ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เรามักจะเห็นว่ามนุษย์เงินเดือนหลายคนนั้นมีความฝัน อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากจะเป็นเจ้านายตัวเอง อยากใช้ชีวิตได้อิสระตามใจ ไม่ต้องพึ่งใครที่ไหน เพราะชีวิตของเรานั้นมันต้องเดินตามหาความฝัน แม้จะต้องล้มลงคลุกคลานเท่าไร เราก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อให้ได้มันมาจนได้ ใช่ไหมครับ พี่น้อง!!

แต่ทว่า หลายๆคนที่ตัดสินใจกระโดดออกจากงานมาทำตามความฝัน ก็ดันพบว่าโลกแห่งความจริงนั้นมันแตกต่างกับสิ่งที่เราฝันไว้ บางคนผิดหวังกลับไปทำงานประจำ บางคนต้องหยุดล่าฝันเพราะธุรกิจพังพินาศ และมันเป็นสิ่งที่ตอกย้ำสัจธรรมว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จได้ตามที่ฝันไว้

วันนี้ @TAXBugnoms ขอแบ่งปันข้อคิดดีๆ 5 ข้อให้เพื่อนๆพี่ๆน้องลองพิจารณา ก่อนที่จะตัดสินใจว่า ตัวเราพร้อมหรือยังที่จะลาออกจากงานประจำมาทำตามความฝัน เผื่อจะได้ไม่ต้องล้มลุกคลุกคลานโดยที่ไม่จำเป็น เหมือนใครบางคนแถวนี้  TwT

เราทำงานประจำได้ดีแล้วหรือยัง?

อย่าลืมว่าการทำงานประจำในทุกๆวัน คือ การทำงานที่มีคนวางแผนไว้แล้วระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายที่สั่งงานเรา หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แม้ว่าอาจจะมีเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานไม่มากก็น้อย แต่การทำธุรกิจส่วนตัวนั้นเป็นงานที่เราวางแผนด้วยตัวเองล้วนๆ เพราะเราเปลี่ยนสถานะจากลูกจ้างมาเป็นเจ้าของ ดังนั้นถ้างานประจำทุกวันนี้มันเหนื่อย มันยากมันท้อ ขอเตือนว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นเหนื่อยกว่ายิ่งนัก หากยังทำงานประจำได้ไม่ดี อย่าหวังว่าธุรกิจจะไปรอด

ลองเปรียบเทียบความหวัง ความฝัน และความจริง

ก่อนอื่นคงต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่า...
ความฝัน คือ สิ่งที่เราคิดว่าต้องไปให้ถึง
ความหวัง คือ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ไปถึงฝัน
แต่... ความจริง คือ สิ่งที่เราต้องลงมือทำ

โลกแห่งความฝัน เราอยากจะมีจะเป็นอะไรก็ได้ แต่เมื่อลงมือทำในโลกแห่งความจริงแล้ว เรามักจะหมดหวัง เพราะไม่เห็นเหมือนฝันเลยอ๊ะดิ ดังนั้นคำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนตัดสินใจคือ เราแยกแยะมันออกหรือยังว่า เราต้องการจะทำอะไรกันแน่!

หลายๆคนที่อยากจะออกจากงาน มีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่กลับยังไม่รู้ว่าตัวเองควรทำธุรกิจอะไร? บางครั้งถามกลับ @TAXBugnoms ด้วยว่า "แล้วหนูควรทำธุรกิจอะไรดี" บางคนก็ดันตัดสินใจเร็ว ลาออกจากงานไปตายเอาดาบหน้า ทีนี้พอออกจากงานมาก็เคว้งคว้างซะงั้น

ดังนั้น ถ้าหากยังแยกไม่ออกว่า อะไรคือ ความฝัน ความหวัง ความจริง แนะนำว่าควรอยู่นิ่งๆกับตัวเอง เพื่อใช้เวลาคิดตัดสินใจให้ดีเสียก่อน

อย่าอิงกระแส แต่จงค้นหาตัวเองให้เจอ

การทำอะไรตามกระแสนั้นอยู่ได้ไม่นานก็เบื่อ แต่การทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองนั้น รับประกันได้เลยว่าอยู่รอดตลอดไป เพราะงานที่เรารักนั้นคืองานที่เราอดทนทำมันได้ตลอดชีวิต ดังนั้นถ้าหากเราคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำนั้นเป็นแค่เพียงกระแส แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า มันจะรองรับชีวิตที่เหลืออยู่ในอนาคตได้ล่ะครับ?

อย่าละเมอว่าธุรกิจเป็นเรื่องง่ายๆ

ธุรกิจที่ง่ายทีสุด คือธุรกิจที่เลิกกิจการไปแล้ว...
ถ้าหากใครยังเป็นมนุษย์เงินเดือน ลองสังเกตดูครับว่าการทำธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การหาลูกค้า การติดต่อเจ้าหนี้ การขอกู้เงินธนาคาร การดูแลลูกน้อง การบริหารจัดอื่นๆ รวมถึงรายละเอียดอีกมากมายที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้เพียงแค่ในตำรา

รู้ไหมครับว่า 9 ใน 10 ของธุรกิจมักปิดกิจการลงใน 5 ปีแรก และ 9 ใน 10 ของธุรกิจที่รอดมาจาก 5 ปีแรก ก็มักปิดกิจการลงใน 5 ปีถัดมา นั่นแปลว่ามีเพียงแค่ 1% ของธุรกิจเท่านั้นที่อยู่รอดได้ตลอด ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ควรเริ่มต้นจากการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ เพราะว่ามันอาจจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

ระวังตกม้าตายถ้าไม่ได้วางแผนการเงิน!

เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน สิ่งที่เราได้รับคือ "รายได้" แต่เมื่อเป็นเจ้าของที่ธุรกิจ สิ่งที่เราได้รับคือ "รายได้" แต่สิ่งที่เราต้องการ คือ "กำไร" ดังนั้นถ้าหากคุณไม่มีการวางแผนการเงินที่ดีสำหรับธุรกิจ ต่อให้มีรายได้มากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีกำไรมันก็ไร้ประโยชน์

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของบัญชี ภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านการเงินของธุรกิจ ถ้าเรายังไม่หัดเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้บ้างแล้วล่ะก็ อย่าเรียกตัวเองว่าพร้อมที่จะทำธุรกิจ

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของ เงินทุนหมุนเวียนในตอนเริ่มต้น เนื่องจากเราต้องใช้เงินในการทำธุรกิจรวมถึงใช้จ่ายส่วนตัวไปพร้อมๆกัน ดังนั้นหากเกิดปัญหาด้านการเงินขึ้นขึ้นมา รับรองได้ว่าธุรกิจที่สร้างใหม่นั้นพร้อมจะล่มสลายในพริบตาเดียว

สุดท้ายนี้ ความฝันในการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องแปลก และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จ อย่างที่เราเห็นได้ทั่วไป แต่มันคงจะแปลกมากหากเรามีความฝันทั้งๆที่ยังไม่เคยเตรียมพร้อมอะไรสำหรับโลกแห่งความจริง ใช่ไหมครับ :)