื่องจากมีความปลอดภัยในแง่ของการเก็บรักษาเงินมากกว่าพกติดตัวไว้ที่บ้าน แถมยังได้ดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจพื้นฐานของการทำธุรกิจของธนาคารเป็นอันดับแรก ธนาคารมีเงินฝากและเงินกู้เป็นเครื่องมือที่สำคัญ โดยเมื่อเรานำเงินไปฝากธนาคารแล้ว ธนาคารจะเป็นหนี้เราและมีหน้าที่ที่จะให้ดอกเบี้ยเงินฝากและเตรียมเงินสำรองไว้หากเราต้องการจะถอนเงิน ในอีกทางหนึ่งธนาคารจะนำเงินฝากของเราและคนอื่นๆไปรวมกันปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการเงินและได้รับดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ ผลกำไรที่ได้จะนำไปเป็นทุนในการปล่อยกู้และจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน

เพราะฉะนั้นแล้วการดำเนินงานของธนาคาร เงินฝากจะมีเพียงพอระดับหนึ่งไว้สำหรับผู้ฝากเงินได้ถอนนำไปใช้ อีกส่วนหนึ่งจะนำไปปล่อยกู้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ธนาคารจะสามารถคืนเงินฝากให้กับผู้ฝากเงินได้พร้อมๆกัน ซึ่งหากมีเหตุปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำให้คนแห่ถอนเงินขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่เชื่อมั่นในสถานะทางการเงินธนาคาร หรือ เหตุปัจจัยทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อความเชื่อของผู้ฝากเงินต่อการดำเนินนานของธนาคาร ทำให้ประชาชนเดินทางไปถอนเงินออกมาพร้อมๆกัน

หากคนที่ฝากเงินในธนาคารแห่งหนึ่งมีการถอนเงินออกพร้อมๆกันจะเกิดอะไรขึ้น?

สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ธนาคารจะต้องนำเงินมาให้กับผู้ที่ต้องการถอนเงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้เพียงต่อการถอน อันเป็นผลทำให้ธนาคารมีเงินสดในมือน้อยลง หากมีข่าวแพร่สะพัดอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นจะทำให้ประชาชนยิ่งเดินทางมาถอนเงินเพราะหากมาช้าอาจจะไม่ได้รับเงินจากธนาคารได้ ความเสียหายอาจจะเกิดขึ้นต่อเป็นโดมิโนเพราะโดยปกติธนาคารก็จะนำเงินไปฝากระหว่างธนาคารเช่นกัน เช่น ธนาคาร A ถูกประชาชนถอนเงินจนขาดสภาพคล่อง ก็จึงถอนเงินที่ธนาคาร A ฝากไว้ใน ธนาคาร B และ C กลับมา ซึ่งเมื่อธนาคาร B และ C ได้รับผลกระทบดังกล่าวก็จะทำให้ขาดสภาพคล่องตามมาและหากเกิดผลกระทบมากขึ้นก็จะกระทบต่อสถาบันการเงินอื่นๆทั้งระบบ เกิดเป็นวิกฤตทางการเงินได้