[ออกตัวตรงนี้ก่อนเลยว่านี่ไม่ใช่สปอนเซอร์โพสต์ สิ่งที่จะแชร์ต่อจากนี้คือประสบการณ์ใช้งานจริงและคิดว่าเป็นประโยชน์ จึงนำมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนครับ]

เมื่อประมาณครึ่งปีก่อนผมมีปัญหากับเรื่องการจัดการเงินพอสมควร ไม่ใช่ว่าไม่มีรายได้ แต่ทำไมเงินที่เข้ามาถึงเหมือนจะไม่พอกับรายจ่ายในทุก ๆ เดือนเลย ซึ่งเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและอยากหาทางออกกับชีวิตตรงนี้มาก

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ผมไม่เคยทำเรื่องการติดตามเงินเข้าเงินออก ไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นมนุษย์ขี้เกียจคนหนึ่งที่รู้คร่าว ๆ ว่าเออ...เงินเข้า เออ...เงินออก จบแค่นั้น โชคยังดีที่ยังแบ่งเงินไปลงทุนก่อนแล้วที่เหลือค่อยใช้ ไม่งั้นตอนนี้คงมีปัญหามากกว่านี้

เมื่อก่อนจะเป็นแบบนี้ครับ เงินเข้าปุ๊บผมแบ่ง 20% ไป DCA หุ้นบัญชีลูกและบัญชีตัวเอง ส่วนที่เหลือ 80% ก็เอาไว้ใช้จ่ายแต่ละเดือน จบง่าย ๆ แค่นั้น

ปัญหาคือเจ้า 80% ตรงนั้นแหละ บางเดือนก็เหลือ บางเดือนก็ขาด บางทีจะไปเที่ยวเอ๊ะเงินหายไปไหนหมด บางทีรถต้องซ่อม อ้าว...ต้องรอเงินเข้าสิ้นเดือน บางทีต้องจ่ายค่าประกันชีวิต อ้าวว...เงินช็อตอีก คือเป็นแบบนี้ตลอด

จนกระทั่งได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการบริหารเงินส่วนบุคคลมากขึ้น รู้ว่าอ่อ...ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายนะ แบ่งเงินเป็นสัดส่วน สูตรง่าย ๆ ก็ 50/30/20 เลย

สมมุติเงินเข้า 100 บาท

50 - เอาใช้ส่วนจำเป็น (ค่าเช่าบ้าน, เช่ารถ, อินเตอร์เน็ต ฯลฯ)
30 - ของที่อยากได้ (กินข้าวนอกบ้าน, ดูหนัง ฯลฯ)
20 - ลงทุน (กระจายความเสี่ยงแล้วแต่ว่าถนัดแบบไหน แต่เป็นลงทุนระยะยาว ไม่เบิก ไม่ใช้)

สูตรมันไม่ยากครับ ปกติผมแบ่ง 20% ไปซื้อหุ้นทุกเดือน อันนี้สบายอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเจ้า 80% ที่เป็นส่วนจำเป็นและส่วนที่อยากได้นี่แหละที่บริหารไม่ได้ เพราะเจ้า 80% ตรงนี้ต้องแยกอีกว่ามันเป็นเงินที่ต้องใช้ตอนนี้หรือเงินที่ต้องใช้ในอนาคต เพราะไม่งั้นมันก็จะขาด ๆ เกิน ๆ ไปทุกเดือนอีกนั่นแหละ เพราะเงินก้อนนี้พอมันอยู่รวมกันในบัญชีเดียวมันเป็นก้อนใหญ่แล้วบางทีก็ใช้ไปเรื่อย ๆ ไม่ทันดู สุดท้ายไม่เหลือเก็บ

จนกระทั่งวันหนึ่งได้มาเจอกับแอปฯ Make ของ Kbank ซึ่งฟีเจอร์เดียวที่ผมสนใจคือ Cloud Pockets ที่เหมือนแยกกระเป๋าเงินให้เราได้นั่นแหละ คิดว่ามันน่าจะตอบโจทย์ปัญหาชีวิตของตัวเองที่กำลังเผชิญอยู่ ก็เลยลองเปิดบัญชี จำได้ว่าขั้นตอนไม่ยากเท่าไหร่ (เดี๋ยวใส่ลิ้งก์ไว้ข้างล่าง)

เปิดออนไลน์แล้วก็ใช้ได้เลย ไม่ได้ดูสิทธิ์ประโยชน์อื่นๆ ด้วย เพราะไม่ได้สนใจเรื่องดอกเบี้ยอะไรขนาดนั้น รู้สึกว่าดอกเบี้ยธนาคาร 1.5% หรือ 2% อะไรแบบนี้มันค่อนข้างหยุมหยิม อยากได้ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ชีวิตที่ใหญ่กว่านั้น ถ้าได้ดอกเบี้ยสูงด้วยก็ถือว่าเป็นโบนัสไปละกัน

