GURU aomMONEY อย่าง ‘ถนอม เกตุเอม’ หรือ ‘พรี่หนอม’ (#TaxBugnoms) ได้ออกหนังสือเล่มใหม่ ที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า “ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนั้น วันนี้สบายไปแล้ว” ซึ่งเปิดตัวไปในงานหนังสือเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
พรี่หนอมเริ่มเล่าที่มาของหนังสือเล่มนี้ว่า วันหนึ่งพี่กอล์ฟ ‘อนุรักษ์ ซาเสียง’ นักเขียนและบรรณาธิการสำนักพิมพ์ #DOT สนใจเรื่องราวประสบการณ์การทำงานอันโลดโผนของพรี่หนอม เลยอยากให้เขียนหนังสือในคอนเซปต์ที่ว่า “หากต้องแนะนำคนรุ่นใหม่อยากบอกอะไร?”
ซึ่งพรี่หนอมคิดว่า สิ่งที่ควรแนะนำคนรุ่นใหม่ คือ “วิธีการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดและการเพิ่มความรู้การเงิน” หากคนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้เคล็ดลับบางอย่างจากประสบการณ์ของพรี่หนอม (ซึ่งก็ย้ำว่าอาจใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน) แต่ก็น่าจะย่นเวลาในการเรียนรู้ได้มากหากทำความเข้าใจ ทั้งเรื่องการเริ่มออมให้ไว, การไม่เป็นหนี้, ทัศนคติในการทำงาน, อยากลาออกต้องทำอย่างไร ไปจนถึงการเตรียมพร้อมในวันที่ต้องผจญความเสี่ยงกับการเป็นฟรีแลนซ์
“เราเริ่มคุยกับพี่กอล์ฟตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2565 กว่าจะลงตัว หนังสือก็ได้มาออกต้นปี 2566 รวมเวลาก็เกือบปี... แต่เริ่มเขียนจริงจังก็เมื่อมกราคมปี 2566 นี่เอง”
พรี่หนอมเล่าแบบกวน ๆ ตามสไตล์ของตัวเอง

เกี่ยวกับหนังสือ 'ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนั้น วันนี้สบายไปแล้ว'
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนั้น วันนี้สบายไปแล้ว” เพราะเนื้อหาจะเป็นเรื่องที่คิดว่า ถ้า (พรี่หนอม) รู้ก่อนคงไม่ต้องวนหาทางเดินในบางช่วง ตัดสินใจผิดพลาดในบางหน และรู้สึกอับจนหนทางในบางเวลา จึงกลั่นประสบการณ์ออกมาเพื่อบอกเล่า แนะนำ และเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้อาจช่วยคนรุ่นใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์และยังไม่ได้เริ่มเรียนรู้เรื่องการเงิน
“เราว่าคนไม่สนใจเรื่องการเงินเพราะเขาคิดว่าแค่ทำอย่างไรให้มีเงินเยอะก็พอ ปัญหาอะไรเข้ามา ถ้ามีรายได้มากพอเมื่อไหร่เดี๋ยวปัญหาก็จบเอง แต่จริง ๆ แล้วความรู้เรื่องการเงินคือการจัดการภาพรวมทั้งหมดของการใช้ชีวิต ทุกเป้าหมายที่สำคัญล้วนแล้วแต่มีเงินเป็นองค์ประกอบเสมอ ปัญหาการเงินไม่ใช่แค่การบวกลบเลข แต่มันมีส่วนที่เรียกว่าชีวิต บางคนมีข้อจำกัดที่คนอื่นไม่เข้าใจ ดังนั้นการมีความรู้เรื่องการเงินก็จะช่วยให้เราสามารถบริหารชีวิต และพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ด้วย”
นอกจากเรื่องการเงินแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็ให้น้ำหนักเรื่องการใช้ชีวิต และการทำงานของมนุษย์เงินเดือนด้วย ทั้งการทำความเข้าใจว่า งานไม่ใช่คุณค่าเดียวของชีวิต สุขภาพจิตของคนทำงานก็ต้องดูแล การเพิ่มทักษะด้านต่าง ๆ แนะนำวิธีหารายได้เสริม โดยหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ
1 การจัดการการเงินของมนุษย์เงินเดือน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่พึ่งเริ่มทำงาน
2 การสร้างรายได้ การออม วางแผนการใช้เงินจนถึงการเกษียณ
3 การป้องกันความเสี่ยง รูปแบบของประกัน และการตัดสินใจลาออกต้องวางแผนอย่างไรบ้าง
4 การจัดการเรื่องภาษี และบทสรุปชีวิตการทำงานตลอด 15 ปี ของพรี่หนอม
เมื่อถามว่า ใน 4 ส่วนนี้ ส่วนไหนสำคัญที่สุด พรี่หนอมยิ้มปากกว้างแล้วบอกว่า “จริง ๆ ตอนเขียนไม่ได้แบ่งพาร์ตอะไรหรอก แต่เขาบอกให้แบ่งเราก็แบ่ง เราว่าสำคัญหมดแหละ เพราะถ้าไม่สำคัญพี่เขาก็ตัดออก”

คำแนะนำของพรี่หนอมเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน
แม้ว่าหนังสือเล่มนี้เน้นหนักไปที่มนุษย์เงินเดือน แต่เมื่อถามพรี่หนอมว่า พอจะมีคำแนะนำอะไรให้ฟรีแลนซ์บ้างไหม TaxBugnoms ก็บอกว่า “ตอนนี้เราก็เป็นฟรีแลนซ์นะ เป็นมา 5 ปีแล้ว ยังไม่มีทางรักษา (ไม่ใช่สิ!!)”
