CPFGS ทำอะไร?

บริษัทซีพีเอฟ โกลโบล ฟู้ด โซลูชั่น (CPFGS) เป็นบริษัทลูกของบริษัท CPF ที่ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการดำเนินธุรกิจร้านอาหารและขนมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย

หลักๆ คือเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ CPF ภายในประเทศและต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว
หรือ เป็นธุรกิจปลายน้ำของ CPF นั่นเอง

CPFGS แบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ

1. จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในประเทศไทยและในต่างประเทศ
ตอนนี้มีการส่งออกไปยัง 53 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นในไทย 64.4% รองลงมาคือ ยุโรป เอเชีย(ไม่รวมไทย) อเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 22% 8.8% 4.7% ตามลำดับ

2. ธุรกิจร้านอาหาร คือ กิจการห้าดาว (Five Star) ร้านเชสเตอร์ (Chester’s) ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ การให้บริการจัดเลี้ยง และร้านอาหารอื่นๆ ซึ่งมีจำนวน 5,101 แห่งทั่วประเทศไทย

3. ผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้ตราสินค้า Jerhigh และ Jinny

ถ้าจำแนกตามสัดส่วนรายได้ จะแบ่งเป็น

1. ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ มีสัดส่วนรายได้ 58.8%
2. ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป สัดส่วนรายได้ 32.8%
3. ธุรกิจร้านอาหาร สัดส่วนรายได้ 3.9%
4. ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง สัดส่วนรายได้ 1%
5. ผลิตภัณฑ์อื่นๆ สัดส่วนรายได้ 3.5%

(ข้อมูลจากงบการเงิน งวด 6 เดือนสิ้นสุด มิ.ย. 2566)

จุดแข็งที่น่าสนใจ?

ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องช่องทางจำหน่ายที่ค่อนข้างครอบคลุม มีทั้งช่องทาง B2B2C เช่น 7-Eleven
Makro Lotus BicC Tops

B2B เช่น ร้านอาหารในเครือเซ็นทรัล อย่าง เอ็มเคสุกี้
B2C จะเป็นร้านของบริษัทเอง เช่น ห้าดาว เชสเตอร์

และยังมีช่องทางจัดจำหน่ายไปต่างประเทศ เช่น เบอร์เกอร์คิง เคเอฟซี อีกด้วย

ผลประกอบการที่ผ่านมากัน

ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 122,660 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,272 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 138,858 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,646 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 171,938 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,173 ล้านบาท
งวด 6 เดือนปี 2566 83,865 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,502 ล้านบาท

จะเห็นว่าบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ (NPM) มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

2563 1.04%
2564 1.91%
2565 3.59%
งวด 6 เดือน ปี 2566 4.18%

สาเหตุหลักมาจาก ความสามารถในการขึ้นราคาสินค้า และการบริหารต้นทุนขายได้ดีขึ้น
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญอื่นๆ

ROE - ตัวสะท้อนประสิทธิภาพการทำกำไรจากการบริหารเงินทุนของเจ้าของ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ปี 2563 ร้อยละ 37.39
ปี 2564 ร้อยละ 39.55
ปี 2565 ร้อยละ 83.57 และ
งวด 6 เดือน ปี 2566 ร้อยละ 110.10

ROA ตัวสะท้อนเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ปี 2563 ร้อยละ 4.12
ปี 2564 ร้อยละ 8.02
ปี 2565 ร้อยละ 15.90 และ
งวด 6 เดือน ปี 2566 ร้อยละ 16.78

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ

CPFGS มี D/E หรืออัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ปี 2563 ร้อยละ 3.87
ปี 2564 ร้อยละ 4.04
ปี 2565 ร้อยละ 4.33 และ
งวด 6 เดือน ปี 2566 ร้อยละ 7.36

เมื่อเจาะดูจะพบว่า ปี 2565 เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ยืมบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน

ปี 2566 เพิ่มขึ้นจากการลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้น จากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและธุรกรรมปรับโครงสร้างบริษัท

เมื่อเรามาดูหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ก็มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ปี 2563 ร้อยละ 1
ปี 2564 ร้อยละ 0.64
ปี 2565 ร้อยละ 1.20 และ
งวด 6 เดือน ปี 2566 ร้อยละ 2.94

สาเหตุการเพิ่มขึ้นในปี 2565 และ ปี 2566 มาจากสาเหตุเดียวกันกับการเพิ่มขึ้นของ D/E ratio

ในส่วนของ IPO

CPFGS มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนคือ

-ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือ
- ชำระคืนเงินกู้ยืม รวมถึงการลงทุนที่สอดคล้องกับ
กลยุทธ์ และ/หรือ
- ธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

จำนวนหุ้น IPO ที่ออกเสนอขาย เป็นจำนวนไม่เกิน 500,010,000 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว

ภายหลังการ IPO นั้น CPFGS ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CPF

ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามอง แต่สิ่งที่เราเห็นแน่ๆ คือ CPFGS มีรายได้หลักจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ CPF โดยตรง

ถ้าผลิตภัณฑ์ของ CPF เป็นที่นิยม CPFGFS ก็มีโอกาสได้รับผลประโยชน์ด้วย ดังนั้นเราจึงควรติดตาม 2 บริษัทนี้ควบคู่กันไปด้วยนั่นเอง

ส่วนราคา IPO และวันที่จะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก พวกเรานักลงทุนก็คงติดตามกันต่อไป

ปล. บทความนี้ไม่ได้แนะนำให้ลงทุนหรือไม่ลงทุน เป็นเพียงข้อมูลสำหรับการประกอบการตัดสินใจเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจลงทุนควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจทุกครั้ง

เขียนและเรียบเรียงโดย : พัทธนันท์ เตชะเสน (CISA2, Investment Frappe)