เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ผมได้รับเชิญไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) หรือเราเรียกกันสั้นๆว่า AIAIMT (AIA Investment Management Thailand) งานเปิดตัวนี้จัดที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนะครับ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าจับตามองในวงการการลงทุนของประเทศไทยมากเพราะ บลจ.นี้มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารงานกว่า 8.47 แสนล้านบาทแถมในงานก็ยังเจอสื่อและอินฟลูเอนเซอร์วงการการเงินด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับงานนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

การตั้ง AIAIMT ก็ถือเป็นการเดินหน้าอีกก้าวที่สำคัญของ AIA ที่จะมาบริหารจัดการกองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์ Unit Linked ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงเพื่อใช้ในการวางแผนทางการเงิน ป้องกันความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นในยุคดอกเบี้ยต่ำ

ทั้งนี้กรมธรรม์ Unit Linked นั้นก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย ทำให้การเข้ามาของ AIAIMT สร้างการแข่งขันจากการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับตลาดและผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่สุดก็คือผู้บริโภคอย่างเราๆ ทุกคนนะครับ ทั้งนี้ AIA ก็ชูจุดเด่นในเรื่องของค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวมที่ลดลงและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าให้กับลูกค้า

ดร. มาร์ค โคนิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน กลุ่มบริษัทเอไอเอ ได้เล่าให้ฟังว่า “กลุ่มบริษัท AIA เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประสบการณ์ด้านการลงทุนใน 18 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 150 คนจากทุกภูมิภาคของโลก ซึ่ง AIA ได้เห็นศักยภาพในการบริหารสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลของ AIA ประเทศไทย ทั้งในการลงทุนตราสารหนี้ ตราสารทุน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การสนับสนุนด้านทรัพยากรหลายภาคส่วนจากกลุ่มบริษัท AIA

ซึ่งตลอดระยะเวลา 82 ปี AIA ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของประเทศ โดยปัจจุบันกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตในประเทศไทยเป็นของ AIA การเปิดตัว บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท

บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) เป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานและบริหารจัดการการลงทุนทางการเงินมากกว่า 30 ปี บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) จะมุ่งเน้นการดำเนินงานตามนโยบายการลงทุนเพื่อความยั่งยืน และ ประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ซึ่งการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมจะสามารถเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน”

นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดการสินทรัพย์ของ AIA ประเทศไทย และเงินประกันชีวิตควบการลงทุนหรือ Unit Linked เพื่อมอบบริการลงทุนและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ปัจจุบัน บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานกว่า 8.47 แสนล้านบาท พร้อมประสบการณ์กว่า 30 ปีทั้งในตลาดไทยและสากล ซึ่ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะประสานความร่วมมือกับเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มบริษัท AIA ทั่วโลก ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม

การก่อตั้ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จึงเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์จะได้เปิดประตูสู่การลงทุนระดับโลก ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นลงทุนเคียงข้างลูกค้าด้วยการบริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านความชำนาญและประสบการณ์ระดับโลก พร้อมใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและมีความปลอดภัยสูงสุดมาใช้งาน และเพิ่มผลตอบแทนที่ดีขึ้นด้วยการขยายช่องทางในการลงทุนระดับสากล ผ่านเครือข่ายและพันธมิตรที่มีชื่อเสียงยาวนานร่วม 100 ปี เช่น BlackRock, Wellington Management และ Baillie Grifford ซึ่ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะนำเงินลงทุนของลูกค้าไปลงทุนด้วยความใส่ใจเสมือนเป็นเงินลงทุนของเราเอง

AIAIMT ได้มีการจัดตั้งกองทุนรวมจำนวน 9 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุนและกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 4 กองทุน โดยเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งในงานแถลงข่าวได้มีการเปิดตัวแล้ว 5 กองทุนนะครับ ส่วนกองทุนรวมต่างประเทศจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้

สำหรับกองทุนรวมที่เปิดตัวแล้วมีดังนี้ครับ ผมสรุปมาให้เบื้องต้นเป็นตารางนะครับ ซึ่งในเวปไซต์ของทาง AIA ได้มีหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ของทั้ง 5 กองทุนเอาไว้แล้วนะครับ สามารถลองนำไปศึกษาเพิ่มเติมได้

แน่นอนว่ากองทุนที่ทาง AIA นำเสนอนั้นจะต้องซื้อผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน Unit Link ซึ่งเบี้ยประกันส่วนแรกจะนำไปชำระเบี้ยประกันชีวิต และเงินส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนตามสัดส่วนที่เราได้จัดพอร์ตการลงทุนไว้ พอเป็นแบบนี้แล้วผลตอบแทนของ Unit Link อาจจะน้อยกว่าการซื้อกองทุนรวมโดยตรง แต่ประกันในรูปแบบนี้ให้ความคุ้มครองชีวิตหากเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่

AIA ISSARA PLUS : เน้นความคุ้มครองชีวิตและแผนสุขภาพระยะยาว

AIA SMART SELECT : เน้นความคุ้มครองชีวิตและเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ

AIA SMART WEALTH : เน้นสะสมความมั่งคั่งพร้อมคุ้มครองชีวิต

หากใครสนใจวางแผนคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และแผนการเงินตามเป้าหมายต่างๆ ก็ลองสอบถามตัวแทนของ AIA ให้เล่ารายละเอียดในแต่ละผลิตภัณฑ์ได้เลยนะครับ

พิเศษแบบสุดๆ ตอนนี้ทาง AIA เขามีโบนัสพิเศษยามเกษียณ สำหรับลูกค้าของ เอไอเอ อิสระพลัส และ เอไอเอ อิสระ เพรสทีจ พลัส หากเราเข้าเงื่อนไขดังนี้

ผู้เอาประกันอายุครบ 55 ปีขึ้นไป ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์

กรมธรรม์มีผลบังคับใช้อย่างน้อย 10 ปี

มีการชำระเบี้ยประกันหลักเพื่อความคุ้มครอง อย่างน้อย 10 ปี (จ่ายครบทุกงวด)

บริษัทจะมีการจ่ายโบนัสพิเศษยามเกษียณในอัตราร้อยละ 0.45 ต่อปี ซึ่งคำนวณจากมูลค่ารับซื้อคืนของหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อการคุ้มครอง โบนัสนี้จะจ่ายเป็นรายเดือน หลังจากที่เราเข้าเงื่อนไขครบทุกข้อ โบนัสนี้จะจ่ายในวันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากเดือนไหนไม่มีวันที่ระบุไว้จะใช้วันสุดท้ายของเดือนในการคำนวณ

ทั้งนี้บริษัทจะนำโบนัสพิเศษยามเกษียณไปซื้อหน่วยลงทุนตามการจัดสรรการลงทุนครั้งล่าสุดที่ราคาขายหน่วยลงทุน ณ วันที่ประเมินราคาหลังจากการครบรอบเดือนของกรมธรรม์ หากเราคิดเป็นต่อเดือนก็คือเอา อัตราโบนัสพิเศษยามเกษียณมาหาร 12 เดือนครับ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นของกองทุนและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนของ AIA ซึ่งเราสามารถสอบถามตัวแทนประกันชีวิตและศึกษาข้อมูลประกันแบบ Unit Link ด้วยตัวเองเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aia.co.th/th/our-products/unit-link.html หรือโทร  0-2353-8784

วันนี้พี่ต้าร์ขอลาไปก่อน ไว้มีโอกาสได้เดินทางไปร่วมงานอะไรที่สนุกและน่าสนใจ จะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันอีกนะครับ

บทความนี้เป็น Advertorial