หลังหยอดมุกไปหนึ่งฮา พรี่หนอมก็เล่าวิธีการเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพของตนเองว่า ก่อนอื่นต้องรู้ว่าเป้าหมายจริง ๆ ของเราคืออะไร กำหนดอนาคตให้ชัด พิจารณาว่างานที่ทำอยู่ผลักดันให้ไปถึงตรงนั้นได้ไหม ถ้าไม่ได้ต้องทำอย่างไร กำหนดแผนการทำงาน ทบทวนไปเรื่อย ๆ ปรับเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เตรียมพร้อมรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด
ที่สำคัญต้องมีเงินสำรองฉุกเฉิน ออมเพื่อได้สิทธิทางภาษีให้เต็ม จากนั้นจึงค่อยออมตามเป้าหมาย ที่สำคัญ อย่าลืมยื่นภาษี ไม่ว่าจะทำงานฟรีแลนซ์หรืองานแบบไหนก็ต้องยื่น อย่ากังวล อย่ากลัว ยิ่งช้า ยิ่งไม่ได้ทำ ต่อให้ยื่นแล้วมีปัญหา ก็ยังดีกว่าไม่ได้ยื่นแล้วเจอย้อนหลัง #อันนั้นหนักกว่า พรี่หนอมย้ำด้วยความเป็นห่วงว่า
“ภาษีเป็นเรื่องกฎหมาย ทำผิดถูกตรวจเจอก็แก้ไขกันไป แต่ถ้าไม่ทำอะไร มีแต่จะโดนเยอะขึ้นถ้าโดนเจ้าหน้าที่ตรวจย้อนหลัง”
อยากแนะนำอะไรเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้อีกไหม คำถามสุดท้ายที่ส่งให้พรี่หนอม กูรูภาษีทำท่าคิดอยู่สักพักแล้วตอบสั้น ๆ ว่า “ฝากด้วยครับ ซื้อเถอะครับ ขอบคุณมากครับผม” พรี่หนอมย้ำอีกครั้งว่าอยากให้อ่านจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหน ก็น่าจะได้ความรู้ไปปรับใช้ไม่มากก็น้อย
จากนั้นเราก็ลาแยกย้ายกันไป
พอมีเวลาว่าก็หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านจนจบ พบว่าบางส่วนในหนังสือเป็นประสบการณ์ชีวิต ที่ทั้งจริง ทั้งเจ็บ ทั้งจุก บางส่วนก็ซึ้งเศร้าน้ำตาซึม ซึ่งบอกได้ว่าเลยว่าครบรส และที่สำคัญลีลาการเล่าเรื่องนั้นช่างกวนประสาทตามประสา ใช้สำนวนเฮาฮา จิกกัดแสบคันเอาเรื่องเลยทีเดียว เป็นหนังสือที่ถอดบทเรียนสำคัญในชีวิตที่พลาดไป อยากเล่าให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ ตามสไตล์ที่แฟนคลับคุ้นเคยในแบบ
“ถนอม เกตุเอม”
เขียนและเรียบเรียงโดย อติพงษ์ ศรนารา
สนใจสอบถามหนังสือได้ที่ Facebook สนพ. DOT