หลังจากเปิดบัญชี ก็เข้ามาสร้างกระเป๋าตังค์ของตัวเอง เป็นส่วน ๆ ผมแบ่งย่อยเป็นแบบนี้เลย (บางคนอาจจะใช้สูตร 6 กระปุกก็ได้แล้วแต่ความชอบเลยครับ หรือ จะแบ่งย่อย แบ่งน้อย ยังไงก็ตามความจำเป็นของแต่ละคน)

- ค่าใช้จ่ายประจำวัน (xx บาท/เดือน)
- ค่าอินเทอร์เน็ตมือถือรายเดือน (xx บาท/เดือน)
- ค่าหนังสือ (xx บาท/เดือน)
- ค่าอาหารหมา (xx บาท/เดือน)
- ค่าใช้จ่ายในบ้าน ซื้อของเข้าบ้าน (xx บาท/เดือน)
- ค่าน้ำมันรถ (xx บาท/เดือน)
- ค่าประกันชีวิตภรรยา (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าเทอมลูก (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าประกันชีวิตลูก (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าประกันชีวิตตัวเอง (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าประกันรถยนต์ (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าซ่อมรถยนต์ (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าเดินทางท่องเที่ยว (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าของขวัญวันเกิดตัวเอง/ภรรยา/ลูก (เก็บเดือนละ xx บาท)
- ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน 6 เดือน (เก็บเดือนละ xx บาท)
- เงินที่เหลือ

แต่ละกระเป๋าก็เขียนกำกับไว้เลยว่าใช้ได้เท่าไหร่ ส่วนกระเป๋าที่เป็นเงินต้องใช้ในอนาคตก็เขียนกำกับว่าต้องเก็บเดือนเท่าไหร่ ทีนี้ชีวิตสะดวกมาก อารมณ์มันจะเหมือนกับเทคนิคการเก็บเงินใส่ซอง (Cash Stuffing) แต่เป็นรูปแบบดิจิทัลไม่ต้องหิ้วซองเงินสดไปทุกที่

สมมุติเงินผมเข้า 50,000 บาท ก็แยกไปเลย 20% ไปลงทุน ส่วนที่เหลือก็แยกไปตามกระเป๋า ไปยังส่วนที่จำเป็นก่อน (ค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่ากิน ค่ากาแฟ ค่าน้ำมันรถ ค่าเทอม ประกัน) แล้วที่เหลือค่อยไปยังส่วนที่อยากได้ (ค่าเดือนทาง ค่าของขวัญ ฯลฯ) ถ้าเหลือก็ไปเก็บในกระเป๋า ‘เงินที่เหลือ’

ทีนี้การใช้งานที่ผ่านมาครึ่งปี ชีวิตดีขึ้นมาก คือมันเป็นวิธีจัดการบริหารเงินที่รู้สึกเป็นระบบระเบียบ แม้ตอนแรกเราแบ่ง 50/30/20 ซึ่งก็ดูเป็นระเบียบดีแล้ว แต่ปัญหาคือก้อน 50/30 นี่แหละที่มักจัดการได้ไม่ดีและทำให้เราเงินช็อตอยู่บ่อย ๆ เพราะฉะนั้นทุกต้นเดือน พอเงินเข้าก็ทำแค่ครั้งเดียว ไม่เกิน 30 นาที แล้วชีวิตที่เหลือทั้งเดือนก็ไม่ต้องห่วงอีกต่อไปว่าเงินยังเหลือไหม ใช้เกินไปรึเปล่า ใช้ตรงไหนไปแล้วบ้าง ฯลฯ

คำแนะนำอีกอย่างคือถ้าใช้บัตรเครดิตเพื่อจ่ายเงินในบางครั้งที่จำเป็น (อย่างไปกินข้าวนอกบ้านแล้วมันมีโปรบัตรเครดิตลด 10%) ก็ให้รีบโอนเงินจากกระเป๋านั้นคืนเข้าบัตรเครดิตทันทีเลย อย่ารอจนสิ้นเดือนไม่งั้นเงินอาจจะช็อตได้

ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ อย่างที่กล่าวข้างต้น นี่ไม่ใช่สปอนเซอร์โพสต์ ไม่รู้ว่าสิทธิ์พิเศษต่าง ๆ ของเจ้าแอปฯตัวนี้คืออะไร ผมใช้แค่ฟีเจอร์เดียวแล้วมันช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น แค่นี้มันก็ดีมาก ๆ แล้วสำหรับผม อาจจะมีแอปฯ อื่น ๆ ในตลาดแต่ส่วนตัวยังไม่เคยลองใช้เพราะฉะนั้นไม่สามารถกล่าวอ้างอิงถึงได้ ยังไงถ้าใครมีประสบการณ์อยากแชร์ก็สามารถคอมเมนต์แบ่งปันกันได้เช่นกันครับผม