บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ออกรายงานกลยุทธ์การลงทุนฉบับแรก โดยนายแดเนียล มาร์ค ไฟน์แมน นักวางแผนกลยุทธ์การลงทุนหุ้น ที่วิเคราะห์ว่า ปี 2023 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในโลก แต่ผลตอบแทนจะดีขึ้นในครึ่งหลังของปี

ตลอดจนการเติบโตของกำไรจะเร่งตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า บล.เกียรตินาคินภัทร ประเมินดัชนี SET ณ สิ้นปี 2024 ที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10% จาก 4 ปัจจัยสนับสนุนสำคัญ

💰1. ราคาหุ้นไม่แพง

โดยหากไม่รวมช่วงโควิด และวิกฤติการเงินโลก P/E ของหุ้นไทยที่มีการปรับเชิงวัฎจักร (cyclically-adjusted P/E) อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่ equity risk premium อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังซื้อขายที่มูลค่าต่ำสุดในรอบหลายปี

💰2. โอกาสการเติบโตของกำไร

Real GDP ของไทยในปีที่ผ่านมายังอยู่ในระดับต่ำกว่าแนวโน้มก่อนโควิดอยู่ 10% และกำไรต่อหุ้นหรือ EPS ของ MSCI Thailand ยังตามหลัง GDP อยู่ถึง 26% ดังนั้น ในระยะข้างหน้า EPS น่าจะเริ่มเร่งตัวไล่ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตของ EPS เฉลี่ยต่อปี จะอยู่ที่ 12-15% ในระหว่างปี 2023-2026

💰3. แรงหนุนจากปัจจัยเชิงวัฏจักร

ถึงแม้เศรษฐกิจไทยมีความท้าทายเชิงโครงสร้าง แต่ในระยะสั้นยังได้รับแรงส่งจากปัจจัยเชิงวัฎจักรที่จะกลับเป็นขาขึ้น

โดยประเมินว่า 70% ของส่วนต่างระหว่างอัตรากำไรในปัจจุบันกับแนวโน้มก่อนโควิดมาจากปัจจัยเชิงวัฎจักรที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เช่น ภาคการส่งออก รวมถึงภาคการท่องเที่ยว และอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยมีความสัมพันธ์ไปทางเดียวกับวัฎจักรเศรษฐกิจโลกมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย ทำให้การเติบโตมีโอกาสเร่งขึ้นได้ในระยะปานกลาง รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่ล่าช้าไปในช่วงไตรมาสแรกของปี จะกลับมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกในช่วงครึ่งหลังของปี

💰4. แรงกระตุ้นจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

คาดว่าธปท.จะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญของตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมักมีผลตอบแทนเป็นบวกในช่วงวัฎจักรขาลงของดอกเบี้ย

โดยประเมินเป้าหมายดัชนี SET ณ สิ้นปี 2024 ที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10% จากระดับปัจจุบัน และคาดหวังว่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในปีต่อไปเมื่อกำไรเริ่มปรับเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน

📈 5 คำแนะนำการลงทุน จาก บล.เกียรตินาคินภัทร

1. เลือกหุ้นที่กำไรในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่ากำไรในอดีต
2. หุ้นที่ได้ประโยชน์สูงจากการลดอัตราดอกเบี้ย
3. หุ้นที่มีอัตราการถือของนักลงทุนต่างชาติในระดับต่ำ
4. เลือหุ้นที่อยู่อันดับต้นๆ ของการประเมินมูลค่าตาม valuation scorecard ของ บล.เกียรตินาคินภัทร
5. เป็นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากเทรนด์การลงทุนรถไฟฟ้า EV โดยหุ้น large และ mid-cap ที่เลือกคือ CPALL, SCB, MINT, TOP, AWC และหุ้น small-cap คือ WHA, OSP, PLANB, SPALI, DIF

📈 ความเสี่ยงในการลงทุนปี 2024

1. การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน
2.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
3. ธปท.ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
4. การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน

เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช