เมื่อวันก่อน @TAXBugnoms เขียนเรื่อง "การออกจากงานประจำมาทำธุรกิจแล้ว" วันนี้ขอลองเขียนมุมมองสำหรับคนทำธุรกิจส่วนตัวบ้างว่า เราจะทำธุรกิจอย่างไรให้มีความสุขกันดีหนอออออ

จากประสบการณ์ส่วนตัวและบรรดามิตรสหายหลายๆท่านอยู่ในวงการธุรกิจส่วนตัวทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่างได้ลงความเห็นแล้วว่า เคล็ดลับการเป็นเจ้าของธุรกิจให้มีความสุขนั้น แบ่งออกเป็น 5 ข้อง่ายๆสั้นๆดังนี้ครับ

ข้อแรก แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

คำว่า "น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก" นั้นถือว่าเป็นแนวคิดสำคัญในการทำธุรกิจส่วนตัวลำดับแรก เพราะไม่ว่าชีวิตเราจะมีปัญหาแค่ไหน เกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม น้ำท่วม ไฟใหม้ น้ำร้อนลวก กระซวกพ่อตา ด่าแม่ยาย รถหาย ฯลฯ ก็ตาม แต่งานของเรานั้นต้องดำเนินต่อไป เพราะธุรกิจคือสิ่งที่ทำให้เรามีรายได้มาเลี้ยงตัวเอง ใช่ไหมล่ะคร้าบบบบ

ก่อนอื่นเราควรที่จะสงบจิตสงบใจไว้ให้ดีก่อนที่จะทำธุรกิจ ไม่ว่าปัญหาอะไร จงโยนมันทิ้งไปก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน โดยเฉพาะคนที่มีลูกน้อง เราต้องไม่ลืมว่าลูกน้องไม่ใช่เครื่องรองรับอารมณ์ของเรา เช่นเดียวกันกับที่เราไม่อยากเป็นคนรองรับอารมณ์ของลูกค้า ยังไงก็คิดถึงใจเขาใจเราบ้างนะคร้าบบ

ข้อสอง อย่าปวดหัวกับลูกน้องจนเกินเหตุ

เมื่อพูดถึงลูกน้องไปแล้ว ขอเล่าต่อเลยว่า ลูกน้องที่ดีนั้นทำกำไรให้กับกิจการได้อย่างมหาศาล แต่ถ้าเจ้านายไม่ดีต่อให้ลูกน้องดีแค่ไหนทนไม่ไหวหรอกขอรับ ดังนั้นเรื่องบางเรื่อง เราอาจจะต้อง "หลับตาหนึ่งข้าง" ปล่อยให้ทั้งตัวเราเองและลูกน้องค่อยๆปรับตัวกันไป อะไรแก้ได้ก็ค่อยๆเริ่มไปทีละนิด แต่อย่าคิดว่าทุกอย่างต้องเพอร์เฟค เพราะมันเป็นไปไม่ได้ในโลกของธุรกิจ

เช่นเดียวกัน ถ้าลูกน้องคนไหนดูแล้วไม่ไหวด้วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ต้องทนทะเลาะกันต่อไปนะคร้าบบบ ตัวใครตัวมันโลด

ข้อสาม อย่าปฏิเสธโอกาสขยายการลงทุน

คนหลายคนที่ผิดพลาดกับธุรกิจ เพราะมองไม่ออกว่าสิ่งไหนเรียกว่า "โอกาส" สิ่งไหนเรียกว่า "วิกฤต" บางคนมีความคิดว่าการขยายการลงทุนนั้น เป็นการสร้างหนี้บ้าง เป็นการเหนื่อยเปล่าบ้าง แต่ทุกๆธุรกิจนั้น ย่อมต้องมีการเติบโตมิเช่นนั้นก็รอวันตาย ดังนั้นในบางจังหวะ หากมีการขยายการลงทุนได้ จงอย่าละเลยโอกาสนั้น เพราะมันอาจจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้เราอีกหลายๆเท่ากันเลยทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมพิจารณาความเสี่ยงให้ดีก่อนด้วยนะครับ

ข้อสี่ หมุนเงินให้พอดีอย่ามีหนี้สิน

หนี้สินที่ดี ย่อมสร้างให้มีการขยายกิจการและเพิ่มรายได้ แต่หนี้สินบางอย่างของคนทำธุรกิจอาจจะไม่จำเป็น เช่น ออฟฟิศหรูย่านใจกลางเมือง หรือพนักงานหลักสิบคนแต่ทำหน้าที่ซ้ำๆกัน หันไปเอ้า!! ผู้บริหารขับรถหรูอีกด้วย รายจ่ายเหล่านี้อาจจะสร้างหนี้สินให้กิจการของเราโดยไม่จำเป็น ต้องเลือกพิจารณาให้ดี เช่นเดียวกันกับการบริหารการเงิน

โดยตัวของคนทำธุรกิจเองนั้น จำเป็นอย่างมากที่ต้องรู้บัญชีและภาษี และที่สำคัญต้องรู้ดีเรื่องการเงินของกิจการให้มากๆครับ เพราะจากประสบการณ์จริง มีเจ้าของกิจการบางคนต้องล้มละลายโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะคำว่า "ไม่รู้เรื่องการเงิน" นี่แหละ

ข้อห้า กินอาหารให้เป็นเวลา อย่าลืมออกกำลังกาย

ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตของเรานั้นไม่ใช่มีเพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังมีหน้าที่ต้องสร้างความสมบูรณ์ให้ครบรอบด้านเพราะว่าชีวิตคนเรานั้นไม่ได้มีเพียงด้านใดด้านหนึ่ง และด้านที่สำคัญที่จะทำให้เรามีแรงทำงาน นั้นคือด้านสุขภาพนั่นเอง ถ้าสุขภาพไม่ดีทำงานให้ตายยังไงก็ไม่ไหว แถมยังต้องไปใช้เงินในโรงพยาบาลอีกด้วยน่ะคร้าบ

อย่าละเลย ใส่ใจทั้งด้านอาหาร ออกกำลังกาย และเมื่อกายเราพร้อม ใจเราก็พร้อมลุยต่อทำธุรกิจกันต่อปายยยยยยยยยย

สุดท้ายนี้ อย่าลืมนะครับว่า "Work Life Balance"สามอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน มันถึงจะเรียกว่าได้ว่า "ชีวิตที่สมบูรณ์":)